"ตอนเด็กๆ ผมแก้ผ้ากระโดดน้ำมูล ตูมๆๆ!!ยังงี้ละครับ สนุกมาก"
เรื่องร้อนแล้งนี้ เป็นมรดกตกทอดอันแสนหดหู่ที่เกิดจากผลพวงการพัฒนา แม้ทุกวันนี้ฝ่ายหนึ่งจะตั้งหน้าตั้งตาพูดถึงวิกฤตโลกร้อน แต่มอดไม้อีกหลายหมื่นก็กำลังแทะโลมธรรมชาติอย่างเลือดเย็น โครงการปลูกป่ารักษาดูแลธรรมชาติอยู่ในระดับน้ำจิ้มเท่านั้น ยังห่างไกลจากความจริงมากนัก จำเป็นที่จะต้องมีนโยบายที่ชัดเจนในทางปฏิบัติระดับกระแสชาติ เจอหน้าก็ถามกันว่า
..คุณปลูกต้นไม้แล้วหรือยัง
ส่งเสริมการเรียนรู้ให้ตระหนักว่า นี่คือหน้าที่มนุษย์ทุกคน ในการที่จะช่วยจรรโลงโลกอย่างเป็นรูปธรรม ในส่วนของการบรรเทาหรือชะลอมลภาวะต่างๆ เป็นปัญหาของพลเมืองโลกอยู่แล้ว ที่จะรับมือกับชะตากรรมความร้อนรนทุกมิติด้วยกัน ..และหนนี้ยากจะเล่นตลกได้ มันสะท้อนความวิบัติให้เราเผชิญแบบตาต่อตา คำพูดที่ว่าคนไม่ทำไม่ดีจะตกนรกกระทะทองแดง วันนี้มาถึงแล้ว แต่คนเราก็ยังงุ้มมะง่าหรายี่ยักยี่หย่อนตามจริตมนุษย์ขี้เหม็น
วันที่31 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดสัมมนาเชิงวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ที่โรงแรมตักสิลา จังหวัดมหาสารคาม งานนี้จอมยุทธด้านสิ่งแวดล้อมมากันคับคั่ง ศ.ดร.สนิท อักษรแก้ว ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย รศ.จีระพรรณ สุขศรีงาม คณบดี คณะวิทยาศาสตร์ นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณกูร ผู้ช่วยกรรมการอาวุโสบริษัทโตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นางอารีวัฒนา ทุมมาเกิด ผู้อำนวยการกลุ่มวิเคราะห์มาตรการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
มีหัวข้อหนึ่งน่าสนใจมาก “การรับมือกับภาวะโลกร้อนในภาคอีสาน” โดย ผศ.ดร.วิสิฏส์ เจริญสุดใจ ผู้ช่วยอธิการฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในช่วงบ่ายจะเป็นการสัมมนาทางวิชาการ หัวข้อ “อันฟ้าหลงทีปแม่นหย้อนว่าโลกฮ้อน” มีรศ.ดร.สมพงษ์ ธรรมถาวร คณบดีสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนสุรนารี ผศ.ดร.วรรณวไล อธิวาสพงศ์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นอกนั้นเป็นพวกเราตัวแทนชาวบ้าน ที่จะไปผสมผเสเฮฮาศาสตร์ ดำเนินรายการโดย คุณนิรมล เมธีสุวกุล
การบ้านเฟสนี้ ยังชอบใจหัวข้อ“การรับมือกับภาวะโลกร้อนในภาคอีสาน” เพียงแต่อยากจะมองมุมที่พวกเราชาวบ้านจะริเริ่มทำอะไรกันได้บ้าง การปลูกต้นไม้ ปลูกผักสวนครัว ปลูกพืชน้ำมันพลังงานทดแทน ที่เร็วๆนี้ท่านเล่าฮูส่งรายละเอียดมาให้ดูว่า บริษัทในประเทศอังกฤษสนใจที่จะมาลงทุนปลูกพืชน้ำมันบ้านเรา
