สภาพปัจจุบัน
1. จำนวนอาจารย์ที่ได้รับเชิญไปเป็นกรรมการวิทยานิพนธ์ภายนอกสถาบัน/กรรมการวิชาการ/กรรมการวิชาชีพในระดับชาติและ/หรือนานาชาติ มีจำนวนน้อยและซ้ำคน
2. หน่วยงานภายนอกไม่รับทราบข้อมูลความเชี่ยวชาญของอาจารย์วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี อย่างแพร่หลาย
3. อาจารย์วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ยังไม่เฉพาะเจาะจง
ภาพเจ้าของ
แนวทางการแก้ไข <p style="margin: 0in 0in 0pt 0.5in; text-indent: -0.25in" class="MsoNormal">1. จัดทำข้อมูลความเชี่ยวชาญของอาจารย์วิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี เผยแพร่ลง Website ของวิทยาลัยฯและ Website ของสถาบันพระบรมราชชนก และปรับปรุงให้เป็นปัจจุบัน</p> 2. งานพัฒนาบุคลากรภายในสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ประจำของวิทยาลัยฯไปอบรมเฉพาะทางเพื่อส่งเสริมความเชี่ยวชาญของอาจารย์ให้มีมากขึ้น
ผมว่า อีกประการหนึ่งก็คือ ตัวของอาจารย์เองก็น่าจะพัฒนาตัวเอง ให้ตรงทิศตรงทาง และพัฒนาความชำนาญเฉพาะเรืองให้เป็นที่ประจักษ์ (ได้รับการยอมรับ) ซึ่งประเด็นนี้ตัวอาจารย์เองก็ต้องพัฒนาทั้งองค์ความรู้ ประสบการณ์ และงานวิจัยในสิ่งที่ตัวเองชำนาญ จึงจะทำให้ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง นี่เป็นสิ่งที่ต้องทำก่อนที่จะมีการประชาสัมพันธ์ออกไป
สิ่งที่สำคัญทำอย่างไร ผู้ที่เป็นอาจารย์จึงจะไม่หยุดการพัฒนาตนเอง ..........
ทำวิจัย เป็นวิทยากร สร้างผลงานวิชาการ ไม่หยุดตัวเอง พัฒนาตนเอง ถ้าผู้ทำหน้าที่อาจารย์ทำได้แบบนี้ งาน HRD คงมีกำลังใจ แน่ๆๆเลย กลยุทธ์ไหนดีล่ะคะ ที่ทำให้ผู้ที่ทำหน้าที่อาจารย์ บทบาทหน้าที่เหล่านี้ ครบถ้วน ........ใครรู้วิธีเจ๋ง ๆๆๆช่วยแนะบ้าง
อาจารย์ต้องยอมรับว่าตนเองเชี่ยวชาญจริงหรือไม่ การสอนหนังสือแค่ในชั่วโมงเรียน แล้วไม่ได้หาประสบการณ์เพิ่มหรือรู้แท้ในเรื่องนั้นๆจริง (รวมถึงไม่มีผลงานวิชาการที่ตรงประเด็นในเรื่องที่ตนเองบอกว่าเชี่ยวชาญ หรือมีผลงานวิจัยแต่เป็นหัวข้ออื่นๆ)ก้อไม่ต่างกับการขายขนมที่ขายได้ครั้งแรกเท่านั้น จากนั้นก็ไม่มีใครซื้อกิน แต่สภาพความจริงของเราคือ ไม่ได้ดูจุดนี้ เรามองการออกไปเป็นวิทยากรคือจุดเริ่มต้น การมองว่ารู้แจ้งหรือไม่เป็นจุดที่สอง บางคนเป็นวิทยากรในเรื่องที่ตนเองยังไม่เคยได้ทำจริงด้วยซำ เพียงแค่เคยอ่าน หรือไปประชุมมา อย่างนี้ก็เสร็จ ขนมนั้นก็จะขายได้ครั้งเดียว ลูกค้าไม่บอกต่อ มีอาจารย์กี่คนที่ลูกค้าเราเขาบอกต่อและได้รับเชิญเรื่อยๆ ลองเอามาวิเคราะห์และให้เป็นต้นแบบการถอดความรู้ออกมาดูดิ แต่อย่างว่า อาจารย์จะรับกันได้หรือไม่นะสิ และนี่คือจุดบอดที่ทำให้วิธีการจัดการความรู้เป็นเพียงแค่ของเล่นที่เล่นครั้งเดียวหรือไม่นานก้อเบื่อแล้ว เพราะไม่ได้เล่นของจริง ด้วยความเกรงจายกันงัย