ประมาณ 8 โมงเช้าของทุกวันเสาร์ จะต้องไปส่งลูกสาวคนโต (10ปี) ไปเรียนพิเศษที่โรงเรียน วันนี้ก็เช่นเดียวกันใช้พาหนะมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ ข้างหน้ามีลูกชายคนเล็ก (6 ปี) นั่งไปด้วย หลังจากส่งลูกสาวแล้ว ถามลูกชายว่าไปเที่ยวตลาดนัดสีเขียวกับแม่ไหม๊ ลูกชายบอกแล้วแต่แม่ ตลาดนัดสีเขียวจะจัดขึ้นเฉพาะวันเสาร์ ที่ริมสระน้ำข้างวัดจุมพลสุทธาวาส ใกล้อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง บรรยากาศดีมาก ด้านหนึ่งติดสระน้ำ ด้านหนึ่งติดถนนใหญ่ ผู้คนสัญจรไปมาก็มองเห็นได้สะดวก ตลาดนัดสีเขียวเป็นที่ที่ดิฉันชอบไปมาก (ตื่นเช้าวันเสาร์ เหมือนมีนัดกับใครแล้วไม่อยากผิดนัด ต้องไปให้ได้)
ขอขยายแนวคิดของตลาดก่อน "ตลาดนัดสีเขียว" หมายถึงการที่ชาวบ้านนำผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกหรือเลี้ยงไว้ตามธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี มารวมตัวกันขาย เคยถามแม่ค้าว่าจะรู้ได้อย่างไรว่า ผักผลไม้ที่มาขายนั้น ปลอดสารจริง เขาบอกว่าพวกเราจะเป็นหูเป็นตากันเอง หากมีคนอื่นเข้ามาขายแล้วไม่ใช่แนวคิดเดียวกับพวกเรา เราจะรู้ทันทีแล้วผลักดันไม่ให้ขาย อืม ฟังดูแล้ว ถ้ากลุ่มสีเขียวเข็มแข็งอย่างนี้ก็ดีซินะ ตลาดนัดสีเขียวเริ่มก่อตัวขึ้นมาประมาณ ปี 2545 เริ่มขยายจำนวนร้านค้าขึ้นเรื่อย ๆ หลัง ๆ ไม่ใช่มีแต่ผัก ผลไม้ หากแต่มีอาหารสำเร็จ ขนมพื้นเมือง สมุนไพร ฯลฯ มาขายเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เป็นบรรยากาศของตลาดมากขึ้น ด้วยความหลากหลายของสินค้านั่นเอง ดิฉันเองชอบซื้อกล้วยน้ำว้า มะพร้าวเผา ขนมพื้นเมือง (ชื่อแปลก ๆ ออกเสียงไม่ค่อยถูก) โดยเฉพาะขนมที่เอามาทำให้ดูกันเห็น ๆ มีเสน่ห์มาก สะท้อนความเป็นภูมิปัญญา คุณค่าของธรรมชาติได้อย่างน่าชื่นชม ของที่ว่านี้ ซื้อทุกครั้งที่ไป บางทีซื้อมาก็ทานไม่หมด แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ต้องซื้อ....งง..ตัวเองเหมือนกัน
