๒๙๓. ครอบครัวครู....


เสน่ห์ของร้านเยี่ยมใต้ น่าจะอยู่ที่การบริการรวดเร็วและอาหารใหม่สด ตลอดจนส่วนผสมของเครื่องปรุงจัดเต็ม มีผักที่เป็นเครื่องเคียงล้วนน่าทานยิ่งนัก

ครอบครัวครู....

          กว่าจะรวมตัวกันได้ ก็ใกล้จะเปิดเทอม รอกันไปรอกันมา ทั้งลูกทั้งหลานล้วนมีภารกิจที่ต้องทำ นัดกันแล้วก็ต้องเลื่อนนัดไปเรื่อยๆ จนมาถึงวันนี้ที่รอคอย..

          ออกจากบ้านเย็นวันศุกร์ ถ้าเดินทางในช่วงเช้าของวันเสาร์คงไม่ทันแน่ เพราะนัดทางร้านถ่ายรูป “คมสัน” เมืองนนทบุรี ไว้ที่เวลา ๐๘.๐๐ น.

          แล้วก็นัดแม่ของผมผู้เป็นย่าของลูกๆ ซึ่งท่านอยู่กับน้องสาวที่เป็นครูสังกัดเขตปทุมธานี ผมบอกน้องว่าเจอกันที่ร้านถ่ายรูปตอนเช้า เพื่อถ่ายภาพหมู่พร้อมกัน

          พอถึงปากเกร็ด ก่อนจะเข้าที่พัก ณ โรงแรมบ้านท่าน้ำ ลูกหันมาถามผมว่า อยากทานมื้อเย็นที่ไหน ผมก็บอกให้ถามเจ้ามือ ลูกๆก็เลยหันไปถามแม่ ก็ได้คำตอบในทันทีทันใด แบบที่ไม่ต้องคิดนาน

          ชื่อร้าน “เยี่ยมใต้” ของคุณณัฐวุฒิ ไสเกื้อ อยู่แถวๆถนนติวานนท์ ไม่ไกลจากอำเภอปากเกร็ด ลูกๆยิ้มเล็กน้อย ออกอาการแปลกใจนิดนึง ที่แม่เป็นคนอีสาน แต่ต้องการลิ้มลองอาหารใต้ดูสักมื้อ

          ภายในร้านเยี่ยมใต้ ผมไม่เจอคุณณัฐวุฒิ พบแต่ลูกค้าในร้านที่นั่งกันเต็มไปหมด ร้านโอ่โถง จัดบรรยากาศได้สดใส สวยงามและสะอาดตา สมเป็นร้านอาหารชื่อดังในย่านนี้

          ผมชอบผัดสะตอก็เลยสั่งก่อน ส่วนลูกๆสั่งอาหารหลายอย่าง ทุกอย่างล้วนมีรสชาติที่ดีมากๆ ถูกใจแม่เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแกงมัสมั่น สุดยอดจริงๆ เป็นที่กล่าวขวัญและชื่นชอบของทุกๆคน

          เสน่ห์ของร้านเยี่ยมใต้ น่าจะอยู่ที่การบริการรวดเร็วและอาหารใหม่สด ตลอดจนส่วนผสมของเครื่องปรุงจัดเต็ม มีผักที่เป็นเครื่องเคียงล้วนน่าทานยิ่งนัก

          ถึงเวลาเข้าที่พักแล้ว ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าไปในซอยคดเคี้ยวแต่ไม่ลึกมาก จอดรถด้านหลังโรงแรมที่ไม่คุ้นเคย ในความสลัวลางของกลางคืน ในใจก็ดูจะประหวั่นพรั่นพรึงอยู่พอสมควร

          แต่พอขึ้นไปบนที่พักของโรงแรมซึ่งอยู่ชั้น ๕ มองผ่านหน้าต่างออกมา มองเห็นสะพานพระราม ๕ ที่มีแสงไฟระยิบระยับ รู้สึกประทับใจ ไม่คิดว่าจะได้มองเห็นสะพานนี้จากโรงแรมริมน้ำในยามค่ำคืน

          ผมนอนดูทีวีสลับภาพท้องน้ำและสะพาน มองบ้านเรือนฝั่งตรงข้ามโรงแรม..จนหลับไป

          ตื่นแต่เช้า รีบอาบน้ำเพราะอยากดื่มกาแฟร้อนๆ จึงลงมาที่ห้องอาหารก่อนใคร ก็พบอาหารมื้อเช้า แบบที่ไม่ต้องบริการตนเองแต่อย่างใด ได้แต่นั่งชมบรรยากาศเจ้าพระยา นั่งรำลึกถึงความหลัง เมื่อครั้งที่เคยอยู่เมืองนนท์  จากนั้นทางโรงแรมก็ให้พนักงานมาเสิร์ฟอาหารถาดใหญ่ถึงโต๊ะ

          กว่าจะถึงร้าน”คมสัน” ก็ปาเข้าไป ๘ โมงครึ่ง เพราะแม่คุณทั้งหลายแต่งหน้าแต่งตากันสุดเหวี่ยง ทำอย่างกับว่าจะไปงานรับปริญญา ผมไม่(กล้า)ว่าอะไร นานแค่ไหนก็รอได้.....

          ภายในร้าน ผมยกมือไหว้แม่ ทักทายน้องและหลานสาวที่มารออยู่ก่อนแล้ว วันนี้มารวมตัวกันเป็นครอบครัวใหญ่ ข้างฝ่ายของผมมาด้วยกัน ๖ คน พนักงานในร้านก็เยอะอยู่ คิดดูเถิดจะโกลาหลขนาดไหน มองไปทางไหนก็เจอแต่ชุดปกติขาวและภาพถ่ายภายในร้านเต็มไปหมด

          ใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมงภารกิจสำคัญก็เสร็จสิ้น นี่ขนาดนำชุดเครื่องแบบมาจากบ้าน ถ้าใช้ของร้านทั้งหมดคงจะนานกว่านี้ และที่ต้องใช้เวลานานก็เพราะทุกคนขอถ่ายภาพเดี่ยวกันด้วย กว่าจะผ่านไปได้แต่ละคน ต้องมีการจัดท่าทางและจัดแสงไฟ ใช้เวลาพอสมควร

          เจ้าของร้านถ่ายรูป”คมสัน” ร้านเจ้าเก่าของเมืองนนท์ ก็ดีเหลือเกิน ดูแลเท็คแคร์ลูกค้าเป็นพิเศษ พิถีพิถันทุกขั้นตอน พอเสร็จเรียบร้อยก็จ่ายตังค์ เท่านั้นแหละ ผู้เป็นแม่ร้อง....โอ้โฮ...

          ผมพาย่าของหลานๆ ไปทานมื้อกลางวัน ผมให้ลูกเป็นคนเลือกร้าน ลูกผมบอกว่า วันนี้เป็นวันเกิดของย่า อายุครบ ๘๖ ปี นานๆจะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ จึงเลือกที่จะทานที่ร้าน “นิตยาไก่ย่าง” สาขารัตนาธิเบศร์

          ผมบอกดีเลยแหละ เพราะย่าของลูกก็ชื่อคุณย่านิตยา จะได้อยู่ในความทรงจำของย่าไปอีกนานเท่านาน

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๒  พฤษภาคม  ๒๕๖๗

  

                         

           

          

หมายเลขบันทึก: 718192เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2024 13:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม 2024 14:13 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท