กิจกรรมพัฒนาคุณภาพ (CQI)
เรื่อง โครงการพัฒนาระบบการติดตามผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ขอบเขต ผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการขาดนัดเกิน 7 วัน
เป้าหมาย ผู้ป่วยเบาหวานขาดนัดลดลงเหลือ 10 %
เครื่องชี้วัด อัตราขาดนัดในผู้ป่วยเบาหวาน
1. เพื่อผู้ป่วยเบาหวานตระหนักถึงความสำคัญในการรับบริการตามนัด
2. เพื่อผู้ป่วยเบาหวานได้รับยาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดยา
3. ผู้ป่วยเบาหวานได้รับการดูแลภาวะแทรกซ้อนอย่างครอบคลุม
1. ผู้ป่วยเบาหวานขาดยา , ไม่มารับยาตามนัด จาการเก็บข้อมูล เดือน พ.ย. 2547 – เม.ย. 2548 เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีอัตราผู้ป่วยขาดนัดเป็น 18.10 %
2. ไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบติดตามผู้ป่วยเบาหวานให้มารับยาภายในระยะเวลาที่กำหนด
3. ไม่มีระบบงานติดตามผู้ป่วยที่ขาดนัดอย่างชัดเจน
ระยะเวลา 1 พ.ค. 2548 - 31 พ.ค. 2548
ไม่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดำเนินงานชัดเจน , เขียนใบนัดไม่ชัดเจน , ไม่มีการตรวจสอบวันนัด
ในใบนัด , สมุดนัดและ OPD card ว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่
1. ขาดความรู้ ความเข้าใจ และไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการมารับยาตามนัด
2. ผู้ป่วยสูงอายุ ไม่มีญาติ อาจจะต้องรอญาติ เพื่อพามาโรงพยาบาลหรือรอมาโรงพยาบาลกับเพื่อนบ้านข้างเคียง
3. ดูวันนัดไม่ชัดเจน ,ลืมวันนัด
1. ประชุมชี้แจงในหน่วยงาน และมีการมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบงานคลีนิกเบาหวาน
ชัดเจน
2. มีการประชาสัมพันธ์ แจ้งให้ผู้ป่วยทราบเรื่องการมาตรวจตามนัดทุกครั้ง ก่อนแพทย์ออกตรวจตอนเช้าในวันที่มีคลีนิกเบาหวาน ( วันพุธ , ศุกร์ )
3. ตั้งกฎกติการ่วมกับผู้ป่วยในเรื่องการตรวจตามนัดทุกครั้ง เพื่อให้ตระหนักและเน้นความสำคัญคือ
3.1 ค้น OPD card ล่วงหน้าก่อน 1 วัน (ค้นตามบัตรนัด ) เพื่อลดระยะการรอรับบริการ และมีการแจกบัตรคิวที่คลีนิกเบาหวาน
3.2 ผู้ป่วยที่มาตรวจตามนัด ได้รับการตรวจตามลำดับคิวก่อน - หลัง
3.3 ผู้ป่วยที่ไม่มาตรงตามวันนัด จะได้รับการตรวจหลังจากลำดับสุดท้ายของผู้ป่วยมาตาม
นัดสิ้นสุด โดยเรียงลำดับหมายเลขเช่นกัน
ผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะวิกฤตจะได้รับการตรวจก่อนโดยไม่คำนึงถึงลำดับหมายเลขหรือการมาไม่ตรงตามนัด
4. เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบที่จุด Exit care เขียนวัน เดือน ปี ในใบนัดและสมุดสีชมพูให้อ่านออกได้ชัดเจน และเน้นย้ำให้มาตรวจตามนัดทุกราย
- กรณีผู้ป่วยสูงอายุไม่มีญาติ ทบทวนซ้ำโดยอ่านให้ฟังและสอบถามความเข้าใจให้ถูกต้องก่อนไปรับยากลับบ้านทุกราย
- ในกลุ่มผู้ป่วยที่อยู่บ้านใกล้เคียงกันและรอมาโรงพยาบาลพร้อมกัน จะนัดให้มาตรวจในวันเดียวกัน เพื่อความสะดวกและมาตรวจตามนัด
5. กรณีผู้ไม่มาตรวจตามนัดเกินระยะเวลา 7 วัน
( โดยการตรวจ OPD card แล้วว่าผู้ป่วยไม่ได้มารับการบริการเลย )มีการติดต่อประสานงานกับแผนกอื่นดังนี้
ในเขต ต.หนองแสง ส่งรายชื่อผู้ป่วยเบาหวานให้งานส่งเสริมสุขภาพติดตามผู้ป่วย
ตำบลอื่น ส่งรายชื่อผู้ป่วยเบาหวานให้ PCU ดำเนินการติดตามผู้ป่วย
ระยะเวลาดำเนินการ 1 พฤษภาคม 2548 - 31 พฤษภาคม 2548
ผู้ป่วยเบาหวานขาดนัดก่อนดำเนินการ 18.68 %
ผู้ป่วยเบาหวานขาดนัดหลังดำเนินการ 11.49 %
หลังการปรับเปลี่ยนครั้งที่ 1 อัตราผู้ป่วยขาดนัดลดลงเหลือ 11.49 % ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้จึงดำเนินการปรับเปลี่ยนครั้งที่ 2 โดย
การปรับเปลี่ยนที่ 2
1. มีการติดตามผู้ป่วยเบาหวานขาดนัดเกินระยะเวลา 7 วัน โดยส่งไปรษณียบัตรถึงผู้ป่วยโดยตรง
