เก็บมาฝากสมาชิก

เคล็ดลับเรียนดีจ้า 1. ค้นหาตัวเองให้เจอ ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะการค้นหาตัวเองคือการพูดคุยกับตัวเอง น้องๆ หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าแล้วจะทำได้ยังไง จะบ้ารึป่าว ไม่บ้าหรอก ปกติเราคุยกับคนอื่นๆ กับเพื่อนๆ ได้เป็นชั่วโมง เป็นวัน แต่เรายังไม่เคยคุยกับตัวเองแม้แต่สักนาที มันก็น่าแปลก การพูดคุยกับตัวเองคือ มองกลับมาที่ตัวเอง ถามตัวเองก่อนว่า ชอบอะไร ถนัดอะไร อนาคตอยากเป็นอะไร ไม่มีใครตอบได้หรอก ถ้าไม่ใช่ตัวเราเอง รีบค้นหาตัวเองให้เจอเสียแต่เดี๋ยวนี้ ถ้ามองตัวเองไม่ได้ก็ลองให้เพื่อนๆ คนสนิท ช่วยเป็นกระจกเงาให้ก็ได้ หรือพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ ท่านจะรู้พัฒนาการของลูกดี หาตัวเองให้เจอก่อนว่าชอบอะไร อยากเรียนอะไร อย่าตามใจเพื่อน อย่าว่าตามเพื่อนเด็ดขาด เพราะมันคืออนาคตของเราเองนะ 2. เป็นนักล่าฝัน คนที่มองเห็นอนาคตของตัวเองแล้ว ต้องเป็นนักฝัน ฝันในที่นี้ไม่ใช่ฝันกลางวัน แต่เป็นวันที่มีวันเป็นจริงได้อย่างแน่นอน ฝันอะไรบ้าง ฝันถึงความสำเร็จของตนเองในอนาคต เช่น ฝันเป็นแพทย์ ก็ต้องนึกภาพตัวเองสวมชุดกาวน์อยู่ในโรงพยาบาล การเป็นนักฝัน นี่ใครจะบอกว่าบ้าก็ต้องยอมรับไปเลย เอาไว้วันที่เราฝันเป็นจริงขึ้นมา วันนั้นจะเป็นวันที่เรามีความสุขที่สุดครับ ช่วงเวลานี้ใครจะว่าเราบ้าก็ตาม เราทำเพื่ออนาคตของเราเองอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสนใจใคร อนาคตที่เราใฝ่ฝัน สักวันต้องเป็นของเรา อย่างแน่นอน พี่เชื่อว่าน้องหลายๆ คนทำได้ เมื่อฝันแล้วต้องล่าฝันให้ได้จริงๆ เพื่อนพี่บ๊อบบี้มีคนนึง ตอน ม.4 บอกกับทุกคนว่าจะเรียนแพทย์ เพื่อนๆ หัวเราะเยาะกันทั้งห้อง เพราะอะไรนะเหรอเพราะว่าเพื่อนคนนี้เค้าไม่ตั้งใจเรียนมาตั้งแต่ม.ต้น การเรียนก็ไม่ดี เกรดก็ไม่ดี คะแนนก็ไม่ดี แต่พอขึ้นม.5 เหมือนผีเข้า เปลี่ยนไปคนละคน จากคนที่เคยสนุกสนาน หยอกล้อกับเพื่อน กลายเป็นคนเงียบขรึม วันๆ อ่านแต่หนังสือ เพื่อนไปเล่นด้วยก็บอกว่า กูต้องเป็นแพทย์ว่ะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปเล่นด้วย น้องเชื่อมั๊ย พอจบม.6 เพื่อนคนนี้สอบได้แพทย์จริงๆ ด้วย เพื่อนๆ ก็พลอยดีใจกันทั้งห้อง ทุกคนต่างให้อภัยและเข้าใจที่เพื่อนคนนี้ไม่ได้มาหยอกล้อเล่นกับเพื่อน พอเค้าสอบได้โควต้านะ คราวนี้เหมือนผีออก กลับมาเล่นกับเพื่อนเหมือนเดิม พี่ขอยกตัวอย่างเพื่อนคนนี้ให้เป็นตัวอย่างนักล่าฝัน ให้กับน้องๆ แล้วกันนะ 3. ลงมือทำอย่างจริงจัง น้อง ไม่ว่าเราจะมีความใฝ่ฝันมากมายแค่ไหน ถ้าไม่ลงมือทำอย่างจริงจัง ฝันก็ยังเป็นเพียงแค่ฝันอยู่เหมือนเดิมแหละ อยากจะบอกว่าไม่ว่าน้องจะใฝ่ฝันที่จะเป็นคนเก่ง จะเก่งอะไรก็แล้วแต่ ขอให้ลงมือทำเถอะ อย่ามัวให้ความขี้เกียจเป็นนายเราต่อไปอีกเลย เราเสียเวลากับความขี้เกียจมาพอแล้ว จงคิดอยู่เสมอว่า ขณะที่เรากำลังขี้เกียจ คนอีก 100,000 คน ถ้าเค้าไม่ขี้เกียจ หรือถ้ามีสักแค่ 40,000 คนที่เค้าไม่ขี้เกียจ เราก็ไม่มีที่เรียนแล้วละ เพราะฉะนั้นบอกกับตัวเองเลยครับว่า ขี้เกียจไม่ได้ ต้องลงมือทำแล้วละ ทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้เลย ทำวันนี้เลย ทำทีละนิด ทำความฝันให้เป็นจริงซะที เพื่อตัวเราเองนี่แหละ เพื่อความภาคภูมิใจของพ่อแม่ เพื่ออนาคตที่สดใสในอนาคต เริ่มลงมือทำได้แล้ว อ่านจบบทความนี้ก็ ลงมือทำทันที