วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
บริเวณใกล้เคียงกับชุมชนคริสต์ศาสนา เป็น ชุมชนพุทธศาสนา ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ไทยมีการติดต่อทางการทูตและค้าขายกับชาวจีนมาขึ้น อีกทั้งยังมีชาวจีนเข้ามารับราชการในไทยจำนวนมาก สยามและจีนต่างก็นับถือศาสนาพุทธเหมือนกัน ต่างกันเพียงลัทธิหรือนิกายเท่านั้น
ต่อมา พ.ศ. 2368 หนึ่งในข้าราชการไทย-จีน ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา คือ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) ต้นสกุลกัลยาณมิตร ว่าที่สมุหนายก ได้มอบที่ดิน ซึ่งเป็นที่พักอาศัยบริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ฝั่งใต้ เพื่อสร้างวัดถวายเป็นพระอารามหลวง และอนุญาตให้สร้างพระอุโบสถคร่อมบริเวณบ้านของท่านด้วย ทำให้บริเวณวัดกัลยาณมิตรกลายเป็นแหล่งชุมชนแห่งใหญ่ที่มีทั้งพุทธศานิกชนชาวไทยซึ่งนับถือลัทธิเถรวาท (หีนยาน) กับพุทธศาสนิกชนเชื้อสายไทย-จีน ซึ่งนับถือลัทธิมหายาน ต่างมาประกอบกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันเสมอ และเนื่องจาก เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต) มีเชื่อสายจีน ลักษณะสิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมจึงมีรูปแบบของพุทธนิหายมหายานผสมผสานอยู่ด้วย
ศิลปะจีนผสมผสานอย่างลงตัว
โดยรัชกาลที่ 3 พระราชทานนามว่า “วัดกัลยาณมิตร” (วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร) และทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานพระราชทาน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ชื่อ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือ หลวงพ่อโต ด้วยมีพระประสงค์จะให้เหมือนกรุงเก่า คือ มีพระโต อยู่นอกกำแพงเมือง อย่างเช่น วัดพนัญเชิง
หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะอย่างสูง โดยเฉพาะในหมู่ชาวจีน และมีชื่อเรียกแบบจีนว่า ซำปอฮุดกง หรือ ซำปอกง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 5 วา 3 ศอกคืบ สูง 7 วา 2 ศอกคืบ 10 นิ้ว
สำหรับพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ (ป่าเลไลย์) ซึ่งรัชกาลที่ 3ทรงสร้างพระราชทานเช่นกัน และเป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์
ส่วนภายในพระภายในอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังแสดงพุทธประวัติ และแสดงชีวิตชาวบ้านในสมัยรัชกาลที่ 3 และยังมีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกสมัยรัชกาลที่ 4
ศิลปะแบบไทยที่สวยงาม
หน้าวิหารหลวงเป็นหอระฆังที่เพิ่งสร้างใหม่ เก็บระฆังยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
พุทธศาสนิกชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบวัดกัลยาณมิตร และชุมชนใกล้เคียง แม้จะมีความเชื่อที่แตกต่างกันบ้างระหว่าง 2 นิกาย แต่สามารถทำกิจกรรมทางศาสนาร่วมกันได้เป็นอย่างดีตลอดมา
ตอนหน้าจะกล่าวถึง “ชุมชนมุสลิม” โปรดติดตาม
หญิง สคส.
ไม่มีความเห็น