สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานการศึกษาวิจัยประชากรมากกว่า 27,000 คนจาก 52 ประเทศทั่วโลกโดยทีมของศาสตราจารย์ซาลิน ยูซุฟ จากมหาวิทยาลับออนตาริโอ แคนาดาพบว่า ไขมันรอบพุง(ท้อง)หรือที่เรียกว่า “พุงเบียร์ (classic beer gut)” เนื่องจากคนที่กินเบียร์มักจะมีรูปร่างอ้วนแบบนี้ มีอันตรายมากกว่าไขมันที่ต้นขา
สาเหตุอาจเป็นจากไขมันรอบพุงปล่อยสารเคมีหลายอย่างออกมา ทำให้เซลล์ในเนื้อเยื่อต่างๆ ดื้อต่ออินซูลิน เมื่อเซลล์ร่างกายดื้อต่ออินซูลินจะทำให้ตับอ่อนต้องทำงานหนักขึ้น น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ตามมาด้วยเบาหวาน และความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ นอกจากนั้นบริเวณเอวยังมีเนื้อ(กล้ามเนื้อ)มากกว่าพุง(ท้อง)
สถิติทั่วโลกพบว่า โรคอ้วนพบมากในประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ฯลฯ และพบน้อยที่สุดในเอเซีย แต่เมื่อพิจารณาสัดส่วนรอบพุงต่อรอบเอว (waist-to-hip ratio) แล้วพบว่า กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดีอารเบีย อียิปต์ ฯลฯ เอเชียใต้ เช่น อินเดีย ปากีสถาน ฯลฯ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน เช่น สิงคโปร์ ไทย ฯลฯ มีปัญหาเรื่องสัดส่วนรอบพุงต่อรอบเอวมากกว่า
นั่นหมายความว่า โรคหัวใจกำลังจะพลิกผักจากโลกตะวันตก(ฝรั่ง)มาสู่โลกตะวันออก(ตะวันออกกลางและเอเชีย...)มากขึ้นด้วย
เราๆ ท่านๆ ที่ต้องการความปลอดภัยจากโรคเส้นเลือดหัวใจน่าจะหันมากินอาหารประเภทพืชผักให้มากขึ้น อาหารประเภทหวาน มัน เค็มให้น้อยลง(หวานมันทำให้อ้วน เค็มทำให้เสี่ยงต่อโรคความดันเลือดสูง) แอลกอฮอล์(เหล้า เบียร์ ไวน์...)ทำให้ลงพุงแบบถังเบียร์ได้ง่าย เลิกเสียเลยดีที่สุด ออกกำลังกายให้มากขึ้น และใช้แรงในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น รอบพุงจะได้ไม่มากกว่า...รอบเอว
หมายเหตุ:
แหล่งข้อมูล:
ไม่มีความเห็น