การเสวนาเครือข่าย UKM ครั้งที่ 10 ผ่านไปแล้วเกือบครึ่งเดือน (ตั้งแต่ 27-28 พค.50) แต่การเดินทางยังมีกลิ่นไอของความประทับใจอยู่ตลอด ไม่บันทึกไว้คงไม่ได้ เพราะบันทึกการเดินทางนี้ตั้งใจเก็บไว้ตั้งแต่ช่วงเดินทางแล้ว แต่ (ข้ออ้าง) เหตุผลก็คือ ไม่มีเวลา ... เรื่องของเรื่องคือ ตัวเองจัดสรรเวลาไม่ดีนั่นเอง งานนี้บอกได้ว่า ในนามของหนึ่งในผู้ประสานงานของ มน. ก็คิดว่า ประทับใจทีม ม.วลัยลักษณ์มาก ๆ ในการทำงาน ในการประสานงานที่ดี การต้อนรับที่อบอุ่น โดยเฉพาะเราทีม มน.ได้ไกด์ประจำรถ คือ พี่สุ ดาว UKM-10 ครั้งนี้ด้วย ซึ่งท่าน ๆ อาจได้เห็นโฉมหน้าอันน่ารักแบบชัด ๆ จากหลายบันทึกแล้ว บันทึกนี้จึงขอแกะรอยการเดินทางของทีม มน. ด้วยภาพดังนี้ค่ะ
ช่วงแรกเป็นการเดินทางของทีม มน. ที่มาถึงเมืองคอนแล้วก็ได้ไปสักการะบูชาองค์พ่อจตุคามรามเทพที่วัดพระธาตุฯ ได้กินมังคุดคัดด้วย แล้วไปทานอาหารเย็นที่ร้านชาวเรือ อาหารอร่อยมาก ๆ แม้จะรสจัดไปหน่อย ตอนกลางคืนก็ไปเดินเล่นหน้าโรงแรมที่พัก แล้วก็นั่งพักเหนื่อยกันข้างถนนเลย ก่อนจะกลับไป BAR กันต่อที่โรงแรม
ช่วงที่สองเป็นการ BAR เป็นบรรยากาศของทั้ง 2 วัน ซึ่งเวลาก็ใกล้เคียงกันคือประมาณ 4 ทุ่มนิด ๆ ใครๆ ก็จะกลัวกับการ BAR ของ อ.วิบูลย์มาก เพราะพลังของ อ.วิบูลย์จะออกมาในช่วงที่คนอื่นใกล้หมดพลัง จะ BAR จนเพลิน (ครั้งหนึ่งเพลินไปจนถึงตี 1 ก็เคยมาแล้ว) สังเกตว่าการ BAR ของทั้ง 2 วัน สภาพของแต่ละท่าน จะโดนดูดพลังไปตาม ๆ กัน วันแรก เป็นการ BAR ว่าเป็นอย่างไร มวล.เค้าต้อนรับเราดีไหม การจัดงานดีไหม มาวันที่ 2 BAR กันว่าบรรยากาศในกลุ่มเป็นอย่างไร ได้อรรถรสกันมากน้อยอย่างไร งานนี้หลายกลุ่มที่ตัวแทนของ มน.ได้รับเลือกให้เป็น Best Practice อ.วิบูลย์ก็ให้เล่าว่าเรื่องอะไร อย่างไร จนได้รับการปราม ๆ ว่า เล่าสั้น ๆ พรุ่งนี้ก็ได้ฟัง (ความจริง ง่วงกันมากแล้ว .. แอบเห็น อ.วิบูลย์ค้อนเล็กน้อย เพราะตัวเองพลังยังไม่มีลดเลย 5555555)
ช่วงสุดท้ายเป็นบรรยากาศการประชุมที่ท่านอธิการบดีของ มวล.มาเปิดงาน และมีช่วงเพิ่มมิตรพิชิตใจ ถ้าเป็นนิสิตก็คือการละลายพฤติกรรม ให้เราได้หัวเราะสนิทคุ้นเคยกันมากขึ้น งานนี้ได้เห็นผู้บริหารระดับหลายที่ได้มาโยกย้ายส่ายสะโพกกันด้วย ความจริงเราห่วง อ.วิบูลย์กันมาก เพราะอ.