1 มิถุนายน 2548 - 30 มิถุนายน 2548
ผู้ป่วยเบาหวานขาดนัดก่อนดำเนินการ 11.49 %
ผู้ป่วยเบาหวานขาดนัดหลังดำเนินการ 9.05 %
1. ผู้ป่วยเบาหวานที่มารับบริการตามวันนัด ได้รับการตรวจตามลำดับหมายเลข
2. ผู้ป่วยเบาหวานที่มาไม่ตรงตามวันนัด จะได้รับการตรวจหลังจากลำดับสุดท้ายของผู้ป่วยมาตามนัดสิ้นสุด โดยเรียงลำดับหมายเลขเช่นกัน
ยกเว้น ผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะวิกฤตจะได้รับการตรวจก่อนโดยไม่คำนึงถึงลำดับหมายเลขหรือการมาไม่ตรงตามนัด
FBS < 60 mg % มีภาวะ Hypoqlycemia
( ให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหวานหรือนมหวานทันที )
FBS > 350 mg%
BP > 180/100 mmHg
BP < 90/60 mmHg มีภาวะเหงื่อออกตัวเย็น ชีพจรเบา , เร็ว
T > 38.5 C ไข้สูง , หนาวสั่น
· FBS = Hi ส่งผู้ป่วยเข้าห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน,ทันที
คลีนิคเบาหวาน
ชื่อหน่วยงาน OPD(คลินิคหอบหืด)กิจกรรมพัฒนาคุณภาพ (CQI)
เรื่อง โครงการส่งเสริมความรู้โรคหอบหืดในเด็ก
ขอบเขต
ผู้ป่วยโรคหอบหืด อายุแรกเกิด – 6 ปี ที่มารับบริการที่โรงพยาบาลวาปีปทุมให้บริการเวลา 13.00 น. – 16.00 น. ณ. คลินิคพิเศษโรงพยาบาลวาปีปทุม
เป้าหมาย
ญาติ ผู้ป่วยโรคหอบหืดเด็ก ที่มารับบริการมีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตัวเกี่ยวกับโรคหอบหืด และสามารถพ่นยา ได้ถูกต้อง 80%
เครื่องชี้วัด
1. อัตราญาติผู้ป่วยที่มีความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติตัวเกี่ยวกับโรคหอบหืดในเด็ก
2. อัตราการพ่นยาที่ปฏิบัติได้ถูกต้อง
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ญาติมีความรู้ สามารถนำไปปฏิบัติดูแลตนเองที่บ้านได้ถูกต้อง
ข้อมูลก่อนการปรับเปลี่ยน
- ญาติขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการดูแลผู้ป่วยหอบหืด
- ไม่มีคลินิคหอบหืดที่ชัดเจน
- ขาดบุคลากรที่มีความรู้ ความชำนาญเรื่องหอบหืด และรับผิดชอบที่ชัดเจน
ระยะเวลา
1 มกราคม 2549 – 2 มีนาคม 2459
วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
ด้านผู้ป่วย
- ญาติขาดความรู้ ความเข้าใจ และไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคหอบหืดอย่างต่อเนื่อง การตรวจ, การดูแลผู้ป่วยที่บ้าน
การปรับเปลี่ยน
1. มีการจัดตั้งคลินิคหอบหืดในเด็กที่ชัดเจน (ทุกวันพฤหัสบดีที่ 1 ของทุกเดือน) เวลา 13.00 น. – 16.00 น.
2. มีแพทย์รับผิดชอบหอบหืดเด็กโดยตรงคือ แพทย์หญิงรัชนีกร หนูวรรณะ กุมารแพทย์ประจำโรงพยาบาลวาปีปทุม
3. มีพยาบาลที่ผ่านการอบรมรับผิดชอบคลินิคหอบหืดเด็กที่ชัดเจน
4. จัดสถานที่คลินิคหอบหืดเป็นสัดส่วน (บริเวณคลินิคพิเศษเดิม)
5. เตรียมแผ่นพับ เอกสาร จัดบอร์ด บริเวณคลินิคหอบหืดเพื่อให้ความรู้แก่ผู้รับบริการ
6. สอนสุขศึกษารายกลุ่ม และรายย่อยแก่ผู้มารับบริการก่อนแพทย์ออกตรวจ
7. จัดกลุ่มสนทนาผู้ป่วยหอบหืด เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน และสอนสาธิตวิธีพ่นยาในเด็ก
8. สอนวิธีพ่นยาทุกรายที่ได้รับยาพ่นที่จุด Exit care ทุกครั้ง และทบทวนก่อนกลับบ้าน
ก่อนการปรับเปลี่ยน
ข้อมูลเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์ 2549 มีผู้มารับบริการ 56 ราย มีความรู้หลังให้คำแนะนำรายบุคคล 30 รายคิดเป็น 53.57 %
หลังการปรับเปลี่ยน
มีผู้มารับบริการ 33 ราย มีความรู้หลังให้คำแนะนำรายบุคคล 30 ราย คิดเป็น 90.90%
สรุป
ผู้ป่วยหอบหืดหลังได้รับคำแนะนำและส่งเสริมความรู้โรคหอบหืด และพ่นยาถูกต้อง มีความรู้ คิดเป็น 90.90 % จากเป้าหมาย 80% ซึ่งได้จัดให้มีการส่งเสริมความรู้โรคหอบหืดในเด็ก แก่ญาติ เพื่อการดูแลที่ถูกต้องต่อไป
พยาบาลโรงบาลวาปีปทุมที่ชื่อว่าหย๋อมแผนกเด็กชอบแย่งผัวชาวบ้านต้องระวังตัวให้ดีนะหน้าด้านมากกกกกกกกกกกกกกกกก