เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ไม่เคยมีการดำเนินงานมาก่อน แต่หากเป็นนักวิชาการศึกษา และศึกษานิเทศก์ จะทราบว่าก่อนที่จะมีกฏกระทรวงการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว มีครอบครัวจำนวนหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะให้ลูกเข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีกฎเกณฑ์ให้เด็กปฏิบัติตามเหมือนกันหมดทุกคน
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ไม่เคยมีการดำเนินงานมาก่อน แต่หากเป็นนักวิชาการศึกษา และศึกษานิเทศก์ จะทราบว่าก่อนที่จะมีกฏกระทรวงการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว มีครอบครัวจำนวนหนึ่งที่ไม่ประสงค์จะให้ลูกเข้าเรียนในสถานศึกษาที่มีกฎเกณฑ์ให้เด็กปฏิบัติตามเหมือนกันหมดทุกคน
เช่นต้องเข้าเรียน เวลา ๐๘.๐๐ น. เรียนวิชาแรกคือคณิตศาสตร์ เหมือนกันฯลฯ ครอบครัวดังกล่าวอยากให้ลูกได้เรียนเมื่อพร้อมและเรียนในสิ่งที่ตัวเองสนใจก่อน จึงมักจะส่งลูกเข้าเรียน ณ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาเมื่อพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายการศึกษาชาติ ได้ระบุในมาตรา ๑๒ ว่า นอกจากรัฐมีสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้ว ครอบครัวก็มีสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๗ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศกฏกระทรวง ว่าด้วยสิทธิในการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว ในส่วนการดำเนินงานของ สพท.กทม.๒ เริ่มจากครอบครัวมาติดต่อขอจัดการศึกษา จึงได้เริ่มศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๒ ฯ กฎกระทรวงข้างต้น ซึ่งจากสาระที่ปรากฏในกฎกระทรวง มีการกำหนดหน้าที่ให้เขตพื้นที่ดำเนินการ ตั้งแต่พิจารณาแผนการจัดการศึกษาและส่งให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ครอบครัวจัดการศึกษา การวัดและประเมินผล การเรียนรู้ การเลิกจัดการศึกษาของครอบครัว นอกจากนี้ประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน เช่นแผนการจัดการศึกษาจะเขียนอย่างไร มีสาระครอบคลุมเพียงใด แค่ไหน อย่างไร ได้มีการประสานกับผู้รับผิดชอบโดยตรงของสำนักนโยบายและแผน สพฐ. ซึ่งก็ได้ความชัดเจนระดับหนึ่ง และถือว่าเป็นความโชคดีที่ สพฐ. ได้แต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานจัดทำเอกสาร แนวปฏิบัติในการจัดการศึกษาทางเลือกที่จัดโดยครอบครัว ทำให้มีความเข้าใจในรายละเอียดของกฏกระทรวงฯ ยิ่งขึ้น
เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความราบรื่น มีประสิทธิภาพ จึงได้มีการเรียนให้ผู้บริหารของเขตพื้นที่ได้รับทราบเรื่องที่ครอบครัวมาขออนุญาตจัดการศึกษา รวมทั้งได้เสนอความเห็นกับหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษาว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่ต้องขอความร่วมมือจากหลายกลุ่ม กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา คงไม่สามารถทำเพียงลำพังกลุ่มเดียวได้ เพราะมีเรื่องการดูแผนการจัดการศึกษา เรื่องข้อกฎหมาย เห็นควรมีศึกษานิเทศก์ และนิติกร ร่วมในการทำงาน ทั้งนี้ได้มีการประสานกับหัวหน้ากลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาหลักสูตร ช่วยคัดเลือกบุคลากรร่วมในการดำเนินการ โดยมีบุคลากรกลุ่มส่งเสริม การจัดการศึกษาทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขานุการ จึงเป็นที่มาของการแต่งตั้งกรรมการ ๓ คณะ ณ ขณะนี้คือ
๑. คณะกรรมการดำเนินการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว มีหน้าที่พิจารณาแผนการจัดการศึกษาของครอบครัว ให้สมบูรณ์ ก่อนเสนอคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาต่อไป
๒. คณะกรรมการนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว
๓. คณะกรรมการวัด และประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว
