สุรศักดิ์ คำนู. 2555. การพัฒนาคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ โดยใช้โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านหันมัญจาคีรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่นเขต 2
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการพัฒนาคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ โดยใช้โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านหันมัญจาคีรี 2) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมเกี่ยวกับคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของนักเรียนก่อนและหลังการพัฒนาโดยใช้กิจกรรมโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านหันมัญจาคีรี 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนเกี่ยวกับคุณลักษณะด้านคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของนักเรียนที่เกิดจากการพัฒนาโดยใช้โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านหันมัญจาคีรี
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใน ปีการศึกษา 2554 จำนวน 199 คน ผู้บริหารและคณะครู ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โรงเรียนชุมชนบ้านหันมัญจาคีรี ประจำปี การศึกษา 2554 จำนวน 21 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนชุมชนบ้านหันมัญจาคีรี ในปีการศึกษา 2554 จำนวน 13 คน ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนชุมชนบ้านหันมัญจาคีรี ประจำปีการศึกษา 2554 จำนวน 194 คน รูปแบบการวิจัยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการ โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม จำนวน 8 กิจกรรม ประกอบด้วย กิจกรรมวันสำคัญ กิจกรรมสวดมนต์สุดสัปดาห์ กิจกรรมเข้าค่ายพุทธธรรมนำชีวิต สู่ความพอเพียง กิจกรรม 5ส กิจกรรมแข่งขันกีฬาสี สร้างสามัคคีให้สังคม กิจกรรมต่อต้านยาเสพติด กิจกรรมออมทรัพย์วันละนิดชีวิตสดใส กิจกรรมเด็กดีศรีมัญจา เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถามความสอดคล้องและความเหมาะสมของกิจกรรมพัฒนาคุณธรรม พื้นฐาน 8 ประการกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายของกิจกรรมนั้น ๆ แบบสอบถามพฤติกรรมเกี่ยวกับคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของนักเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจเกี่ยวกับคุณลักษณะด้านคุณธรรมพื้นฐาน 8 ประการ ของนักเรียนโดยใช้โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมในโรงเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลข้อมูลเชิงคุณภาพและข้อมูลจากการประเมินรายงานโครงการใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์โดยการแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า t-test แบบ Independent ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป
ผลการวิจัย พบว่า
บันทึกลักษณะนี้น่าจะเขียนในบันทึกมากกว่าในอนุทินนะคะ ศึกษารายละเอียดการใช้งานได้ที่ คู่มือ GotoKnow (ฉบับย่อ) .pdf ค่ะ
ขอบคุณครับ ...พึ่งหัดเล่นครับ ...เป็นสมาชิกตั้งนานแล้วหล่ะ...แต่ค่อนข้างจะโทเทคหน่อย