หน้าแรก
สมาชิก
อาล ฮุซัยน์
สมุด
ไดอะรี่ อิหม่ามห...
หะซัน อัลบันนาและ...
อาล ฮุซัยน์
ฆอซาลี เบ็ญหมัด
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
หะซัน อัลบันนาและทัศนะต่อซูฟีย์
น่าจะดีถ้าข้าพเจ้าจะได้บันทึกความรู้สึกในใจบางประการลงในบันทึกนี้
เกี่ยวกับตะเซาวุฟและตอรีเกาะต์ โดยจะกล่าวถึงความเป็นมา อิทธิพล
แนวโน้ม และการทำอย่างไรให้กลุ่มนี้สร้างสรรค์ประโยชน์แก่สังคมมุสลิม แต่ไม่ใช่งานเชิงวิจัยทางวิชาการ การศึกษาศาสตร์ด้านนี้ในเชิงลึก
หากเป็นเพียงการบันทึกความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ หรือสิ่งที่โลดแล่นอยู่ในความรู้สึกนึกคิด
หากว่าถูกต้องก็มาจากอัลลอฮฺ อัลฮัมดุลิลลาฮฺ
หากไม่เป็นเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็ทำไปด้วยความปรารถนาดี
การงานทุกอย่างล้วนมีเจตนามุ่งสู่อัลลอฮฺ
เมื่อความรุ่งโรจน์แห่งอาณาจักรอิสลามแผ่ขยายออกไปในศตวรรษแรก มีชัยเหนืออาณาจักรน้อยใหญ่ คนในหล้าหันมาสนใจมุสลิม บรรณาการต่างๆทยอยมามอบให้กับพวกเขา
ความยิ่งใหญ่นี้ทำให้พวกเขากล่าวกับท้องฟ้าทิศตะวันออกและตะวันตกว่า
หยาดน้ำของท่าน
ตกลง ณ แดนใดในหล้า
ผลประโยชน์นานา
จะกลับคืนมาสู่เรา
พวกเขาเสพย์สุขกับลาภ
ดื่มด่ำในรสชาดและสีสันแห่งชีวิตทางโลก บ้างอยู่ในขอบเขต บ้างเลยเถิด
จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของสังคม จากความลำบากยากแค้นในยุคของความรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยศาสดา สู่ความหรูหราในยุคหลัง
ทำให้นักปราชญ์ในสังคมต้องเรียกร้องสู่ความมักน้อยต่อการเสพย์สุขในสีสันของดุนยา
ให้รำลึกถึงสิ่งบันดาลสุขในวันสุดท้ายอันนิรันดร์
บุคคลแรกที่เรียกร้องคือ หะซันอัลบัศรีย์ ครูผู้นำ มีกัลยาณชนมากมายเจริญตามรอยท่าน จึงเกิดเป็นกลุ่มหนึ่งที่รู้จักกันในนามกลุ่มซูฟีย์
ที่เน้นการรำลึกถึงอัลลอฮฺและวันสุดท้าย
การถือสันโดษและการฝึกฝนจิตใจในการภักดีต่ออัลลอฮฺ
การประกอบศาสนกิจ
การรู้จักอัลลอฮฺ และการแสวงหาความพึงพอใจของพระองค์
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าลักษณะดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งแห่งศาสตร์ที่เป็นสารัตถะแห่งอิสลาม
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่ามีชาวซูฟีย์ทั่วไป สามารถฝึกฝนและเยียวยาจิตใจ ถึงระดับที่ชนชั้นแนวหน้าของกลุ่มอื่นก็ไม่สามารถกระทำได้
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า พวกเขาสามารถปฏิบัติจริงให้คนเห็นได้ ทั้งด้านการมุ่งมั่นในการปฏิบัติศาสนกิจ ละทิ้งสิ่งต้องห้าม
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า กลุ่มซูฟีย์ ตะเซาวุฟและตอรีเกาะต์
เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อิสลามเผยแผ่ออกไปสู่ภูมิภาคและดินแดนอันไกลโพ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีของทวีปอัฟริกา และแถบทะเลทรายอันแห้งแล้งของมัน
และกรณีของภูมิภาคต่างๆของเอเชีย
ไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าการใช้หลักตะเซาวุฟในเรื่องมารยาทและพฤติกรรมมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อใจคน
แม้ว่าหลายต่อหลายครั้งที่พวกเขารับเอาอิทธิพลของสังคมแห่งยุคสมัยเข้าไปด้วยบ้าง
เช่น การเลยเถิดในเรื่องการวางเฉย
การงดอาหาร
การงดนอนกลางคืนและการปลีกวิเวก แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะมีหลักการเดิมของศาสนาอยู่ก็ตาม
ศาสนาถูกปนเปด้วยสิ่งแปลกปลอม
สิ่งแปลกปลอมดังกล่าวจึงเข้าไปทำลายสิ่งดีๆเหล่านั้นจนแทบหมดสิ้น
หน้าที่ของนักปฏิรูปคือการครุ่นคิดอย่างยาวนาน ในการเยียวยาความผิดพลาดในกลุ่มชนเหล่านั้น พวกเขามีความอย่างสมบูรณ์ต่อการแก้ไข และน่าจะเป็นกลุ่มบุคคลที่พร้อมจะแก้ไขข้อผิดพลาดมากที่สุด หากได้รับการชี้นำที่ถูกต้อง ซึ่งไม่มากไปกว่าการให้มีนักวิชาการ และดาอีย์ที่มีความรู้และความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮฺ
ทำการศึกษาสังคมของพวกเขา แยกแยะสิ่งแปลกปลอมออกไปและนำมรดกทงวิชาการเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์
การประสานพลังทางวิชาการของนักวิชาการ
พลังทางจิตใจของกลุ่มซูฟีย์ และพลังกิจกรรมของกลุ่มองค์กรเคลื่อนไหวเพื่ออิสลาม ประชาชาติอิสลามก็จะไร้คู่ต่อกร
เขียนใน
GotoKnow
โดย
อาล ฮุซัยน์
ใน
ไดอะรี่ อิหม่ามหะซัน อัลบันนา จดหมายเหตุดะวะต์ สำหรับนักดาอีย์ حسن البنا
คำสำคัญ (Tags):
#หะซัน อัลบันนาและทัศนะต่อซูฟีย์
หมายเลขบันทึก: 113720
เขียนเมื่อ 23 กรกฎาคม 2007 11:38 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:35 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
อาล ฮุซัยน์
สมุด
ไดอะรี่ อิหม่ามห...
หะซัน อัลบันนาและ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท