อนุทิน 23852


Sasinand
เขียนเมื่อ

กลับบ้านมาแล้ว ก็ยังมาคุยกับคุณหมอต่ออีก ถึงเรื่องบริษัทจัดอันดับ ความน่าเชื่อถือต่างๆ ซึ่งค่อนข้างมีอิทธิพลมากพอควร

ของเมืองไทย มี 2 แห่งด้วยกันคือ บริษัท ฟิทซ์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีผู้ถือหุ้นทั้งจากต่างประเทศ    และผู้ถือหุ้นคนไทยด้วยกันเอง ของทางฝ่ายไทย ประกอบด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กสิกรไทย จำกัด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ทิสโก้ จำกัด, บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด และ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
รวมทั้ง บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการลงทุนในภาคเอกชนของ
ธนาคารโลก เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในจำนวน 10.0%
อีกบริษัท คือ "ทริส เรทติ้ง"
เป็นบริษัทของคนไทย 100% เพราะถือหุ้นโดยบริษัท ไทยเรทติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส จำกัด ที่มีกระทรวงการคลัง , กลุ่มธนาคารพาณิชย์ , ธนาคารออมสิน , ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือหุ้นใหญ่
ภายใต้การแข่งขันที่รวดเร็วและเข้มข้น ทำให้เหล่าบริษัทต่างๆที่ต้องการยกระดับและรักษาความเป็น "ผู้นำ" ในธุรกิจ เริ่มแสวงหา "พันธมิตร" และ "แหล่งเงินทุน" เพื่อใช้เป็น ทุนในการดำเนินการ
การหาทุน
นอกจากการ "กู้ยืม" สถาบันการเงินแล้ว การออกตราสารทางการเงินเพื่อระดมทุนจากนักลงทุน ก็เป็นวิธีหนึ่งของการระดมทุนที่ได้รับความนิยมอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากมีต้นทุน ต่ำ กว่าการกู้เงิน

ผลที่ตามมาก็คือ ธุรกิจการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารทางการเงิน ที่เรียกว่า Credit Rating Agency หรือบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หรือคุณภาพและความเสี่ยงของตราสาร จึงมีความจำเป็นและสำคัญอีกด้วย 
เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักลงทุน ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท