ราชบัณฑิตยสถานเทียบคำว่าองค์การกับภาษาอังกฤษว่า organization และองค์กรว่า organ แต่นิยามไว้ไม่กระจ่างชัดนัก คงต้องใช้วิธีการตีความเพิ่ม
ที่ผมนำเรื่องนี้มาเขียนเนื่องมาจากการใช้คำสองคำนี้ในทางวิชาการ และในทางราชการแบบปนกันไปมา และเมื่อสองวันที่แล้วผมเป็นประธานสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ และนักศึกษาวิจัยเกี่ยวกับ ‘องค์กรแห่งความสุข’ เลยต้องทำความเข้าใจกันว่านักศึกษาหมายถึง องค์การแห่งความสุข หรือองค์กรที่มีความสุข เพราะนักศึกษาใช้ภาษาอังกฤษว่า happy workplace หรือ workplace happiness ซึ่งน่าจะหมายถึงหน่วยงานที่มีความสุข หรือองค์กรที่มีความสุข แต่ไม่น่าจะเป็น 'องค์การแห่งความสุข (organizational happiness หรือ happy organization)' จึงนำไปสู่การทำความเข้าใจความแตกต่างกันระหว่าง องค์การกับองค์กร ซึ่งเป็นชุดคำศัพท์ทางวิชาการที่ใช้สับกันไปมาเสมือนเป็นสิ่งเดียวกัน แต่โดยหลักวิชาแล้วสองอย่างนี้ไม่เหมือนกัน
ในองค์วิชาการตระวันตก ซึ่งเป็นที่มาของศาสตร์องค์การและการบริหารองค์การที่เรานำมาใช้ในประเทศไทยนั้นจะไม่มีคำว่า ‘organ’ ในศาสตร์ทั้งสอง จะมีเฉพาะคำว่า 'organization' ซึ่งส่วนใหญ่นิยามไว้ตรงกันว่า ‘หมายถึงสภาวะการรวมตัวกันของคนตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อดำเนินงานอย่างใดอย่างหนึ่งตามวัตถุประสงค์ขององค์การ (คือวัตถุประสงค์ในการรวมตัวกัน) และผมพบคำขยายในเวลาต่อมาว่า ’ยกเว้นการแต่งงาน'
แต่ปัญหาในการนำใช้คำนี้ในบริบทวิชาการของไทยคือ การแปลคำว่า organization เป็น องค์การ กับองค์กร แต่ถ้ายึดการเทียบเคียงคำตามพจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถานที่กล่าวมาข้างต้น คือ องค์การเทียบกับ organization และ องค์กร เทียบกับ organ แล้วเราก็ควรใช้คำว่า ‘องค์การ' ในความหมายของคำว่า organization ดังความหมายข้างต้น และการนำใช้คำนี้ร่วมกับคำอื่น เช่น learning organization คือ องค์การแห่งการเรียนรู้ ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ร่วมกันของคนตั้งแต่สองคนที่ร่วมกันเป็นองค์การ หรือ organizational culture คือ วัฒนธรรมองค์การ ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมของคนที่ร่วมกันเป็นองค์การ นั่นเอง
ดังนั้นถ้าจะใช้คำว่าองค์การแห่งความสุข ก็ต้องใช้หลักการของ organizational happiness หรือ happy organization แต่ถ้าจะใช้หลักการของ happy workplace หรือ workplace happiness ก็ควรใช้คำว่า หน่วยงานที่มีความสุข หรือองค์กรที่มีความสุข ในกรณีที่เราเทียบเคียงว่า องค์กรเป็นหน่วยงานหนึ่งของหน่วยทางสังคมครับ
ในฐานนะเป็นนักศึกษาสาขาวิชาการบริหารการศึกษา ผมเห็นว่าเราควรเป็นต้นแบบในการนำใช้ศัพท์ทางวิชาการที่ถูกต้อง และคำว่าถูกต้องของผมคือ ถูกต้องตามต้นตอของศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่เราแปลมาจากภาษาอังกฤษ ครับ
สมาน อัศวภูมิ
7 ตุลาคม 2566
ไม่มีความเห็น