บันทึกอนุทินครั้งที่ 2
วันที่ : 3 สิงหาคม 2557
เรื่อง : การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ , เสวนาอาเซียน
วิชา : การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้
ผู้สอน : ผศ. ดร. อดิศร เนาวนนท์
ผู้บันทึก : นางสาวอภิญญา รักพุดซา รหัสประจำตัว 57D0103121
ระดับปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ภาคพิเศษ หมู่ 1
1. การเตรียมตัวล่วงหน้าในการเรียนแต่ละครั้ง
ได้ศึกษาหลักและแนวคิดในการจัดการความรู้ การจัดการความรู้หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า KM คือ เครื่องมือ เพื่อใช้ในการบรรลุเป้าหมายของงาน บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้
2. ความคาดหวังในการร่วมกิจกรรม
2.1 ความเข้าใจในการจัดการความรู้ หลักการที่ใช้ในการจัดการความรู้
2.2 ความรู้ความเข้าใจในการบรรลุเป้าหมายทั้ง 3 ประการ คือ งาน คน และองค์กร
2.3 เพราะเหตุใดจึงเปรียบเทียบการจัดการความรู้เหมือนกับปลาทู ที่มีส่วนประกอบ 3 ส่วน คือ หัวปลา ตัวปลา และหางปลา
เนื่องจากวันนี้ต้องเข้ารับการอบรม "เสวนาอาเซียน" การเรียนการสอนในวันนี้จึงเลื่อนไปเรียนในสัปดาห์หน้า ดังนั้นความคาดหวังในการเข้าอบรม "เสวนาอาเซียน" วันนี้คือ อยากทราบความแตกต่างของหลักสูตรที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในประเทศอาเซียนว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร
3. ความรู้ความเข้าใจที่ได้รับ
การเสวนาอาเซียนในวันนี้ มีวิทยากรมาให้ความรู้จาก 4 ประเทศด้วยกัน คือ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม กัมพูชา และสิงคโปร์ หลักสูตรที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของประเทศอาเซียนทั้ง 4 ประเทศนั้น มีความแตกต่างกันในด้านของหลักสูตร ระยะเวลาในการเรียน รูปแบบการจัดการเรียนการสอน แต่สิ่งหนึ่งที่ 4 ประเทศนี้พึงมีร่วมกัน คือ "วินัย" ทั้ง 4 ประเทศจะปลูกฝังความมีวินัยให้กับนักเรียน ตั้งใจเข้มงวดกวดขันเรื่องวินัยให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติจนเกิดความเคยชิน มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการศึกษาในทางที่สร้างสรรค์ ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางการศึกษาได้อย่างรวดเร็ว นักเรียนและผู้ปกครองในสิงคโปร์จะให้ความสำคัญในเรื่องของการเรียนเป็นอย่างยิ่ง นับได้ว่าเป็นการจัดการเรียนการสอนเพื่อมุ่งเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง
จะเห็นได้ว่าหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ละประเทศมีทั้งส่วนที่แตกต่างกัน และบางอย่างก็คล้ายกัน เช่น เมื่อเทียบกับประเทศไทยแล้วหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานในประเทศฟิลิปปินส์คือ 12 ปี เช่นเดียวกับประเทศไทย ประเทศกัมพูชาในสมัยก่อนผู้หญิงไม่ได้เรียนหนังสือ และผู้ชายก็จะเรียนที่วัดเช่นเดียวกับประเทศไทย ส่วนเวียดนามและสิงคโปร์เน้นที่วิชาการมากกว่ากิจกรรม แต่ท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายของหลักสุตรแต่ละประเทศนั้นย่อมเหมือนกัน หากจะเปรียบกับการเดินทางอาจต่างกันที่เดินทางคนละเส้นแต่จุดหมายปลายทางคือจุดเดียวกันนั่นเอง
4. ความคิดเห็นหรือประเด็นที่เรียน
จากการ "ฟังเสวนาอาเซียน" ข้าพเจ้ามีความคิดเห็นว่าการศึกษาของชาติไทยเราก้ไม่ได้แพ้ชาติใดในโลกแต่ปัจจุบันนี้เด็กไทยมองข้ามในเรื่อง "วินัย" ในการศึกษา ทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน อยากให้นักเรียนไทยให้ความสำคัญในเรื่องของการศึกษาและมีวินัยในตนเองมากกว่านี้ สิ่งสำคัญควรใช้เทคโนโลยีในทางที่สร้างสรรค์เกิดประโยชน์ เพื่อที่จะเป็นบุคคลคุณภาพมีศักยภาพในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป
5. การนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนและปฏิบัติงาน
ความรู้ที่ได้รับในวันนี้เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานของแต่ละประเทศ สิ่งที่ควรนำไปใช้เป็นแบบอย่างในการพัฒนาทั้งต่อตัวข้าพเจ้าเองและในการทำงานของข้าพเจ้าก็ตาม คือ เรื่องของความมีวินัยในตนเองไม่ว่าจะทำการสิ่งใด สิ่งสำคัญในฐานะที่เป็นครูจะนำเรื่องของวินัยไปปลุกฝังให้ผู้เรียนเป็นคนมีวินัย ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน เพื่อที่จะได้ก้าวทันการเป็นผู้เรียนในศตวรรษที่ 21
6. บรรยากาศการเรียน
ภายในหอประชุมอนุสรณ์ 70 ปี อากาศเย็นสบาย ถ่ายเทสะดวก มีการใช้สื่อนำเสนอทันสมัย ในการเสวนา ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่้วมรับฟังการเสวนาอภิปรายร่วมกัน มีการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ นับว่าเป็นบรรยากาศของสังคมแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง
ไม่มีความเห็น