หลายคนเลือกทำงานในบริษัทที่มีขนาดใหญ่หรือทำงานราชการ เพราะมีเหตุผลว่าทำงานกับองค์กรลักษณะนี้แล้ว จะทำให้ชีวิตการทำงานมีความมั่นคงมากกว่าองค์กรขนาดเล็ก
ความมั่นคงในชีวิตการทำงานของคนบางกลุ่ม จึงฝากชีวิตไว้กับ “องค์กร” มากกว่าการให้ความสำคัญต่อระเบียบวิธีในการทำงานของ “ตนเอง”
ระบบการคิดและการทำงานของกลุ่มคนที่ฝากความมั่นคงในการทำงานไว้กับองค์กร จึงมีแนวโน้มที่จะเป็นแรงงานประเภทตอไม้ที่ตายแล้ว และเป็นไปได้ตามสมมติฐานที่หลายคนเชื่อว่า องค์กรขนาดใหญ่จะมีแต่บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเป็นส่วนใหญ่นั้น อาจจะไม่เป็นความจริงเสมอไป
********************************
บาทหลวงท่านหนึ่งที่ผมได้มีโอกาสพูดคุยในขณะที่ผมกำลังเดินทางไปหาความหมายของความมั่นคงในการทำงาน กล่าวกับผมระหว่างการเดินทางบนรถไฟสายใต้
ในการเดินทาง ผมได้พูดคุยและได้ระบายความรู้สึกบางอย่างของคนทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ ที่กำลังจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงาน
บาทหลวงกำลังเดินทางไปโบสถ์แห่งหนึ่งในชนบทแถบจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านบอกว่าชีวิตของท่านกับการทำงานเพื่อศาสนามีแต่ความมั่นคง และมีความสุขตลอดชีวิต
ผมนึกแย้งในใจว่าโลกในการทำงานของท่านที่มีแต่ความสงบนั้น มันย่อมจะแตกต่างไปจากโลกแห่งการทำงานของผมมากมายอย่างแน่นอน จนผมรู้สึกว่าการที่จะอธิบายให้บาทหลวงผู้มีชีวิตในรูปแบบที่แตกต่างไปจากผมเข้าใจนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง
ผมจึงสงบปากสงบคำ และทอดสายตามองออกไปผ่านหน้าต่าง เพื่อมุ่งจะแสวงหาคำตอบให้กับตัวเอง
บาทหลวงมองลอดแว่นมายังผม พร้อมก้มหน้าลงเขียนข้อความหวัดไปมา จนยากที่ผมจะคะเนได้ว่าท่านเขียนข้อความอะไร?
********************************
ชีวิตการทำงานของผมภายใต้โครงสร้างองค์กรใหม่เปลี่ยนไปมากมาย อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกแยกมากขึ้น เพราะผมกำลังถูกแวดล้อมด้วยเพื่อนร่วมงาน และหัวหน้างานคนใหม่ และผมก็เป็นคนเก่าที่อยู่ท่ามกลางทีมใหม่
ระบบการทำงานที่ผมเคยชินถูกเปลี่ยนแปลงไปหมดสิ้น บรรยากาศที่เคร่งเครียดและสับสน ได้ทำลายกรอบความเชื่อเก่า ๆ ของผม ที่คิดว่าการทำงานอยู่องค์กรใหญ่นั้น มันทำให้ชีวิตในการทำงานมีแต่ความมั่นคงและน่าจะดีขึ้น
แต่ในความเป็นจริง ผมกำลังถูกลดทอนหน้าที่ในการทำงานให้รับผิดชอบน้อยลง ทุกวันผมรู้สึกชาชินกับสายตาที่หยามหยันทุกคู่ที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนร่วมงาน
ผมล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อเตรียมเศษสตางค์ไว้ขึ้นรถท่ามกลางป้ายรถเมล์ที่มีผู้คนพลุกพล่าน สิ่งที่ติดมาพร้อมกับเศษสตางค์ก็คือ เศษกระดาษเปื่อย ๆ ชิ้นหนึ่ง มีใจความที่เขียนไว้ว่า
“Job Security no longer comes from being employed. It comes from being employable”
“ลูกรัก...ความมั่นคงในงานอาชีพเกิดจากการวางตัวให้มีผู้เห็นคุณค่า ควรแก่การว่าจ้างได้เสมอ
มิใช่เกิดจากการมีงานทำเป็นหลักแหล่งเท่านั้น...ขอให้พระเจ้าจงคุ้มครองลูก”
รถเมล์ผ่านไปคันแล้วคันเล่า ความคิดที่ย้อนกลับไปในวันที่ผมเดินทางไปหาความหมายของความมั่นคงในชีวิตการทำงานบนรถไฟวันนั้น บาทหลวงผู้ใจดีได้ฝากกระดาษที่ผมมิได้ใจใส่ในค่ำคืนนั้น ให้ผมมาฉุกคิดในวันที่ทุกสิ่งทุกอย่างในที่ทำงานได้เปลี่ยนไป....
ผมสรุปความคิดก่อนจะสาวเท้าเดินมุ่งหน้าผ่านตึกรามที่ประดับประดาด้วยแสงไฟอย่างไร้ทิศทางได้อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีที่ไหนอีกแล้วที่จะเหลือไว้ให้สำหรับลูกจ้างที่มีความคิดเก่า ๆ ที่หวังจะฝากชีวิตและวิญญาณไว้กับองค์กร ที่มีจุดหมายต้องการสร้างผลงานที่ดีที่สุด กำไรมากที่สุด พอ ๆ กับต้นทุนที่ต่ำที่สุด......
หมายเหตุ เป็นงานเขียนในชื่อเรื่องว่า “ความมั่นคงในการทำงาน” คอลัมน์ Home Room เซ็กชั่น Get-Rich-Quick หนังสือพิมพ์คู่แข่งรายวัน หน้า D1 ฉบับวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2539
ไม่มีความเห็น