KM ในแปลงพืชของเกษตรกร : ในการส่งเสริมระบบพืชแก่เกษตรกรนั้น หากเป็นพืชต่างๆที่ชาวบ้านคุ้นเคยนั้นเจ้าหน้าที่อาจไม่มีบทบาทมากนัก เพราะเกษตรกรจะมีทักษะอยู่แล้ว อาจจะเพิ่มเติมหลักการทางวิชาการบ้าง แต่หากเป็นพืชเศรษฐกิจในระบบสมัยใหม่นั้นเกษตรกรต้องการองค์ความรู้ต่างๆเพื่อบริหารจัดการระบบพืชมากขึ้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่างๆอันเนื่องมาจากโรค แมลงและอุปสรรคต่างๆ ดังนั้นการพัฒนาเกษตรกรในระบบพืชเช่นนี้จำเป็นต้องใช้วิธี F2F system ที่รียกชื่อเฉพาะว่า Visiting and Coaching หรือ V&C system ซึ่งมีขั้นตอน 3 ขั้นตอนหลัก คือ ก่อนการปลูก ระหว่างการปลูก และหลังการปลูก
ขั้นตอนก่อนการปลูกมีดังนี้
· เจ้าหน้าที่สำรวจบริษัทธุรกิจเกษตร ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นบริษัท ชนิดพืชที่น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน หากน่าสนใจก็เตรียมจดหมายเชิญมาพบเกษตรกร
· ประชาสัมพันธ์เกษตรกรเป้าหมายว่าจะจัดการประชุมเรื่องระบบการปลุกพืชและแนะนำพืชเศรษฐกิจในปีการเพาะปลูกนี้
· จัดงานวันนัดพบ ดำเนินรายการโดยคำนึงผลประโยชน์ของเกษตรกรมากที่สุด ร่วมพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ สอบถามแหล่งปลูกเดิมว่ามีที่ใดบ้างเพื่อศึกษาดูงานหรือเสวนากับผู้มีประสบการณ์มาก่อน
· ลงทะเบียนเกษตรกรผู้สนใจระบบพืชต่างๆ จัดเก็บข้อมูลจำนวนเกษตรกร จำนวนพื้นที่ ชนิดพืชที่เกษตรกรสนใจ ที่ตั้งพื้นที่ที่เกษตรกรตั้งใจว่าจะปลูกพืช
· จัดประชุมเกษตรกรรายพืชที่สนใจ ขยายความรู้ ความเข้าใจ พิจารณาละเอียดถึงสัญญาระหว่างบริษัทกับเกษตรกร ดูความเสี่ยง ความได้เปรียบเสียเปรียบ
· ส่งรายชื่อที่เกษตรกรตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะปลูกพืชชนิดนั้นๆให้แก่ตัวแทนบริษัทแล้วประสานงานการกำหนดการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิดต่อไป
ขั้นตอนระหว่างการเพาะปลูกพืช คือการเยี่ยมแปลง หรือ V&C system วัตถุประสงค์ที่สำคัญคือ การเข้าไปพบปะพูดคุยกับเกษตรกรให้ได้ยินกับหู ให้เห็นกับตา และสัมผัสด้วยมือจริงๆ พร้อมกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหากจำเป็นต้องให้คำแนะนำต่างๆที่เป็นความรู้ทางวิชาการก็พิจารณาดำเนินการให้เหมาะสมกับองค์ประกอบการเรียนรู้ของเกษตรกรคนนั้นๆ
· ได้รู้จักแปลง สภาพแปลง ความเหมาะสมต่างๆ ทำเล ที่ตั้งแปลง ปัญหา อุปสรรคที่อาจจะมี
· ได้รู้จักคน คือเจ้าของแปลง ความคิดเห็น ความรู้สึก เพื่อประเมินศักยภาพของเจ้าของแปลงในการรับเทคโนโลยี่การเกษตรต่างๆต่อไป (Dialogue and Observation)
· ได้รู้จักพืช ว่าการเจริญเติบโตของพืชมีปัญหาอุปสรรคอย่างใด มีโรคแมลงหรือไม่อย่างใด
· ให้คำแนะนำเกษตรกรหากมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น (Coaching)
· ทำบันทึกการเยี่ยมแปลงตามแบบฟอร์มที่กำหนดร่วมกัน เพื่อเป็นฐานข้อมูลต่อไป
สำหรับเกษตรกรนั้นได้สิ่งต่อไปนี้
· ได้แลกเปลี่ยนผลการปฏิบัติต่างๆให้เจ้าหน้าที่รับทราบและสอบถามหาความรู้ต่างๆทางวิชาการจากเจ้าหน้าที่
· ถือว่าเป็น Informal learning หรือ On The Job learning หรือ Learning by doing
การสรุปบทเรียน: เป็นขั้นตอนที่ 3 คือ เมื่อสิ้นสุดการปลูกแล้วจะเชิญเกษตรกรรายพืชมานั่งสรุปกันว่าในช่วงฤดูการผลิตที่ผ่านมานี้เป็นอย่างไรบ้าง จัดทำอย่างละเอียด ทุกกระบวนการ ทุกขั้นตอน โดยเฉพาะผลรายได้ที่เกิดขึ้นนั้นคุ้มค่าหรือไม่ ข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะนำไปใช้พิจารณาในปีการเพาะปลูกต่อไป และในด้านวิชาการข้อมูลเหล่านี้จะมีประโยชน์ต่อการส่งเสริมการเกษตรในปีต่อๆไปอย่างมาก และเป็นการเรียนรู้อย่างเป็นระบบทั้งเจ้าหน้าที่และเกษตรกร
ขออนุญาตเอาเรื่องนี้ขึ้นโต๊ะคุยกับนักศึกษาโข่ง
ถ้าท่านบางทราย เข้าดงหลวงบ้าง
ออกจากป่ามาสอนวิชาป่าๆเขาๆชีวิตและสังคม บ้าง
รับรองมิตรรักแฟนเรียน วิ่งตามเป็นพรวน
จึงขออีก อยากอ่านอีก ฟิ๊วๆๆๆ