เวทีเรียนรู้สู่ชุมชนอินทรีย์ หมู่ที่ 2 ตำบลมะม่วงสองต้น เวทีนี้ทีมคุณอำนวยมาเหมือนเดิม คือ ผม และครูแต้ว จากหน่วยงาน กศน. พี่เชาวนะ จากหน่วยงานเกษตร พร้อมกับพี่แขก จากสำนักงานพัฒนาชุมชน และเพื่อนครูจาก กศน. 4 ท่าน มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย โดยจัด ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลมะม่วงสองต้น เวลา 9 โมงเช้า
เวทีของหมู่ที่ 2 ตำบลมะม่วงสองต้น วันนี้ผมสบายใจเป็นพิเศษ เพราะเคยเป็นพื้นที่นำร่องของโครงการจัดการความรู้เรื่องสถาบันการเงิน มีแกนนำที่มีความรู้ความสามารถ เช่นพี่สุเทพ ซึ่งทำหน้าที่บันทึกเรื่องราวการทำเวทีในวันนี้... ในส่วนของหมู่บ้าน ผมมองหาน้องพร... คุณกิจแกนนำคนเก่งตอนทำตำบลนำร่อง ผู้ใหญ่สุธรรม บอกให้ทราบว่า น้องพรไปเป็นครูจ้างเสียแล้ว ยังนึกเสียดายไม่เช่นนั้นเวทีวันนี้คงจะมี ความคึกคักมากขึ้น ที่สำคัญคือ ผู้นำชุมชนมากันอย่างคับคั่งทีเดียว ตั้งแต่ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมะม่วงสองต้น รองนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลมะม่วงสองต้น หมู่ที่ 2 ซึ่งทำให้เห็นถึงความร่วมมือ ทั้งระดับผู้นำและประชาชน
9 โมงเศษ ผู้ที่มาเข้าร่วมเวทีวันนี้ลงชื่อเข้าร่วมเวที เมื่อพร้อม ผู้ใหญ่สุธรรม สมทอง ก็เริ่มเปิดรายการ ทักทายผู้ที่มาร่วมโครงการ และแนะนำตัว ทีมคุณอำนวย และมอบหน้าที่ต่อให้พวกเรา เวทีนี้มีคุณกิจ 2 คนคือ พี่ สุเทพ ในส่วนของหมู่บ้าน และครูแต้ว คู่หูของผม ส่วนผมเหมือนเคย ต้องทำในส่วนของกระบวนการ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ...
เริ่มรายการกันที่ผม ชี้แจงความเป็นมาของโครงการและความสำคัญที่ประชาชนในหมู่ที่ 2 ต้องทำ ว่าด้วยเรื่อง แผนชุมชนพึ่งตนเอง ที่ระดับ บุคคล ครัวเรือน กลุ่ม และระดับหมู่บ้านทำเองได้ โดยให้ชาวบ้านวิเคราะห์ตนเองและหมู่บ้าน โดยใช้กระบวนการ “โอ่งรับ-จ่าย” โดยชาวบ้านช่วยกันนำเสนอในเรื่องของรายได้ของแต่ละครัวเรือน และรายจ่ายของครอบครัวในภาพรวมของหมู่บ้าน และให้ร่วมกันสรุป หาแนวทางในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และนำไปสู่การออม
พี่จิราพรรณ เป็นคณะกรรมการศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรของตำบลมะม่วงสองต้น ได้อภิปรายว่า ประชาชนในพื้นที่ ประกอบอาชีพทางการเกษตร มีทั้งเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งการเพาะปลูกส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกพืชผัก นอกจากไว้บริโภคเองแล้วยังส่งขายอีกด้วย และเสนอแนวทางการลดรายจ่ายโดยวิธีการใช้ปุ๋ยหมักในการเพาะปลูกเป็นการลดต้นทุน ทั้งปุ๋ยหมักแห้ง และปุ๋ยน้ำชีวภาพ ซึ่งสมาชิกผู้เข้าร่วมเวทีเห็นด้วยและพี่จิราพรรณ พร้อมที่จะเป็นวิทยากรให้ความรู้ พร้อมกับพี่เชาวนะ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตร
ผมถามว่าในการดำเนินการผู้เข้าร่วมโครงการจะเริ่มดำเนินการกันอย่างไร ก็ได้คำตอบว่า เริ่มกันที่บ้าน คือทุกคนกลับไปพัฒนาแปลงผัก หรือพืชผักสวนครัวที่บ้านก่อนนำร่องไปสู่การทำเพื่อส่งขาย โดยเน้นที่เป็นผักปลอดสารพิษ สิ่งที่ชาวบ้านนำเสนอในวันนี้ก็เลยเป็นการบ้านที่ทุกครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการต้องกลับไปทำแล้วมาเล่าสู่กันฟังในเวทีต่อไป
หลังจากจบรายการของผมกับคณะแล้ว พวกเรายังคงต้องนั่งเป็นพี่เลี้ยงในการทำเวทีประชาคมเพื่อจัดทำโครงการ พพพ. อีกด้วยซึ่งเรื่องนี้ ผู้ใหญ่สุธรรม เป็นผู้นำกระบวนการในการหาความต้องการของชุมชนและร่วกันคิดโครงการที่จะนำเสนอให้ทางอำเภอพิจารณา ซึ่งก็ได้ผ่านไปอย่างเรียบร้อย ผมมาคิดดูว่า... อันที่จริง กระบวนการเรียนรู้นั้น ชาวบ้านเองก็สามารถทำกันเองได้ แต่ต้องมีตัวกระตุ้นให้เกิดกระบวนการ เช่นตอนนี้มีโครงการ อยู่ดีมีสุข และโครงการ พพพ. เข้ามากระตุ้นคนในชุมชนให้มีการวิเคราะห์ตนเอง ชุมชน ว่ามีศักยภาพในการทำ หรือรองรับโครงการต่าง ๆ จากภาคส่วนต่าง ๆที่ลงมายังหมู่บ้านเพียงใดไม่มีความเห็น