ณ โลกแห่งความจริงที่มากไปด้วยปัญหา ฯ นับวัน จะยิ่งพบความหยาบ ความผิดศีลที่หนักมากขึ้น ๆ เริ่มจาก ศีลพื้นฐาน ทั้ง ๕ ข้อ ที่พบว่า..มีการกระทำความผิดแบบ เห็นโต้ง ๆ ตำตา ในการประกอบมิจฉาอาชีพ ก็เช่น การทำผิดศีล ข้อ ๑ การฆ่า เป็นปกติ ข้อ ๒ การลัก มุ่งจ้องเอาสิ่งที่ มิใช่ เป็นของตนมาเป็นของตน ของพวกตน นับร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน แสนล้าน ฯลฯ โดย ปวงประชามหาชนต่างไม่คสดคิด ทั้งที่รู้ ที่ไม่รู้ และได้แต่ทำตาปริบ ๆ จนเป็นปกติ...
ในการก่อความผิด I ชนิดก่อความหยาบสุดหยาบในบาปบางข้อ เช่น การผิดศีล ข้อ ๓ ที่ยังพอมีความละอายในการหลงเสพอยู่บ้าง...โดย พยายาม แยก ว่า... นี่ เป็นเรื่องส่วนตัว เป็นพฤติกรรมส่วนตัวนะ
แต่ก็เปิดเผย รู้กัน ในกลุ่มตนว่า..ใคร เป็นอย่างไร ? มักมากระดับใด ? หรือ จักต้องปรนเปรอบรรณาการ ในระดับใด ? กระนั้น คนพวกนี้.. จะก่อกรรมได้หยาบสุด ๆ
คำสอนพระพุทธองค์ การเกิดกิเลสกามนั้น เกิดแต่ดำริ... หากเจ้าคนที่หลงเสพ หลงติดอย่างหนัก ฯลฯ พฤติกรรม ย่อมต่างจากเดรัจฉาน ตรงที่ เดรัจฉาน จะเกิดมีก็เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ และเป็นไปตามสัญชาติญาน ที่เมื่อถึงเวลา โดย แสดงออกแบบไม่อายฟ้าดิน ฯลฯ
ซึ่งบัดนี้ เจ้าคน...ก็เริ่มมีการเลียนแบบที่ไม่อายฟ้าดินมากขึ้นในบางพื้นที่ ในบางกลุ่มสังคม ฯ
ลำดับ ว.๕ แห่งความหยาบ โดยมาก จึงพบชนิดที่...
- ทำ.. ก็อย่าให้รู้
- ถึงรู้.. ก็อย่าให้เห็น
- เห็น.. ก็อย่าให้จับได้
- ถึงจับได้.. ก็อย่าไปรับ
- หากจะรับ.. ก็ให้รับ นิ๊ดเดียว
การจะเพิ่มศักยภาพแห่งคุณธรรม ศีลธรรม ในโลกใบนี้ ให้เพิ่มปริมาณมากขึ้นในแต่ละ % แต่ละ % ในท่ามกลางกระแสโลกีย์ที่เชี่ยวกราก ฯ
จึงเป็นความหนักและสุดยาก.. การที่จะมีผู้ใด หาญกล้าฝ่าแรงเสียดทานที่จักต้องเปลืองตัวอย่างมาก ที่สุด... ด้วยพลังแห่งมหากุศลเจตนา ต้องอาศัยความหนักแน่น อย่างเที่ยงแท้ มั่นคง จากผู้ที่คือ บุคคลธรรมดา ๆ ที่ไม่ธรรมดาที่มีการประมาณกำลังตน เท่านั้น ฯลฯ
แม้กระนั้น อาจจะกล่าว เหมือนจะเท่ห์... ด้วยที่แม้กระนั้น ก็ไม่ได้หวังว่า จะประสพความสำเร็จหรือไม่ ? อย่างไร ?
เพียง มุ่งแสดงเจตนามโนกรรม วจีกรรม กายกรรม แห่งมหากุศลเจตนาอย่างเต็มกำลัง สุดฝีมือแล้ว !!!
ไม่มีความเห็น