โจทย์เรื่องชาวโลกหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนที่ทำจากพืชแทนน้ำมันหรือพลังงานอื่นเช่นก๊าช หรือถ่านหิน มีความจำเป็นสูงมาก เจ้าพืชเกษตรที่กล่าวถึงนี้มีอะไรบ้างละ ปาล์มน้ำมัน อ้อย มันสำปะหลัง สบู่ดำ น้ำมันพืชใช้แล้ว กิจการส่วนนี้กำลังร่างพิมพ์เขียวกันอย่างขะมักเขม่น ขืนชักช้า..วันนี้น้ำมันพืชหายไปจากหิ้ง รัฐฯต้องประกาศขึ้นราคาเป็นการด่วนขวดละ4บาท เริ่มเอาล่อเอาเถิดกันแล้วสิ แม่บ้านมาบอกว่า..รำ และหัวอาหารสัตว์ขึ้นราคาไป20%
ผู้สันทัดกรณีคาดการณ์ว่า เมื่อเราเอาสินค้าพืชน้ำมัน เช่น ข้าวโพด ถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม อ้อย มันสำปะหลังมาผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้าทางด้านพืชผลการเกษตรจะเป็นที่ต้องการในประมาณมากขึ้น เมื่อต้นปี2550 ราคาข้าวโพดพุ่งกระฉูดเป็นประวัติการณ์ ตันละ175 ดอลล่าร์สหรัฐ ราคาเฉลี่ยแพงกว่าปี2549 ราว50% จากจากนั้นสินค้าพืชน้ำมันตัวอื่นก็เรียงหน้ากระดานขึ้นไล่เลี่ยกัน ทำให้คิดว่า รึ! วิกฤติน้ำมันประชันกับโลกร้อน จะทำให้มนุษย์ย้อนมาศึกษาธรรมชาติอย่างตรงไปตรงมามากขึ้นกรณีเหล่านี้เหมาะที่จะฟังหูไว้หู หรือเป็นโจทย์ทำการค้นคว้าวิจัยต่อ ในความเห็นของผม ถ้าชี้ชวนให้คนไทยปลูกต้นไม้ได้คนละ100ต้น ปลูกผักสวนครัวอย่างที่ท่านเกษตรพอเพียงเล่าฟังส่งรูปมาให้ดู สังคมชนบทบ้านเราก็จะเกิดกรณีเกษตรกร3กลุ่ม คือ
1. กลุ่มดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ทำไร่ทำนา ปลูกต้นไม้ ดำเนินกิจกรรมเกษตรอินทรีย์ นิยมวิถีชีวิตแบบพึ่งตนเอง สนุกและใส่ใจกับการเรียนรู้
2. กลุ่มยกธงขาว หนีจากเกษตรกร ไปเป็นกรรมการ หนีไปพึ่งพาภายนอก ถอดใจไม่สู้แล้วงานการเกษตร ไปเป็นมนุษย์เงินเดือนดีกว่าเงินดิน
3. กลุ่มชะลอหลังยาว มนุษย์พันธุ์เอื้ออาทร ใครชวนทำอะไรไม่ทั้งนั้น ฉันจะอยู่เฉยๆ แต่อยากจะรวยมากๆ รวยง่ายๆ รวยเร็วๆ ชอบซื้อหวย ค้ายาบ้า เล่นการพะนัน ขายทุกอย่างที่ขวางหน้า เรื่องขายเสียงนั้นจิบจ๊อยเต็มที อะไรที่คนซื้อขายหมด ขายลูกเมียให้ฝรั่ง สายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์อยู่ที่สูงๆยังปีนไปตัดมาขาย
ผมชื่นชมกลุ่มสมาชิกชาวBlogมาก เท่าที่บอกเล่ากันมา ก็เห็นว่าทุกท่าน ทุกครัวเรือน ชอบและปลูกต้นไม้กันถ้วนหน้า ก็ได้แต่ฝันว่าจะเห็นชุมชนที่มีมนุษย์หัวใจสีเขียว ช่วยกันตั้งใจที่ปลูกผักสวนครัว เพิ่มสัดส่วนครัวเรือนเกษตรอินทรีย์ให้มากขึ้น ปีละ10-20%ก็ยังดี เพื่อที่เราจะได้เห็นความต่างระหว่างเกษตรอินทรีย์ กับ เกษตรหลังยาว เกิดผลในทางเปรียบเทียบกันง่ายๆว่า สิ่งไหนดีไม่ดีอย่างไร? พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะผมก็ยังมีปัญหาเหมือนกัน ยังไม่รู้ว่า..
