หัวเราะ... เรื่องดี ๆ ที่อย่างแบ่งปัน ตอน 2
1. ไม่เป็นผู้วิจารณ์โดยพร่ำเพรื่อหรือขี้บ่นจนเกินเหตุ เช่น ลูก ๆ ต้องการจะไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็บ่นว่าไม่ประหยัดทั้งที่สามารถจะพาลูกไปเที่ยวพักผ่อนได้อย่างไม่เดือดร้อน ทำให้เกิดความเครียดกับลูกได้ แต่ควรทำด้วยวิธีที่สร้างสรรค์กว่าด้วยการบอกว่าน่าจะไปพัทยาเพราะว่าไกล้สะดวกในการเดินทาง เป็นต้น
2. มองเรื่องต่าง ๆ ในแง่มุมที่ขบขัน อย่าถือโทษหรือโกรธอะไรง่าย ๆ เช่นถ้าเดินไปชนหรือสะดุดสิ่งของที่วางไว้ก็ไม่ควรจะเอะอะโวยวายต่อว่าผู้อื่นแต่ควรมองในแง่ "นึกขันตนเอง"
3. มองหาแบบอย่างของที่จะสร้างความรู้สึกขบขัน อย่างเช่น การอ่านหนังสือหรือดูภาพยนต์ตลก ๆ ประเทืองปัญญา เป็นการสร้างอารมณ์สบายใจซึ่งจะเป็นพื้นฐานของอารมณ์ดีทำให้ รู้จักขบขันกับเหตุการณ์ต่าง ๆ
4. ฝึกรอยยิ้มและการหัวเราะ เพราะถ้าใครที่ไม่เคยหัวเราะเลยอาจจะต้องฝึกยิ้ให้สวย ๆกับกระจกก่อนเป็นบทเรียนขั้นต้น
อารมณ์ขันจะทำให้เกิดเสียงหัวเราะ ซึ่งจะส่งผลให้หัวใจเบิกบาน จึงเป็นยาขนานเอกสำหรับทุกคน และเป็นการารักษาไม่ต้องกินยาและไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกจากนี้การหัวเราะยังเป็นการออกกำลังที่ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและการหายใจ เห็นประโยชน์ดี ๆ อย่างนี้แล้ว เรามาเริ่มต้นสร้างเสียงหัวเราะกันเถอะเพือนเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ
ไม่มีความเห็น