การสังคมสงเคราะห์ผู้ป่วยยาเสพติดที่ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์
จินตนา เทพดินินทร์ นักสังคมสงเคราะห์ 6ว.
“การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์” มิใช่ปรากฏการณ์ที่แปลกใหม่ในสังคมไทยและสังคมโลก หากแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นควบคู่กับการดำรงอยู่ของสังคมไทยมาโดยตลอด เพียงแต่ปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่สังคมไทยไม่อาจยอมรับได้ เพราะขัดต่อค่านิยมและวัฒนธรรมที่สังคมมีอยู่ ซึ่งปรากฏการณ์ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ เช่น การทำแท้ง การทอดทิ้งเด็ก การมอบเด็กให้เป็นบุตรบุญธรรม รวมทั้งการขอเข้ารับความช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์ มูลนิธิ ทั้งของภาครัฐและเอกชนที่ช่วยเหลือสตรีที่กำลังประสบกับปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตามการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุใดก็ตาม คนกลุ่มนี้กลับไม่สามารถเข้าถึงหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือ หรือในขณะเดียวกันผู้ที่กำลังประสบกับปัญหาเองก็ขาดความรู้ ความเข้าใจในการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรทางสังคม ไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงดูบุตร ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวตนเอง การถูกตีตราจากสังคม ปัญหาการทอดทิ้งบุตร ถึงแม้ว่าจะรับเลี้ยงบุตรไว้แต่ก็ประสบกับปัญหาการไม่มีวุฒิภาวะในการเป็นมารดาที่จะสามารถเลี้ยงดูบุตรให้มีพัฒนาการตามวัย ทั้งนี้สถาบันธัญญารักษ์ ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะทางที่ให้การดูแล บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด ซึ่งกลุ่มผู้ติดยาเสพติดนี้ก็นับว่าเป็นกลุ่มที่เป็นปัญหาของสังคมในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็มีหญิงที่เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดและต้องประสบกับปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ด้วย
ฉะนั้นนักสังคมสงเคราะห์ จึงมีบทบาทหน้าที่ในการแก้ไขและการป้องกันปัญหาทั้งด้านจิตใจอารมณ์ สังคมและเศรษฐกิจของผู้รับบริการ ตลอดจนส่งเสริม พัฒนาให้ผู้รับบริการสามารถปรับตัวอยู่ในสังคมและชุมชนได้อย่างปกติสุข จึงมีความสำคัญและจำเป็นในการปฏิบัติงานกับผู้ป่วยยาเสพติด จึงต้องมีการดำเนินการแก้ไข บำบัด ป้องกันปัญหา ตลอดจนการฟื้นฟูสมรรถภาพและพัฒนา เพื่อผู้ป่วยเป็นคนที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมและชุมชน
ในส่วนของการบำบัดรักษาผู้ติดยาเพสติด นักสังคมสงเคราะห์จะมีบทบาทหน้าที่ในการปฏิบัติงานกับผู้ป่วยยาเสพติดโดยการนำวิชาการ หลักการ กระบวนการและวิธีการทางสังคมสงเคราะห์มาประยุกต์ใช้กับขั้นตอนต่างๆในการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดดังต่อไปนี้ คือ
การวางแผนให้ความช่วยเหลือ (Planning)
เป็นการแก้ไขปัญหาทางสังคม เศรษฐกิจ จิตใจให้แก่ผู้ป่วยทั้งแบบรายบุคคล และแบบกลุ่มบำบัด เพื่อเป็นการขจัดปัญหาทางสังคม และสามารถทำหน้าที่ทางสังคมได้อย่างเหมาะสม โดยการนำวิธีการทางสังคมสงเคราะห์เฉพาะรายมาดำเนินการคือ
1. การช่วยเหลือทางสังคม (Social Intervention) โดยการประสานและจัดหาทรัพยากรทางสังคมเช่น
- นักสังคมสงเคราะห์สอบถามข้อมูลจากแหล่งทรัพยากรต่างๆ ได้แก่ บ้านเกร็ดตระการ บ้านพักเด็กและครอบครัว เป็นต้น เรื่องเกณฑ์การรับบริการมีเกณฑ์อย่างไรและบริการต่างๆที่จัดให้อย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ป่วยภายหลังการจำหน่ายจากสถาบันธัญญารักษ์