จะพัฒนาตัวเองให้มีความรู้พอเพียงได้อย่างไร?
จด ๆ
สิ้นเดือนนี้จะไม่ไปไหนน๊า...ไปฟังพ่อครูบาดีกั่ว
คลายร้อน (ใจ) อิอิ จะสอบปลายภาคแล้วค่ะพ่อ แต่อ่านหนังสือไม่ถึงไหนเลยค่ะ โครงการร้อยแปดพันเก้า (เกล้า...ด้วยจนจะคอหักแล้ว...)
ขยัน อดทน ตั้งใจเรียน หุ่นจะดีขึ้น อิอิ
พวกที่อาจารย์ให้ถาม เขาไม่สามารถคิดแบบอิสระ มีโจทย์อีแอบในใจกันทั้งนั้น ขนาดไม่ถาม เขายังหมั่นไส้ปลับเปลือก
เรื่องสาหร่าย น่าสนใจ เพิ่งเคยได้ยิน พวกนักคิดเขาคงค้นต่อๆไป ถ้ามีคนลงทุนผลิตแผงโซล่าเซลที่คุณภาพดี ราคาถูก ให้ชาวบ้านใช้เราจะประหยัดพลังงานได้บ้าง ที่เห็นติดกันในชนบท พอเสียแล้วก็เป็นขยะ หาคนซ่อมรับผิดชอบไม่ได้ ควายบริหารงานก็อย่างนี้ละครับ
โอ้โฮ -ข้อมูลมาเป็นตับเลย ขอบคุณมากครับ จะได้ศึกษา ต่อๆไป
ต้นสำโรง นี่ก็ให้น้ำมันคุณภาพดีมาก ได้ต้น ได้น้ำมัน ได้เปลือกผลไปทำสมุนไพร เห็นมีผู้กำลังวิจัยเหมือนกัน แต่ช้าหน่อย ประมาณ 8 ปี ถึงจะติดผล
ขอยกมือสนับสนุนแนวคิดของ ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
มหาชีวาลัยอีสาน
และอาจารย์ Lin Hui ครับ
โดยเฉพาะเรื่องสาหร่าย กระผมเคยสังเกตุบ่อที่มีสาหร่ายขึ้นหนาแน่นจะมีคราบน้ำมันลอยอยู่ที่ผิวน้ำ กระผมเคยให้แนวคิดให้นักเรียนไปสังเกตุและลองทดลองหาวิธีเพิ่มปริมาณน้ำมันจากสาหร่ายว่าจะใช้กระบวนการอะไรมาแทนการรอการเปลี่ยนแปลงจากการทับถมของซากพืชซากสัตว์ พื้นที่ชุ่มน้ำวันนี้อาจกลายเป็นบ่อน้ำมันในเวลาอันใกล้ แต่จะจัดการอย่างไรให้มีผลกระทบน้อยที่สุดเป็นเรื่องสำคัญ กันไว้ก่อนดีกว่ามาแก้ทีหลังจริงหรือเปล่าครับ
ขอบคุณอาจารย์วุฒิชัย ที่ช่วยชวนนักเรียน สนใจเรื่องพลังงานในธรรมชาติอย่างสนุก ลูกศิษย์อาจารย์อาจจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่โด่งดังในอนาคตก็ได้
สวัสดีครับทุกท่าน
เข้ามาเป็นกำลังใจให้ทุกท่านครับ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับความคิดดีๆ ที่อ่านแล้วรับรู้แล้วสบายใจ อิ่มใจครับ
ขอบพระคุณมากๆ นะครับ
ป้าจุ๋ม
มาคราวนี้รวบรวมงานวิจัย สำโรงมา ด้วยดีไหม
จะได้ทำเนื้อหาในการอบรม ด้วย
ครูวุฒิ
ขอบคุณของฝากมหาศาล