การที่เยาวชนวัยรุ่นหญิงมีจิตสำนึกทางปัญญาสูงกว่าเยาวชนวัยรุ่นชาย เป็นเพราะสังคมวัฒนธรรมไทยกล่อมเกลาให้ผู้หญิงเป็นคนละเอียดอ่อน เอาใจใส่ความรู้สึกอารมณ์ของตัวเอง รู้จักยับยั้งการแสดงออกของอารมณ์ที่รุนแรง ทำให้ผู้หญิงมีเวลานึกคิดใคร่ครวญได้มาก และสังคมไทยยังให้ผู้หญิงรับผิดชอบกิจกรรมภายในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการบริโภค ค่าใช้จ่ายสิ่งของในบ้าน ตลอดถึงใส่ใจในเรื่องของสมบัติส่วนตัวและส่วนรวมดีกว่าผู้ชาย สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงได้รับการปลูกฝังการมีจิตสำนึกทางปัญญามากกว่าผู้ชาย
ผลการวิจัยยืนยันชัดเจนว่าความสำคัญของบิดามารดาซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการถ่ายทอดปัญญาสังคมให้กับเด็กและเยาวชนมีความผูกพันกับเด็กตั้งแต่ประสบการณ์ชีวิตแรกเริ่ม และยังมีความสำคัญอย่างต่อเนื่อง แม้เด็กจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่นอิทธิพลจากบิดามารดาก็ยังไม่ลดลง โดยเฉพาะการอบรมสั่งสอนและการเป็นแบบอย่างที่ดีในการแสดงออกทางปัญญาสังคม อารมณ์และความประพฤติที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริโภค การใช้เงิน สิ่งของเครื่องใช้ เวลา ทรัพยากร การดูแลรักษาและแบ่งปันของส่วนรวม สาธารณสมบัติ หรือการไม่ดูถูกคนที่ต่ำต้อยกว่าตัวเอง รวมทั้งแสดงออกให้ลูกรู้ถึงความรักความเอาใจใส่เข้าใจจิตใจและปัญหาของลูก เยาวชนจะเรียนรู้ เลียนแบบซึมซับเข้าไปในจิตใจ ฝังรากให้เยาวชนคนนั้นมีจิตสำนึกทางปัญญาที่ดีตามไปด้วย จะเอื้อให้เยาวชนแสดงพฤติกรรมที่มีคุณภาพในชีวิต รู้จักแก้ปัญหาและมีพฤติกรรมเอื้อสังคม ในขณะเดียวกันถ้าบิดามารดาไม่มีการถ่ายทอดปัญญาสังคม อารมณ์เยาวชนวัยรุ่นจะได้รับการหล่อหลอมให้มีจิตสำนึกทางปัญญาสังคมที่เหมาะสมน้อย
ที่มา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 17 ส.ค. 50
หน้า 35
ไม่มีความเห็น