ข้อคิดวันครู49


คำขวัญวันครูปี 49 "ครูดีเป็นศรีแผ่นดิน ศิษย์ทั่วถิ่นศรัทธาบูชาครู"

          วันนี้ 16 มกราคม เป็นวันครูของปี 49 วันครูปีนี้ห่างจากวันเด็กแค่ 1 วันคือวันเด็ก 14 มกราและวันครู 16 มกราคม  ซึ่งวันครูทุกๆปีโรงเรียนจะหยุดเพื่อให้ครูได้ทำกิจกรรมร่วมกัน วันนี้ลูกๆจึงอยู่บ้าน ไม่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียน

          ได้อ่านจากหนังสือพบว่าในวันครูจะมีพิธีกล่าวปฏิญาณตนของครู 3 ข้อ คือ

1. ข้าฯจะบำเพ็ญตนให้สมกับได้ชื่อว่าเป็นครู

2. ข้าฯจะตั้งใจฝึกสอนศิษย์ให้เป็นพลเมืองดีของชาติ

3. ข้าฯจะรักษาชื่อเสียงของคณะครูและบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคม

           แค่คำปฏิญาณสั้นๆ 3 ข้อ ก็ก่อประโยชน์นานัปการแก่สังคมไทยมากหากทำได้จริง

           ผมยังนึกไปอีกว่า แพทย์ก็เป็นวิชาชีพหนึ่งที่น่าจะมีวันแพทย์บ้าง ให้แพทย์ได้หยุดเพื่อมาทำกิจกรรมร่วมกัน ได้มากล่าวปฏิญาณตนเพื่อให้คงยึดมั่นในจรรยาบรรณของแพทย์ร่วมกันบ้าง แต่พอคิดไปอีกที คงยากเพราะผู้ป่วยมาตรวจ จะรอให้มาวันพรุ่งนี้ใหม่เพราะวันนี้หยุดไม่ได้ ดังนั้นกิจกรรมที่ต้องการการรวมตัวกันของแพทย์จึงทำได้ยาก หากไปทำในวันหยุดก็ยากอีกเพราะแพทย์ก็มีคลินิกของตนเอง

           ในชีวิตของคนทุกคนที่ประสบความสำเร็จ คงไม่มีใครที่ไม่มีครู ครูจึงเปรียบเหมือนเรือจ้างที่คอยส่งศิษย์ให้ถึงฝั่งแห่งฝัน ครูกับการศึกษาจึงเป็นสิ่งคู่กัน

           การศึกษานั้น เป็นสิ่งที่ครูได้จัดกระทำให้แก่เด็กนักเรียนเพื่อให้เด็กได้มีความรู้ ความดีและความสำเร็จได้ การศึกษาเป็นเรื่องที่เร่งไม่ได้เพราะถ้าเร่งหรือรวบรัดจะขาดคุณภาพ การเร่งๆให้จบเพื่อได้ใบประกาศหรือใบปริญญาจึงเป็นแนวทางที่ผิดอย่างยิ่งของการศึกษา

           การศึกษาต้องใช้เวลาเพราะต้องมีการรับรู้ แล้วจึงเรียนรู้ แล้วจึงคิดวิเคราะห์ แล้วจึงสังเคราะห์ออกมาเป็นความรู้ที่นำไปปฏิบัติได้จริงคือปัญญา ถ้าเร่งมากอาจทำได้แค่ขั้นรับรู้แล้วก็จบที่ปริญญาหรือใบประกาศ ที่ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของความสำเร็จหรือผลสัมฤทธิ์ของการศึกษา แล้วยังเป็นภาพลวงตาให้คนยบางจำพวกหลงผิดว่าที่แจกๆปริญญาหรือใบประกาศต่างๆไปนั้น เป็นการทำให้คนไทยมีความรู้

           มล.ปิ่น มาลากุล ได้ประพันธ์โคลงสี่สุภาพเกี่ยวกับการศึกษาไว้เตือนใจ ทั้งครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา และผู้เกี่ยวข้องไว้ว่า

            "กล้วยไม้มีดอกช้า      ฉันใด

             การศึกษาเป็นไป     เช่นนั้น

             แต่ออกดอกคราวใด     งามเด่น

             การศึกษาปลูกปั้น     เสร็จแล้ว  แสนงาม"

            อยากให้ทุกคนกลับมาครุ่นคิด แก้ไข ปรับปรุง กระบวนการศึกษาไทย ที่เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ กลับมามองเรื่องการศึกษากันใหม่ มองให้ไกลไปถึงการเรียนรู้เพื่อมุ่งสู่ปัญญา

หมายเลขบันทึก: 12387เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2006 13:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 16:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท