บทสรุปจากโครงการปฏิรูปหลักสูตรสำหรับโรงเรียนปอเนาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : ประเทศไทย
Curriculum Reform for Pondok in Southeast Asia : Southern Thailand Section (CRP-PROJECT)
อัลหัมดูลิลลาฮฺจากจากที่มูลนิธิเพื่อพัฒนาการศึกษาโรงเรียนประทีปศาสน์ โดย ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ ได้ลงนามร่วมกับมูลนิธิซาซากาว่า ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในประเทศไทย
ซึ่งในสัญญาดังกล่าวได้มีข้อตกลงให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภายใต้กรอบ 3 ประการ ดังนี้
1. เปิดวิสัยทัศน์ผู้บริหาร
2. พัฒนาหลักสูตร
3. พัฒนาบุคลากร
จากกรอบความช่วยเหลือดังกล่าวได้นำไปสู่โครงการทัศนศึกษาเพื่อเปิดวิสัยทัศน์ให้แก่ผู้บริหารและงานวิชาการของโรงเรียนในเครือข่ายประมาณ 16 โรงเรียน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรและการพัฒนาบุคลากรของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามในเครือข่าย
โครงการนี้เริ้มต้นด้วยการส่งตัวแทนจำนวน 4 คน คือ อ.อับดุลสุโก ดินอะ , อ.ศักรินทร์ สุมาลี อ.รอเซ็ด บิลแหละแนะ และอ.นัศรุดดีน กาจิ ไปสำรวจสถานศึกษาที่จะนำคณะไปดูงานที่รัฐกลันตัน และตรังกานู ในวันที่ 3-5 และในวันที่ 29 ก.ค. – 4 สิงหาคม ไปสำรวจที่ กัวลาลัมเปอร์และสิงค์โปร์ และได้นำผลการสำรวจมานำเสนอที่ประชุมของกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายที่ลีลารีสอร์ท อ.เทพา จ.สงขลา ในวันที่ 11 สิงหาคม และได้นำนำผลสรุปดังกล่าวมากำหนดสถานที่เพื่อที่จะนำคณะใหญ่ไปศึกษาดูงาน
วันที่ 3- 6 คณะผู้บริหารและฝ่ายวิชาการของโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายได้เดินทางไปประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์และเกาะบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้ชื่อโครงการ CRP-PROJECT (Curriculum Reform for Pondok in Southeast Asia : Southern Thailand Section)
จากกระบวนการเปิดวิสัยทัศน์ข้างต้นดังกล่าว ผมซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำงานที่ได้ร่วมโครงการนี้มาตั้งแต่ต้นมีความเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ต่อประชาชาติ (อุมมะฮฺ) นี้อย่างสูง โดยเฉพาะเยาวชนมุสลิม และโครงการนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามไปสู่ทิศทางที่อัลลอฮฺทรงโปรดปรานมากยิ่งขึ้น โครงการจะนำไปสู่การพัฒนาให้เยาวชนมุสลิมมีความเข้มแข็งขึ้น และมีทักษะชีวิตที่จะเผชิญหน้ากับสังคมในยุคโลกาภิวัตน์ได้ (อินชาอัลลอฮฺ)
ผมในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะทำงานขอสรุปจากกระบวนการทั้งหมดที่พวกเราประมาณ 45 ชีวิตได้ร่วมกันศึกษาเรียนรู้ร่วมกัน แชร์ความรู้ ความคิด เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ ดังนี้
จากกรอบความช่วยเหลือทั้ง 3 ข้อของมูนิธิซาซากาวา และโจทก์ที่ ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณได้ตั้งให้กับคณะทำงานที่ไปศึกษาดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า “ภายใต้กรอบความช่วยแหลือดังกล่าวเราจะแก้ปัญหาให้เยาวชนมุสลิมสามารถเผชิญหน้ากับสังคมโลกาภิวัตน์ได้อย่างไร” โดยดูต้นแบบจากมาเลเซียและสิงค์โปร์ที่เขาประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาดังกล่าว ทำให้ผมได้นำโจทก์ข้างต้นไปคิดต่อ ที่จะหาแนวทางที่จะนำเสนอต่อโครงการและสังคมมุสลิมต่อไป
จากกระบวนการศึกษาดูงานภายใต้โครงการ CRP-PROJECT ผมได้ค้นพบแนวคิดหนึ่งที่ได้รับจาก International Islamic University Malaysia (IIUM) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า UIA คือ แนวคิด 3I ดังนี้
I : International คือ การทำให้ผู้บริหาร ครูและนักเรียน มีความคิด มีวิธีคิด ที่เป็นสากล มีทักษะชีวิตที่เป็นสากล คือ มีทักษะการใช้ภาษาต่างประเทศได้หลายภาษาโดยเฉพาะ ภาษาอาหรับ ภาษาอังกฤษ และภาษามาเลย์ นอกจากนั้น ผู้บริหาร ครูและนักเรียนยังต้องมีทักษะด้าน IT อีกด้วย
I : Islamization คือ การทำให้ทุกมิติของชีวิตเป็นอิสลาม เช่น การทำให้ความคิด วิธีคิด และพฤติกรรมของมุสลิมเป็นอิสลาม (ซึ่งจะอธิบายเรื่อง Islamization ในอีกตอนหนึ่ง : อินชาอัลลอฮฺ) โดยเฉพาะที่ต้องเน้นตรงนี้ ก็คือ Islamization of knowledge หรือ การทำให้ศาสตร์ทุกศาสตร์เป็นอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม
I : Integration คือ การนำเนื้อหาสาระวิชาที่มีความเกี่ยวข้องกันมาสัมพันธ์ให้เป็นเรื่องเดียวกัน และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในลักษณะที่เป็นองค์รวม และสามารถนำความรู้ความเข้าใจไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
ผมขอเรียกแนวคิด 3I นี้ว่า ทักษะชีวิตในการเผชิญหน้ากับสังคมในยุคโลกาภิวัฒน์
แนวคิด ข้างต้นจึงควรเป็นแนวคิดหลักที่โครงการ CRP-PROJECT ควรนำมาเป็นแนวทางหรือกรอบในการดำเนินงานต่อไป ดังนั้นสำหรับกระผมจึงคิดต่อว่า หลังจากการเดินทางเพื่อเปิดวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ โครงการ CRP-PROJECT ควรดำเนินงานต่อภายใต้กรอบแนวคิด 3I ดังนี้
I : International โครงการ CRP-PROJECT ควรดำเนินการต่อ ดังนี้
- ส่งผู้บริหาร ครูและนักเรียนของโรงเรียนเครือข่ายเพื่อไปพัฒนาด้านทักษะภาษาอังกฤษและภาษาอาหรับที่ International Islamic University Malaysia (IIUM) หรือ ที่โรงเรียน Islam adni ประเทศมาเลเซีย หรือ ที่โรงเรียนอัลอิรชาด ประเทศสิงคโปร์ เพื่อเป็นการพัฒนาความเป็นสากลให้กับบุคลากรของโรงเรียนในเครือข่าย (ซึ่งเป็นความช่วยเหลือที่ IIUM , sekolah Islam adni และ โรงเรียน al-Irshad ได้เสนอเสนอความช่วยเหลือให้แก่โครงการ CRP-PROJECT)
I : Islamization โครงการ CRP-PROJECT ควรดำเนินการต่อ ดังนี้
- โครงการอบรมผู้บริหารของโรงเรียนเครือข่ายให้มีความคิด วิธีคิดและทักษะการคิดในการบริหารภายใต้กรอบแนวคิด Islamization เพื่อให้ผู้บริหารในกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายมีแนวคิดที่เป็นหนึ่งเดียว
- โครงการพัฒนาแบบเรียนภาคสามัญทั้ง 8 กลุ่มสาระ ให้มีการบูรณาการอิสลาม โดยให้วิชาวิทยาศาสตร์เป็นวิชานำร่อง วิชาภาษาอาหรับ และภาษาอังกฤษ
- โครงการค่ายบูรณาการ 4 กลุ่มสาระวิชา โดยการบูรณาการกับศาสนาอิสลาม ให้กับนักเรียนในกลุ่มโรงเรียนเครือข่าย
I : Integration โครงการ CRP-PROJECT ควรดำเนินการต่อ ดังนี้
- โครงการบูรณาการโครงสร้างหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 44 กับโครงสร้างหลักสูตรอิสลามศึกษาขั้นพื้นฐาน 46 ให้เป็นหลักสูตรเดียวกัน ตามรูปแบบที่ได้ศึกษามาจาก YAYASAN ISLAM KELANTAN (YIK)
- โครงการอบรมการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการให้กับครูทุกกลุ่มสาระในกลุ่มโรงเรียนเครือข่าย
นอกจากนี้ทางโครงการยังต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายโครงการโดยการ
- จัดให้มีกรรมการบริหารเครือข่ายที่ชัดเจน
- เยี่ยมเยียนโรงเรียนเครือข่าย
- มีกิจกรรมระหว่างโรงเรียนเครือข่ายทั้งในด้านวิชาการและนันทนาการ
สำหรับผมคิดว่า กรอบแนวคิด 3I น่าจะเป็นแนวคิดที่ดี ที่จะพัฒนาเยาวชนมุสลิมและสังคมมุสลิมให้มีความสามารถในการดำรงชีวิตในยุคโลกาภิวัตน์ได้เป็นอย่างดี อินชาอัลลอฮฺ
หมายเหตุ ทั้งหมดที่ได้กล่าวข้างต้น คือ ความคิดเห็นส่วนตัวที่กระผมได้รับจากโครงการนี้ มิได้เป็นมติที่ประชุม
ขออนุญาตนำบล็อกเข้า Planet ของต้าค่ะ
อัสลามมุอะลัยกุม
น่าสนใจมากครับ ขอรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมใหมครับ [email protected]
เอาไว้เป็นข้อมูลประกอบการทำวิทยาพนธ์