หน้าแรก
สมาชิก
นาย อะกีบ สะไหน
สมุด
การจัดการเรียนการ...
สอนอย่างไรให้ถึงข...
นาย อะกีบ สะไหน
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
สอนอย่างไรให้ถึงขั้นวิเคราะห์
ขั้นสังเคราะห์ โดยให้นักเรียนเสนอรูปแบบการทำขนมจากของตนเอง ที่ประยุกต์หรือสร้างสรรค์ขึ้นเองในองค์ประกอบต่างๆ
การคิดวิเคราะห์เป็นการคิดระดับสูง ถ้าโรงเรียนหรือผู้สอนไม่ได้จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนากระบวนการคิดที่เป็นพื้นฐานให้เด็กได้ฝึกคิดก่อน โอกาสที่จะพัฒนาให้เด็กคิดวิเคราะห์ได้เห็นทีจะอยาก แม้แต่ความคิดสร้างสรรค์เด็กไทยยังไม่กล้าคิดทั้งๆ ที่ในตัวเด็กมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม แต่ไม่ได้ฝึกและไม่ได้แสดงออกเนื่องจากถูกปิดกันจากผู้ใหญ่ จากครู เพราะฉะนั้นการที่จะให้เด็กคิดเป็นครูต้องปฏิรูป รูปแบบการสอนของตัวเอง ผู้ปกครองต้องปรับตัวให้ทันกับโลกปัจจุบัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องร่วมมือกัน แล้วค่อยๆ ฝึกเด็กไปเรื่อยๆ ตั้งแต่การคิดระดับพื้นฐาน แล้วค่อยๆพัฒนาขึ้น ไม่ใช่อยู่ๆ จะให้เด็กคิดวิเคราะห์ได้ในทันทีทันใดนั้น เป็นไปได้ยาก ถ้าบรรดาครูกับผู้ปกครองไม่ร่วมมือกัน
ขอเสนอตัวอย่างการสอนที่บูรณาการโดยนำเรื่อง การส่งเสริมอาชีพในท้องถิ่น มาเป็นแกนว่า
ครูอาจจะใช้รูปแบบ การสอนแบบโครงงานหรือโครงการที่เคยคุ้นชินก็ได้ อาจให้นักเรียนทำเป็นกลุ่ม หรือเป็นรายบุคล ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ ซึ่งอาจมีขั้นดำเนินการดังนี้
1.
ขั้นวางแผนและการเตรียมการ
1.1
ให้ความรู้แก่นักเรียนเรื่องโครงงานหรือโครงการที่ครบวงจร
1.2
กำหนดประเด็นให้นักเรียนเขียนโครงงานหรือโครงการเกี่ยวกับอาชีพในท้องถิ่น โดยกำหนด เป็น
หมวดใหญ่ๆ เช่น
ขนม
อาหาร
บริการ
เพาะปลูก
เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ
1.3
ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในเรื่องที่สนใจจากเอกสาร สื่อ และผู้รู้ จนเข้าใจในเรื่องนั้นเป็นอย่างดี
1.4
ครูคอยให้คำปรึกษาในการเขียนโครงงาน/โครงการให้ครบวงจรที่สามารถบูรณาการความรู้จากกลุ่ม
สาระต่างๆ จนถึงขั้นวิเคราะห์
/
วิจัย ได้
2.
ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
กรณีตัวอย่างนักเรียนสนใจทำโครงงานเรื่อง ขนมจาก นักเรียนอาจออกแบบสัมภาษณ์(เพราะสำรวจคงทำได้ยาก)และเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งประกอบการหลายๆร้าน(กลุ่มตัวอย่าง
)
ในประเด็นต่างๆดังนี้
2.1
ส่วนผสม
เช่น มีส่วนผสมอะไรบ้าง
มีสัดส่วนเท่าไร ส่วนผสมแต่ละอย่างมาจากพืชหรือสารเคมีอะไร ได้สิ่งเหล่านั้นมาจากที่ไหน
เหตุผลที่ใส่ส่วนผสมนั้น คุณค่าทางอาหาร
/
ทางสมุนไพร ฯลฯ
2.2
การบรรจุ
/
การห่อ
เช่น มีเทคนิคในการบรรจุ
/
การห่ออย่างไร ใช้ใบจากขนาดเท่าไร ใบแก่หรือใบอ่อน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น แหล่งใบจากอยู่ที่ไหน ฤดูใดที่ใบจากเจริญเต็มที่ วิธีตัดใบจากทำอย่างไร ใช้วัสดุอื่นแทนใบจากได้หรือไม่
ฯลฯ
2.3
ขั้นตอนการปรุง
เช่น มีขั้นตอนอย่างไร ทำไมจึงมีขั้นตอนเช่นนั้น ใช้ความร้อนกี่องศา เตาที่ใช้เป็นลักษณะใด ฯลฯ
2.4
ต้นทุน/ตลาดและราคาจำหน่าย
เช่น ต้นทุนวัสดุ
ต้นทุนด้านแรงงาน
ต้นทุนค่าเสียโอกาส
เวลาทีใช้
ตลาดที่จำหน่าย
รายได้เป็นอย่างไร ราคานี้คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ ฯลฯ
2.5
ปัญหาและข้อเสนอแนะ
เช่น มีปัญหาอะไร การทำอาชีพนี้คุ้มไหม
ถ้าจะปรับปรุงการทำขนมจากให้ดีขึ้นคิดว่าควรทำอย่างไร ฯลฯ
3.
ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
โดยนำข้อมูลจากการสัมภาษณ์
มาออกแบบตารางแจกแจงข้อมูล และเฟ้นจำแนกข้อมูลที่ศึกษา แยกเป็นหมวดหมู่ เช่น ส่วนที่เหมือนกัน ส่วนที่แตกต่างกัน ข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการ
คุณธรรมด้านอาชีพ ฯลฯ หากข้อมูลใดต้องคำนวณหาค่าสถิติอาจใช้
Program
คอมพิวเตอร์ช่วย เป็นต้น
4.
ขั้นสังเคราะห์
โดยให้นักเรียนเสนอรูปแบบการทำขนมจากของตนเอง ที่ประยุกต์หรือสร้างสรรค์ขึ้นเองในองค์ประกอบต่างๆเช่น
ส่วนผสม
ขั้นตอนการปรุง
การบรรจุหีบห่อ
แหล่งวัสดุ
ต้นทุน
การจำหน่าย ราคา
ตลาด
คุณธรรมจริยธรรมในอาชีพ
เป็นต้น
พร้อมเหตุผลที่เสนอรูปแบบนี้ โดยปรึกษาครู
ผู้สอนด้านอาหาร หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้
5.
ขั้นทดลอง
/
ลงมือปฏิบัติ
โดยให้นักเรียนลงมือทดลอง
/
ปฎิบัติตามรูปแบบที่สังเคราะห์ไว้ และเก็บรวบรวม ข้อมูลอย่างเป็นระบบ
6.
ขั้นสรุป
/
ประเมินผลและรายงานผล
โดย นักเรียน
6.1
ประเมินผลการทดลอง
6.2
รายงานผลโครงงาน/โครงการและข้อเสนอแนะ
6.3
ปรับปรุงพัฒนาการทำขนมจากอย่างต่อเนื่อง
จะเห็นได้ว่าถ้าครูจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนลงลึกจริงๆเพียงเรื่องเดียว นักเรียนจะได้ฝึกฝนการทำวิจัยและพัฒนา
(R&D)
ตั้งแต่เด็กโดยไม่รู้ตัว จะได้ทั้งการบูรณาการความรู้จากกลุ่มสาระต่างๆ
ได้ทั้งการคิดวิเคราะห์
/
สังเคราะห์ ซึ่งโครงงาน/โครงการนี้นักเรียนอาจใช้เวลาทำ
1 - 2
ปีก็ได้
ดังนั้นหลักสูตรของสถานศึกษาก็ต้องยืดหยุ่น เพื่อให้นักเรียนได้รับการพัฒนาสูงสุดด้วย และถ้าส่งเสริมเช่นนี้ อย่างกว้างขวาง โรงเรียนก็จะมีผลิตภัณฑ์จากนักเรียนเกิดขึ้นมากมาย
ยังมีเรื่องหรือกิจกรรมที่สามารถส่งเสริมนักเรียนให้สามารถพัฒนาจนถึงขั้นวิจัยทำนองนี้ได้อีกมากมาย
แม้แต่กิจกรรมแข่งขันจรวดขวดน้ำที่กำลังเป็นที่นิยมขณะนี้ ก็สามารถบูรณาการได้หลายกลุ่มสาระ
ปัจจุบันทราบว่านักเรียนสามารถทำวิจัยทดลองเรื่องนี้จนพบว่า
การทำครีบจรวดขวดน้ำจากบัตรโทรศัพท์วันทูคอลทำให้จรวดพุ่งได้ดีที่สุด
เป็นต้น
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นาย อะกีบ สะไหน
ใน
การจัดการเรียนการสอนที่เน้นการคิด
คำสำคัญ (Tags):
#กระบวนการคิด
หมายเลขบันทึก: 125415
เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2007 22:59 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:15 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นาย อะกีบ สะไหน
สมุด
การจัดการเรียนการ...
สอนอย่างไรให้ถึงข...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท