ประเพณีการสู่ข้าเอาขวัญของภาคเหนือคือใช้รับขวัญคนป่วย
รับแขกบ้านแขกเมือง สมโภชน์ ใช้ในพิธีบวชนาค พิธีแต่งงาน
ประเพณีทางเหนือนิยมที่จะมีการสู่ขวัญโดยใช้สายสิญจน์วนรอบบายศรีมีหมอขวัญทำพิธีสู่ขวัญแล้วเชิญผู้ใหญ่มาผูกข้อมือบ่าวสาวด้วยสายสิญจน์
ญาติผู้ใหญ่ก็มาร่วมให้ศีลให้พรแก่คู่บ่าวสาว พร้อมทั้งให้แก้ว แหวน
เงินทอง เป็นเครื่องรับไหว้
บายศรีทางเหนือถ้าใช้ในพิธีแต่งงานมักจะทำตัวบายศรี ๖ ตัวในพานนั้น
ส่วนตัวรองไม่จำกัดจำนวนส่วนใหญ่จะใช้เลขคู่ ใช้ภาชนะเป็นพานใหญ่ ๆ
หรือเป็นพานแว่นฟ้าก็ได้ ข้างในใส่กระทงขนม ข้าว ผลไม้ เมี่ยง บายศรี
๖ ตัวนี้กะให้ได้ระยะห่างพอ ๆ กัน
แล้วแต่งดอกไม้ระหว่างองค์บายศรี
การทำบายศรีการทำบายศรีนิยมทำเป็นจำนวนคี่
คือ ๑,๓,๕,๗,๙
บายศรีบวงสรวงเทวดาใช้ถึง ๑๖ ชั้น เป็นกรณีพิเศษที่ใช้จำนวนคู่
การใช้บายศรีกับการรับขวัญ เชิญขวัญหรือสู่ขวัญกับคนธรรมดามักทำ ๓
หรือ ๕ ชั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
และแขกบ้านแขกเมือง ๗ ชั้น สำหรับองค์พระมหากษัตริย์
สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ใช้บายศรี ๙
ชั้นบายศรีเมื่อใช้ประกอบพิธีแล้วประมาณ ๗ วัน
มักจะนำไปจำเริญหรือบางท่านอาจปล่อยให้แห้ง
ให้คงสภาพเช่นนั้นตลอดไปจนกว่าจะเปลี่ยนใหม่ส่วนประกอบของบายศรี
๑.
ไข่ขวัญหรือไข่ยอด เป็นไข่ต้มสุก
อาจเป็นไข่เป็ดหรือไข่ไก่ก็ได้ ตามความนิยมของแต่ละท้องที่
ไข่ขวัญนี้จะให้ผู้รับทำขวัญกิน เช่น ทำขวัญคนป่วยจะให้คนป่วยกิน
จะอยู่ส่วนบนสุดของบายศรี
ซึ่งหมายถึงทำให้เกิดมงคลและเป็นเครื่องหมายแห่งการเกิด วิธีทำ คือ
นำไข่เป็ดหรือไข่ไก่ เริ่มด้วย
นำไข่ใส่ในน้ำเย็นพอน้ำเริ่มร้อนให้ใช้ไม้พายคนไข่ที่ต้มตลอดเวลา
เพื่อจะทำให้ไข่กลมไม่มีส่วนใดบุบเมื่อสุกแล้วยกลง
๒. ตัวแมงดาหรือเต่า
คือส่วนที่วางระหว่างกลางตัวบายศรี
บายศรีปากชามหนึ่งที่มีบายศรีสามตัว และมีตัวแมงดาสามตัว
การทำตัวแมงดาใช้ใบตองกว้างประมาณ ๘-๑๑ ซ.ม.
ใหญ่หรือเล็กตามขนาดของบายศรีตัดตามรูป เจาะทำให้เป็นลวดลายให้สวยงาม
ข้อควรระวังบางครั้งจะทำให้ใบตองแตกควรใช้มีคม ๆ เจาะลาย
ควรใช้ใบตองด้านแข็งอยู่ส่วนบน
๓. แตงกวา กล้วยน้ำ
เป็นอาหารที่อยู่ภายในบายศรี โดยนำแตงกวา และกล้วยน้ำอย่างละ ๑
ผล แบ่งเป็น ๓ ซีกตามยาวของแตงกวาและกล้วย โดยไม่ปอกเปลือก
เมื่อแบ่งได้เป็น ๓ ชิ้น จึงนำไปพนมเข้ากับกรวย
๔.
กรวย คือที่บรรจุข้าวสุกปากหม้อ
ใช้ใบตองตานีช่วงยาวไม่มีที่ตำหนิ กว้างประมาณ ๑๒ นิ้ว ใช้ใบตอง ๒ ทบ
เอาด้านมันออกม้วนจากทางขวามือมาทางซ้ายมือให้เป็นรูปกรวย
โดยกะขนาดปากกรวยลงระหว่างบายศรีทั้งสามพอดี
ความสูงของกรวยจะต้องสูงกว่าบายศรีเล็กน้อยประมาณ ๑-๒ นิ้ว
เมื่อม้วนกรวยแล้วใบตองที่อยู่ข้างนอกจะต้องเป็นสันตั้ง
เมื่อได้ขนาดที่ต้องการให้นำเข็มหมุดกลัดไว้
และตัดปากกรวยทำดอกจันมอบปากกรวยให้เรียบร้อยแล้วนำข้าวสุกปากหม้อใส่ให้แน่น
พยายามกดตรงยอดให้แน่น เพื่อกันเวลาเสียบยอดจะได้ไม่อ่อน
เมื่อใส่ข้าวแน่นแล้ว ตัดใบตองกลมปิดปากกรวย ๒
ใบซ้อนกัน
๕. ไม้ไผ่สีสุก ๓ อัน
ใช้ประกบบายศรีกันโงนเงน เป็นการยึดบายศรี หรืออาจ
หมายถึงบันไดที่จะไปสู่เขาไกรลาส
๖. ผ้าห่มบายศรี และยอดตอง
ยอดตองสามใบควรเป็นยอดตองอ่อนใช้ห่มบายศรีหรือห่มขวัญ
โดยจะห่มทั้งไม้ไผ่สามซีกที่รัดไว้กับบายศรี และใช้ผ้า เช่น ผ้าตาดทอง
หรือผ้าลูกไม้ห่มอีกชั้นหนึ่ง
แต่ในปัจจุบันต้องการโชว์บายศรีและอีกประการหนึ่งคงไม่สะดวกในการจะห่มองค์บายศรี
เลยใช้ม้วนวางไว้ข้าง ๆ องค์บายศรี
๗. อาหารในบายศรี
ควรจะเย็บกระทงใบเล็ก ๆ มอบปากให้เรียบร้อยใส่ในบายศรีสู่ขวัญ
บายศรีบวชนาคจะมีอาหารใส่ อาหารอื่น ๆ เช่น กล้วยทั้งหวี
มะพร้าวนั้นโดยมากจะใส่พานไว้ต่างหากเพราะไม่สามารถจะใส่ไว้ในบายศรีได้
๘. การครอบครูบายศรี
ให้ใช้ดอกไม้ธูปเทียนเป็นการประสิทธิ์ประสาทวิชาของครูให้แก่ลูกศิษย์
เพื่อให้เกิดความมั่นใจและกำลังใจที่ศิษย์จะปฏิบัติต่อไป
การครอบครูบายศรี
ครูจะจับมือเข้าองค์บายศรี