วันเสาร์นี้ที่ตลาดนัดสีเขียว มีมุมแปลกจากที่เคยเห็น มองไปเห็นป้ายเขียนว่า "ขยะยิ้ม" ดิฉันรี่เข้าไปอย่างไม่รอช้า ยืนอ่านข้อความ ดูภาพ แล้วก็ทำให้พอเข้าใจว่ามีกลุ่มคนที่กำลังทำงานเพื่อสาธารณะ เรื่องการลดขยะ นำเอาขยะมาเป็นประโยชน์ สักพักมีน้องผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาถามว่า "พี่สนใจขยะยิ้มไหม๊คะ" จึงได้มีโอกาสซักถามความเป็นมาได้ความว่า เป็นการทำงานของกลุ่ม "เครือข่ายเกษตรทางเลือก" ที่ต้องการนำขยะซึ่งกำลังจะล้นเมือง มาทำให้เกิดประโยชน์โดยการแยกขยะ เน้นไปที่ขยะสด หรือขยะเปียก ที่ย่อยสลายได้ ที่ได้จากเศษอาหาร ผัก ผลไม้ หรืออาหารสดอื่น ๆ ชักชวนคนที่สนใจมาเป็นเครือข่าย โดยแจกถังพลาสติกสีดำพร้อมหัวเชื้อกากน้ำตาล 1 ขวด อธิบายการแยกขยะสด ใส่ไว้ในถังดำ แล้วหยอดหัวเชื้อข้น ๆ เหมือนราดนมข้น (จะช่วยให้ย่อยสลายได้เร็ว) ปิดฝา จากนั้นดิฉันก็วาดแผนที่บ้านไว้ให้ เขาบอกว่าทุกวันเสาร์จะมีเจ้าหน้าที่ไปเก็บแล้วเปลี่ยนถังให้ใหม่ ดิฉันถามว่าขยะที่ได้เอาไปไหน เขาบอกว่าเอาไปให้แม่ค้าพ่อค้าในตลาดนัดสี่เขียวไปใส่แปลงผัก
คุยกันสักพัก ดิฉันยินดีเป็นเครือข่ายด้วย เพราะปกติที่บ้านก็แยกขยะอยู่แล้ว เพียงแต่ขยะสดมักจะถูกสาดเท ไปตามต้นไม้บ้าง ซึ่งบางทีย่อยไม่ทัน ฝนตกมาก็มีปัญหาเรื่องกลิ่นไม่โสภา ลูกชายยืนฟังแม่คุยกับเจ้าหน้าที่แล้ว ถามว่าแม่เป็นสมาชิกทำไม แม่จะไปทำงานกับเขาเหรอ หนูไม่อยากให้แม่ไปทำงานที่อื่น ดิฉันต้องอธิบายให้ลูกฟังว่า ไม่ใช่อย่างที่ลูกเข้าใจ เรากำลังจะเอาขยะไปทำปุ๋ยให้ต้นไม้โตเร็วไง ลูกชายพยักหน้า ว่าแล้วก็ช่วยแม่หิ้วถังดำที่เขาแจกให้ใส่มอเตอร์ไซค์ขี่กลับบ้าน ระหว่างทางก็ชวนลูกคุยเรื่องขยะที่บ้านเรามีทุกวัน ว่าเราจะทำขยะให้เป็นปุ๋ยกันนะลูก ทำง่าย ๆ หนูก็ทำได้ เมื่อรถจอดถึงบ้าน ลูกชายกระวีกระวาดยกถังวิ่งไปหลังบ้านพร้อมตะโกนถามว่า " แม่....ตั้งไว้ตรงไหนดี" ดิฉันเดินตามไปพร้อมบอกที่วาง แล้วช่วยกันเทเศษอาหารที่เหลือจากกินเมือวานและเมื่อเช้า เทใส่ถัง พร้อมให้ลูกเป็นคนราดหัวเชื้อ ลูกชอบใจ บอกแม่ "เหมือนราดช็อคโกแลตบนไอติม" พร้อมวิ่งไปหาเศษใบตองหลังบ้านมาใส่อีกอย่างสนุกสนุน
เช้าวันเสาร์นี้ก็เป็นอีกวันที่มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น การมีส่วนร่วมในการทำเพื่อสิ่งแวดล้อม ทำประโยชน์เพื่อคนอืน ขณะเดียวกันก็เกิดกิจกรรมความสัมพันธ์แม่ ลูก...... มีหรือใจเราจะไม่เบิกบาน ขอบคุณเช้าวัน(สุข)เสาร์
ขอบคุณนะค่ะสำหรับความคิดเห็นดีๆและการเข้าร่วมในโครงการ หากมีเพื่อบ้านสนใจก็สมัครเพิ่มได้นะค่ะ
ธัญญา(ผู้ประสานงานโครงการ)