- เมื่อนักสังคมสงเคราะห์ได้รับการประสานงานจากพยาบาลประจำตึกเพื่อวางแผนการพาผู้ป่วยไปฝากครรภ์ นักสังคมสงเคราะห์มีบทบาทในการตรวจสอบข้อมูลสิทธิบัตรทองของผู้ป่วย ประชาสัมพันธ์สิทธิบัตรทองให้แก่ผู้ป่วย เพื่อย้ายสิทธิมาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ซึ่งอยู่ใกล้สถาบันธัญญารักษ์
- ประสานงานกับเทศบาลเมืองรังสิต ในการคัดสำเนารูปหน้าผู้ป่วยและ ทร.14/1 เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการย้ายสิทธิบัตรทองมาที่ รพ.ประชาธิปัตย์
- นำผู้ป่วยไปฝากครรภ์ตามแพทย์นัดที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์
- หากผู้ป่วยตัดสินใจที่จะเข้ารับความช่วยเหลือที่จากแหล่งทรัพยากรทางสังคมที่นักสังคมสงเคราะห์ได้ให้ข้อมูลเพื่อประกอบตัดสินใจ ดังนั้นเมื่อผู้ป่วยอยู่รับการบำบัดรักษาจนครบโปรแกรมแล้ว จึงดำเนินการนำผู้ป่วยไปส่งที่แหล่งทรัพยากรทางสังคมเพื่อรอคลอดบุตรต่อไป
2. ให้คำปรึกษาทางสังคม (Social Counseling)
- ให้คำปรึกษาทั้งรายบุคคล และรายกลุ่ม โดยนักสังคมสงเคราะห์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งทรัพยากรทางสังคม และหากผู้ป่วยไม่ประสงค์ที่เลี้ยงดูบุตร ก็สามารถดำเนินการยกบุตรให้กับหน่วยงานได้
- นักสังคมสงเคราะห์ร่วมวางแผนกับผู้ป่วยในการติดต่อญาติ เพื่อแจ้งให้ญาติทราบถึงการตั้งครรภ์ของผู้ป่วย โดยสอบถามความสมัครใจของผู้ป่วยและความพร้อมที่จะเปิดเผยเรื่องการตั้งครรภ์ให้ญาติทราบ
3. ให้การสนับสนุนทางด้านจิตใจ (Supportive)
เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลต่างๆ ระหว่างอยู่รับการบำบัดรักษา มีการให้ผู้ป่วยได้ระบายความรู้สึกและให้กำลังใจผู้ป่วยในการดูแลครรภ์ต่อไปและการยอมรับการตั้งครรภ์โดยผ่านกระบวนการสังคมสงเคราะห์รายบุคคลและรายกลุ่ม
การฟื้นฟูสมรรถภาพทางสังคม (Social Rehabilitation)
เป็นการพัฒนาศักยภาพทางสังคมให้แก่ผู้ป่วย โดยการให้คำปรึกษาทั้งรายบุคคล และรายกลุ่มโดยผู้ป่วยได้เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มทักษะทางสังคม เพื่อเรียนรู้ความผิดพลาดในชีวิตจากประสบการณ์ของตนเอง และเพื่อทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในจิตใจ และสามารถจัดการกับปัญหาต่างๆได้อย่างเหมาะสม เรียนรู้การใช้ชิวิตอยู่ในสังคมได้โดยไม่รู้สึกแปลกแยกและเป็นส่วนหนึ่งในสังคม ฟื้นฟูการสร้างสัมพันธภาพกับบิดา เพื่อให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจในตัวเอง กับการออกไปใช้ชีวิตอยู่กับสังคมภายนอกสถานบำบัดต่อไปที่สำคัญนักสังคมสงเคราะห์มีบทบาทในการกระตุ้นให้ผู้ป่วยได้ตระหนักถึงการมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม รู้จักการยับยั้งชั่งใจ
การติดตามและการประเมินผล(Follow up and Evaluation)
นักสังคมสงเคราะห์มีการติดตามและประเมินผลการให้บริการผู้ป่วยในแต่ละประเด็นปัญหาที่ให้บริการแก่ผู้ป่วยไป เช่น - การประเมินผลผู้ป่วยหลังจากการเข้ารับคำปรึกษารายกลุ่มและรายบุคคล เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถคลายความวิตกกังวล ไม่มีอาการของภาวะซึมเศร้า สามารถร่วมแสดงความคิดเห็น และให้คำแนะนำเพื่อนสมาชิกในกลุ่มได้ อีกทั้งผู้ป่วยได้ตัดสินใจยอมรับการตั้งครรภ์ต่อไป - ภายหลังการส่งผู้ป่วยเข้ารับความช่วยเหลือจากแหล่งทรัพยากรทางสังคมแล้ว นักสังคมสงเคราะห์ได้ติดตามสอบถามทางโทรศัพท์กับหน่วยงานที่ไปขอรับความช่วยเหลือ ทั้งนี้เนื่องจากช่วงระหว่างการรอคลอดบุตรผู้ป่วยยังต้องอยู่กับภาวะกดดัน บีบคั้น ทางอารมณ์และความรู้สึก เนื่องจากยังต้องตัดสินใจว่าเมื่อคลอดบุตรแล้วจะนำบุตรกลับไปเลี้ยงเอง หรือจะมอบให้แก่สถานสงเคราะห์ต่อไป - นักสังคมสงเคราะห์ไปเยี่ยมผู้ป่วยยังหน่วยงานที่ขอรับความช่วยเหลือ ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ และให้ผู้ป่วยได้ตระหนักถึงความมีคุณค่าของตนเองที่มีต่อบุตรในครรภ์ และต่อครอบครัวต่อไป
ไม่มีความเห็น