วิบูลย์กลัวกับเสียงเพลงและกิจกรรมเข้าจังหวะมาก เพราะ อ. เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยเรียน ป.ตรี เรื่องเชียร์ แค่ปรบมือ อ.ยังปรบมือได้ไม่เข้าจังหวะกับเค้าเลย จะต้องปรบมือให้เกินคนอื่นตลอด แต่งานนี้ อ.วิบูลย์ผ่าน เต้นเข้าจังหวะได้สวยงาม แต่คนที่ผิด Step กลับเป็นใครหนอ สังเกตภาพล่างสุด คนอื่นเค้าเอามือแตะไหล่กันหมด ตัวเองยังแบมืออยู่เลย 55555 พี่ Super บอยสุดหล่อของเราน่ะเอง
ภาพช่วงการเต้นนี่ผู้ถ่ายภาพเป็นคุณตูน และพี่เมตตา แอบได้ยิน 2 คนนี้พูดกันว่า เราไปถ่ายรูปกันเหอะ จะได้ไม่ต้องเต้น แหมมมมม ไม่ค่อยเลยนะเนี่ย
จบการประชุมนี้ได้รับความประทับใจมากมาย ด้านงานก็มีความตั้งใจจะตั้ง CoP ของผู้ประสานด้วย งานนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากพี่ดุจแขคนสวยจาก ม.มหิดล ความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบกันต่อไปค่ะ
กลับมาถึงพิษณุโลกตอนตี 3 ของวันที่ 29 พค.50 เช้ามา 8.30 น.มาทำงานตามปกติ ได้รับโทรศัพท์ทางไกลว่า “น้องโอหรอคะ พี่สุนะคะ เดินทางปลอดภัยนะคะ ขอให้โชคดีค่ะ” เป็นการดูแลที่ดีมากไหมล่ะ ..
จบงานนี้ต้องฝากถึง คุณน้องแจ๊ค สุดหล่อแห่ง ม.มหาสารคาม อีกที พอได้พบกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันแล้วรู้ว่าตัวเองเด็กกว่า 1 ปีเท่านั้น เรียกพี่โอ พี่ตูน ทุกคำเลยล่ะ ไม่เด็กมั่งให้มันรู้ไปนะน้องแจ๊ค ... อ่อ คำพูดที่ติดปากคุณวิชิต มมส. ก็นะ “แล้วเชื่อหมล่ะ แล้วคิดว่าจริงไหมล่ะ” งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ขาอำ มาเองเลย มาอำชาว มน.กันถ้วนหน้าเลย ... ส่วนทีม มอ.ก็ได้ไปกินร้านโกปี๊ด้วยกัน (ไปได้ยังไงไม่รู้นะเนี่ย) ก่อนกลับได้กอดกันกลมเลย ทั้ง พี่แป๊ด พี่เมตตา เสียดายทำไมไม่ได้กอด น้องแป้นนะเนี่ย ...
รัตน์ทวี อ่อนดีกุล
บรรยากาศครึกครื้นจังเลยเนอะ .... อนาคตคงได้ไปมั่ง หุหุ
ทีมKMของ ม.นเรศวรเข้มแข็งจริงๆค่ะ
อ้าว เค้าไปกอดกันตอนไหนเนี่ย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย เสียดายจัง เอาน่าเจอกันคราวหน้าค่อยมากอดกันนะคะ แต่พี่จิ๊บบอกว่าก่อนกอดต้องขออนุญาติพี่จิ๊บก่อน ไม่งั้นไม่ให้กอด อิอิ
ช่ายค่าพี่โอ แป้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ(อายุสมองนะ) 555 ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ปกครอง :)