จากผลการดำเนินงานของกรรมการ ทั้ง ๓ คณะ ดังกล่าว มีครอบครัวที่ได้รับอนุญาตให้จัดการศึกษาได้รวม ๔ ครอบครัว ๓ ครอบครัวแรก จัดการศึกษาช่วงชั้นที่ ๑ (ป.๑ – ๓) อีก ๑ ครอบครัวจัดการศึกษาช่วงชั้นที่ ๒ (ป.๔ – ๖) โดยแผนการจัดการศึกษาของแต่ละครอบครัวมีการเขียนที่หลากหลายเป็นไปตามบริบทของครอบครัว แต่ทุกครอบครัวระบุว่า จะยึดมาตรฐานของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ เป็นหลักในการประเมินคุณภาพของผู้เรียน ณ วันนี้ ผู้เรียน ๑ คน ที่ได้รับการวัดและประเมินผล จากสำนักงานเขตพื้นที่ ให้ผ่านการศึกษา ช่วงชั้นที่ ๑ (ป.๓) แล้ว และผู้เรียนอีก ๓ คน กำลังรอรับการประเมินผลเช่นกัน
การดำเนินงานย่อมมีอุปสรรคบ้างไม่มากก็น้อย แต่เมื่องานหยุดนิ่งไม่ได้ต้องเดินหน้าก็ต้องพยายามให้เกิดปัญหาในการทำงานให้น้อยที่สุด หรือไม่มีเลยยิ่งดี ในส่วนที่ต้องประสานกับศึกษานิเทศก์ นิติกร ที่เป็นคณะกรรมการ ราบรื่นดี อาจเป็นเพราะส่วนใหญ่คุ้นเคยกันมาก่อน และพยายามทำงานให้เป็นระบบ มีเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ สามารถ Present ได้ถูกต้อง ต้องสนุกกับการทำงาน และสิ่งสำคัญมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคน ในส่วนที่ต้องประสานกับครอบครัว และศึกษานิเทศก์ให้มีความเข้าใจในประเด็นต่างๆตรงกัน และถูกต้อง และเป็นแบบกัลยาณมิตรกัน ซึ่งจัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างศึกษานิเทศก์ กับครอบครัวทั้ง ๔ ครอบครัวขึ้น บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเป็นมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน ช่วยกันหาข้อสรุปในประเด็นต่างๆ เช่น การกำหนดค่าหน่วยน้ำหนัก การตัดสินผลการเรียน การจัดทำรายงานการวัดและประเมินผลฯ ร่วมกันเสนอแนะแนวทางที่มีประโยชน์ต่อการดำเนินงานต่อไป ผลสะท้อนกลับจากครอบครัว พอใจในการประชุมครั้งนี้มาก และอยากให้มีการประชุมลักษณะเช่นนี้อีกในปีต่อไป สำหรับการดำเนินงานต่อไป เพื่อให้ครอบครัวได้ทราบแนวทางการวัดและประเมินผลที่ชัดเจนของกลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การอ่าน คิด วิเคราะห์ และ เขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จะจัดให้มีการประชุมจัดทำ Rubric การให้คะแนนขึ้นโดยศึกษานิเทศก์จะยกร่างขึ้นมาก่อน และจะให้ครอบครัวร่วมให้ข้อคิดเห็นด้วย
ในกรณีที่มีครอบครัวอื่นๆ สนใจเรื่อง การจัดการศึกษาโดยครอบครัวสามารถ Download เอกสารที่เกี่ยวข้องได้จาก
www.edubangkok2.org และหากมีผู้มาติดต่อสอบถามที่เขตพื้นที่ ก็จะมีเอกสารให้ครอบครัว เพื่อศึกษาทำความเข้าใจก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจจัดการศึกษาให้แก่บุตรของตนเอง
สิ่งที่ภูมิใจอย่างหนึ่งในการทำงานนี้ คือ มีส่วนผลักดันให้เกิดการจัดทำเอกสารหลักฐานการศึกษาของผู้เรียนที่เรียนจากครอบครัวขึ้น เพราะเล็งเห็นว่า ผู้เรียนไม่ว่าจะเรียนจากรูปแบบใด ต้องมีหลักฐานแสดงว่า ได้รับการศึกษาจากรูปแบบนั้น เพื่อการศึกษาต่อ หรือ เป็นหลักฐานในการทำงานต่อไป โดยได้มีการทำหนังสือ จากเขตพื้นที่หารือเรื่องนี้ ไปยัง สพฐ. ว่าเอกสารหลักฐานการศึกษาจบ ชั้นปี หรือ ช่วงชั้น มีรูปแบบอย่างไร มีคำอธิบายอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ได้มีการติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องทราบว่า สพฐ. ได้จัดทำเอกสารเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ที่คุรุสภา เอกสารหลักฐานการศึกษาจะคล้ายคลึงกับการศึกษาในระบบ คือมี ปพ.๑/ค ปพ๒บ/ค ปพ๒พ/ค และ ปพ๓/ค (ค คือ ครอบครัว)
ผลงานที่เกิดจากการดำเนินงาน คือ ได้เขียนบทความ “มารู้จักครอบครัว Home School กันเถอะ” โดยได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารเขตพื้นที่ให้เผยแพร่ในวารสารข่าว สพท.กทม.๒ ฉบับ เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ จดหมายข่าวของสมาคมบ้านเรียน และที่ประชุมผู้บริหารสถานศึกษา สพท.กทม.๒ เพื่อเป็นการเผยแพร่ข่าวสารต่อสาธารณชนได้รับทราบข้อมูลการดำเนินงาน ดังกล่าว
ผู้เล่า นางอรุณี เทพวรรณ นักวิชาการศึกษา ๘ ว กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สพท.กทม.๒