ผู้รับบริการที่มาขอรับบริการทันตกรรมในโรงพยาบาลวาปีปทุมในเวลาราชการและนอกเวลาราชการ รวมถึงผู้ป่วยที่แพทย์ส่งขอรับคำปรึกษาด้านทันตกรรม
เป้าหมาย1. ผู้รับบริการด้านทันตกรรมได้รับการตรวจคัดกรอง 100%
2. อุบัติการณ์ที่ผู้รับบริการไม่รอรับบริการลดลงไม่เกินร้อยละ 1
เครื่องชี้วัด
1. อัตราผู้ป่วยที่ได้รับการตรวจคัดกรอง
2. จำนวนผู้ป่วยไม่รอรับบริการ ( ผู้ป่วยไม่รอรับบริการโดยที่ไม่พบผู้ป่วย และไม่มีใครทราบว่าเพราะอะไรถึงไม่รอรับบริการ )
วัตถุประสงค์ของกิจกรรมที่ทำ2. เพื่อให้คำแนะนำแนวทางการรักษา ขั้นตอน ค่าใช้จ่ายและทางเลือกในการรักษาทางทันตกรรมแก่ผู้รับบริการ ในการตัดสินใจยินยอมรับการรักษาทางทันตกรรม
3. เพื่อแยกประเภทผู้รับบริการทางทันตกรรมปัญหาเดิมก่อนการปรับเปลี่ยน
ก่อนปีงบประมาณ 2548 ฝ่ายทันตสาธารณสุขให้บริการผู้ป่วยด้านทันตกรรม โดยไม่มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำหน้าห้องทันตกรรม ซึ่งให้ทันตบุคลากรที่ให้บริการเป็นผู้ซักประวัติก่อนให้บริการผู้ป่วยแต่ละราย โดยไม่มีการตรวจวัดความดันโลหิตก่อนการถอนฟัน อาศัยเพียงการซักถามว่าผู้ป่วยมีโรคประจำตัวหรือไม่ จากการดำเนินงานในลักษณะดังกล่าว ทำให้เกิดปัญหาผู้รับบริการไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง บ่อยครั้งที่เปิดประตูคลินิกทันตกรรมเข้าไปซักถามว่าเมื่อไรจะถึงคิว และจะขอปรึกษาก่อนได้หรือไม่เนื่องจากรอนานแล้ว และนอกจากนั้นยังมีผู้ป่วยที่ไม่อยุ่รอรับบริการ
ในคลินิก เนื่องจากไม่มีคนคอยให้คำแนะนำผู้ป่วยหน้าห้องฟัน ผู้รับบริการมาตั้งแต่ 10.00 น. ได้บัตรคิวลำดับที่ 40 รอจนกระทั่ง 11.45 ถึงได้เข้ารับบริการซึ่งหากต้องการผ่าฟันคุด หรือขูดหินปูน ก็จะทำไม่ทัน ผู้รับบริการต้องรอถึง 1 ชั่วโมงกว่าเกือบ 2 ชั่วโมงแต่ไม่ได้ทำหัตถการ และในส่วนการทำหัตถการก็ทำอย่างเร่งรีบเนื่องจากมีผู้รับบริการรออยู่มาก เกิดความเสี่ยงทั้งการถอนฟันแล้วเอาเศษกระดูกออกไม่หมด และการโต้เถียงกับผู้ป่วยเนื่องจากผู้ป่วยรับบริการนานแล้วไม่ได้ทำหัตถการ หรือทำหัตถการถึง 12.30 น. ทำให้ได้ทานอาหารเช้า เริ่มทำงานช่วงบ่ายช้า ผู้รับบริการตอนบ่ายไม่พอใจ
ในส่วนของการทำหัตถการ เป็นการเสี่ยงอย่างยิ่งที่ผู้รับบริการไม่ได้วัดความดันโลหิตและการตรวจคัดกรอง โดยเฉพาะผู้รับบริการที่ต้องการถอนฟันแล้วไม่ทราบว่าความดันสูง หรือต่ำกว่าค่าปกติมาก และนอกจากนั้นยังไม่ได้ทานอาหารเช้าก่อนมาถอนฟันอีกด้วย
นอกจากนี้ในส่วนของการทำหัตถการไม่ได้มีการให้ผู้ป่วยลงชื่อยินยอมรับการรักษาทุกรายซึ่งเสี่ยงต่อการฟ้องร้อง
วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
1 ไม่ตระหนักถึงอันตราย / ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งขณะทำหัตถการและหลังทำหัตถการรวมถึงความเสี่ยงต่อการฟ้องร้องหากไม่ได้รักษาด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากยังไม่เกิดเหตุการณ์
2 ไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการให้คำแนะนำผู้ป่วย รวมถึงการชี้แจงแนวทางการรักษา เพื่อประกอบการตัดสินใจยินยอมรับการรักษาของผู้ป่วย
ระยะเวลา มิย. 48 - กพ.49
ข้อมูลก่อนปรับเปลี่ยน1. ไม่มีจุดตรวดคัดกรอง
2. ไม่มีการวัดความดันโลหิตผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 40 ปี โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องถอนฟัน
3. ผู้รับบริการที่ไม่รอรับบริการโดยไม่ได้พบทันตบุคลากรจาก ต.ค. 47 – พ.ค. 48 ( 8 เดือน )
จำนวน 15 คน จากผู้รับบริการทั้งหมด 516 คน คิดเป็น 2.90%
การปรับเปลี่ยน1. จัดหาโต๊ะเพื่อตั้งจุดตรวจคัดกรองหน้าคลินิกทันตกรรม
2. จัดหาเครื่องวัดความดันโลหิต และตราปั้มทางทันตกรรม
3. อบรมบุคลากรในฝ่ายทุกคนถึงแนวทางการให้บริการผู้ป่วย
4. จัดทำแบบตรวจคัดกรองโดยให้ทันตาภิบาลรับผิดชอบชอบตรวจคัดกรองหน้าคลินิกทันตกรรมในเวลาราชการ ส่วนนอกเวลาราชการให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานกับผู้ป่วยเป็นผู้รับผิดชอบผู้ป่วยตนเองเนื่องจากผู้รับบริการไม่คับคั่ง
5. มีแนวทางการตรวจคัดกรอง (WI-DT-004)
6. มีการจัดเวรรับผิดชอบการตรวจคัดกรองที่ชัดเจน
หลังปรับเปลี่ยน
1. มีจุดตรวจคัดกรอง
2. สามารถตรวจคัดกรองผู้ป่วยได้ 100 % ( ยกเว้นผู้ที่ไม่ได้รอรับบริการโดยไม่ผ่านจุด screen ) โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องการถอนฟันและมีการลงหลักฐานการวัดความดันและชีพจรทุกครั้ง
3. ผู้รับบริการที่ไม่รอรับบริการโดยไม่ได้พบทันตบุคลากรจาก มิ.ย.48 – ม.ค.49 ( 8 เดือน )
จำนวน 4 คน จากผู้รับบริการ 1,160 คน คิดเป็น 0.34%สรุป
การตั้งจุด Screen หน้าคลินิกทันตกรรมสามารถป้องกันปัญหา และความเสี่ยงซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้หลายอย่าง เช่น สามารถคัดกรองผู้รับบริการที่มีโรคประจำตัวหรือโรคแทรกซ้อนได้ก่อนทำหัตถการ แก้ปัญหาผู้ป่วยร้องเรียนเนื่องมาจากการไม่พอใจระบบบริการ หรือการสื่อสารไม่ดี ป้องกันการร้องเรียนที่อาจเกิดจากการให้การรักษา ผู้รับบริการได้รับการประเมินภาวะเสี่ยงก่อนทำหัตถการและสามารถวางแผน / จัดทำ มาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติการณ์กับผู้รับบริการไม่มีความเห็น