ใครหนอเปรียบครูเป็นเช่นเรือจ้าง
พาพ้นความอับปางจนถึงท่า
เมื่อวันผ่านความเขลาวัยเยาว์มา
จึงรู้ว่าศิษย์ได้ดีเพราะมี "ครู"
มีโอกาสได้แวะกลับไปเยี่ยมโรงเรียนชั้นประถม ที่เราเคยเล่าเรียน
ได้เจอครูคนเดิม ที่เคยอบรมสั่งสอนเรา ถึงแม้เวลาจะผ่านไป 14 ปี ครูก็ยังเป็นครูเหมือนเดิม
มีเวลาเดินรอบบริเวณโรงเรียน ไม่ว่าจะเดินไปตรงไหน
ภาพความทรงจำกับสถานที่นั้นๆ ได้ย้อนกลับมาให้เราระลึกถึงเสมอ
โรงเรียนมีการพัฒนาไปมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ความรัก ความผูกพันที่เคยมีกับโรงเรียนยังคงอยู่เสมอ
เหมือนกับว่าเรื่องราวเหล่านั้นเพิ่งจะผ่านไปเมื่อวานนี้เอง
กลับมาคราวนี้ มาช่วยครูทำงานประจำปีของโรงเรียน
ครูยังจดจำศิษย์ทุกคนได้อย่างแม่นยำ
ครูบอกว่าถ้านับจำนวน ตอนนี้ครูมีลูกศิษย์ร่วมหมื่นกว่าคนแล้ว
และการที่ได้เห็นลูกศิษย์เหล่านั้น ได้ดิบได้ดี มีอนาคตที่ดีกัน ทำให้ครูภาคภูมิใจมาก
และครูก็จะทำหน้าที่ของครูแบบนี้กับน้องๆในรุ่นต่อๆไป จนกว่าครูจะเกษียณอายุราชการ
ลูกศิษย์ที่จบการศึกษาไปมีอาชีพหลายแขนง เช่น นักบิน แพทย์ พยาบาล
นักกีฬาระดับทีมชาติ วิศวกร ฯลฯ
เดินผ่านสนามเล็กๆภายในโรงเรียน มีต้นหญ้าขึ้นประปราย ต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นรอบๆก็ยังอยู่เหมือนเดิม
รุ่นพี่ที่เป็นนักกีฬาทีมชาติเหล่านั้นใช้สนามเล็กๆในโรงเรียนแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้น
ในการ วิ่ง เตะฟุตบอล ฯลฯ ใครจะรู้ว่าสนามเล็กๆแห่งนี้แหละ
สร้างนักกีฬาระดับทีมชาติมาตั้งหลายคนแล้ว
รู้สึกภูมิใจในโรงเรียนของเราอยู่ลึกๆ ถึงจะเป็นโรงเรียนไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย
แต่ก็เป็นสถานที่ที่ให้การศึกษา ให้ความคิดที่สามารถแตกแขนงออกไป
เหมือนกับต้นไม้ใหญ่เหล่านั้น ที่แตกกิ่งก้านสาขา ให้ร่มเงา
โรงเรียนอะไรก็ไม่รู้ ชื่อเรียกก็ยาก เขียนก็ยาก แต่กลับอยู่ในความทรงจำไม่มีวันลืม
โรงเรียน "ฤทธิยะวรรณาลัย" ค่ะ