๒๒. เพาะเลี้ยงแหนแดง..ไม่ยากอย่างที่คิด


ผมเฝ้าสังเกตมาหลายเดือน พบว่าแหนแดงในกาละมังที่วางข้างห้องน้ำ ให้ผลผลิตที่รวดเร็วและสวยงาม แตกหน่อต่อลำตัวและใบซ้อนกันอย่างขยันขันแข็ง เก็บเกี่ยวแทบไม่ทัน

            กิจกรรมซ้อมเกษียณของผม ไม่มีอะไรมาก นอกจากปลูกผัก เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาและเพาะเลี้ยงแหนแดง ตั้งใจว่าเมื่อเกษียนแล้วจะใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพียงแค่นี้เท่านั้น

            ทำไปทำมา การฝึกซ้อมเริ่มเรรวน อันเนื่องมาจากเรี่ยวแรงและเวลา ตลอดจนปัจจัยแวดล้อมนานา ที่พอจะนึกได้แล้วเอามาเป็นข้ออ้าง เพื่อจะยกโทษให้ตัวเอง

            แต่มีอยู่หนึ่งอย่างที่ไปได้ดี ถึงขนาดต้องนึกถึงคำพูดของท่านสุนทรภู่ที่ว่า “มีความรู้รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว แต่ให้เชี่ยวชาญเถิดจักเกิดผล” จะอะไรเสียอีก ถ้าไม่ใช่..แหนแดง

            ทดลองเลี้ยงมาเกือบปี มีผิดพลาดอยู่สองครั้ง พอถึงครั้งที่สามก็ผ่านฉลุย แบบว่าฉุดไม่อยู่เสียแล้ว ต้องขยับขยายกำลังการผลิต เริ่มจาก ๕ กาละมัง  จนถึงวันนี้ปาเข้าไป ๒๐ กาละมัง

            สายพันธุ์แหนแดงที่เลือกใช้ ก็ไม่ใช่ธรรมดา เป็นพันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตรยอมรับว่าได้มาตรฐาน เรียกขานกันทางวิชาการว่า...อะซอลล่า ไมโครฟิลล่า (Azolla microphylla) 

            การได้มาก็ไม่ต้องลงทุน แต่ลงแรงนิดหน่อย โดยไปขอมาจากศูนย์เพาะเลี้ยงแหนแดงอยู่ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และไปขอเพิ่มเติมจากบ้านสวน ดร.รฐา อำเภอเมืองนครปฐม

            ก่อนที่จะขอสายพันธุ์เขามา ผมเคยเพาะเลี้ยงแหนแดงแบบบ้านๆ มีชื่อฝรั่งว่า อะซอลล่า พินนาต้า (Azolla pinnata) แต่ไปไม่รอด เสียดายเวลาอยู่เหมือนกัน

          ่  คิดอีกทีก็ช่างมันเถอะ เพราะเท่าที่ศึกษาและหาประสบการณ์ พันธุ์แหนแดงแบบบ้านๆหรือดั้งเดิมนั้น ให้คุณค่าที่ไม่ดีนักและที่สำคัญคือ ไม่สวยงามเหมือนแหนแดงที่เพาะเลี้ยงอยู่ทุกวันนี้

            ผมเพาะเลี้ยงอยู่ในโคกหนองนา แบ่งเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ในกระโจม มีผ้ายางคลุม มีแสงแดดส่องรำไร ให้ผลผลิตค่อนข้างดี อีกส่วนหนึ่งผมเพาะเลี้ยงอยู่ข้างห้องน้ำ

            แหนแดง..ข้างห้องน้ำ ไม่มีอะไรคลุมเลย เจอแสงแดดเต็มๆ ตั้งแต่ตอนสายๆเป็นต้นไป จากนั้นตั้งแต่ตอนเที่ยงไปจนถึงเย็นค่ำแดดร่มลมตก แหนแดงก็จะสงบเย็นเป็นสุขตลอด

            ผมเฝ้าสังเกตมาหลายเดือน พบว่าแหนแดงในกาละมังที่วางข้างห้องน้ำ ให้ผลผลิตที่รวดเร็วและสวยงาม แตกหน่อต่อลำตัวและใบซ้อนกันอย่างขยันขันแข็ง เก็บเกี่ยวแทบไม่ทัน

            ทุกวันนี้...การเพาะเลี้ยงแหนแดง จึงต้องลืมคำว่ายากไปได้เลย  เริ่มจากสารตั้งต้นที่จะขาดไม่ได้ก็คือดินผสมมูลวัว ใส่กาละมัง ๒ กำมือ ใส่น้ำ(คลอง)ครึ่งกาละมัง จากนั้นก็ใส่สายพันธุ์แหนแดงลงไปพอประมาณ ไม่ต้องใส่เยอะเกิน เดี๋ยวมันจะแน่น พาให้หายใจไม่ออก สุดท้ายจะลืมใส่ไม่ได้เลย คือ ใส่ใจลงไปด้วย

            ผมคิดว่า การที่แหนแดงเจริญเติบโตดี อาจเป็นเพราะผมคอยเติมน้ำลงไป ไม่รอให้เหือดแห้ง และเวลาจอกแหนแน่นกาละมังผมก็จะตักออก นำไปให้ไก่และปลา กินแทนหัวอาหาร ทำให้ประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ

            เขาบอกว่า..แหนแดงมีโปรตีนสูง จะทำให้ไก่และปลาโตเร็วและแข็งแรง ผมพิสูจน์แล้วและยอมรับว่าเป็นความจริง ส่วนราคาแหนแดงในปัจจุบันก็เริ่มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ สร้างรายได้แก่เกษตรกรมือใหม่มาแล้ว ถือเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจมิใช่น้อยเลย

            ผมพอจะมองเห็นภาพสีเขียวสดใสอยู่ภายในใจ...เอาเป็นว่า...หลังเกษียณก็แล้วกัน  ค่อยมุ่งมั่นและจริงจัง ให้มั่นคงและยั่งยืนมากกว่านี้ 

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๑๖  มีนาคม  ๒๕๖๖

            

            

            

หมายเลขบันทึก: 711969เขียนเมื่อ 16 มีนาคม 2023 20:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มีนาคม 2023 21:47 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ที่เค้าว่าเลี้ยงด้วยใจคือแบบนี้นี่เอง “สุดท้ายจะลืมใส่ไม่ได้เลย คือ ใส่ใจลงไปด้วย”

ใส่ใจ..อะไรก็ดีไปหมดครับ อาจารย์

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท