เซนได...จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (16) ขึ้นกระเช้า Ropewayไปชม Snow Monster

เซนได…จุดหมายปลายฝัน วันที่รอคอย (16) ขึ้นกระเช้า Ropewayไปชม Snow Monster

การท่องเที่ยวญี่ปุ่นในฤดูหนาวสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปสัมผัสความสวยงามและความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ คือภูเขาซาโอะ (Mount Zao) เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างจังหวัดมิยางิและจังหวัดยามากาตะซึ่งอยู่ในภูมิภาคโทโฮขุ เป็น 1 ใน 100 ภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีความสูง 1,841 เมตรมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์ที่สวยงาม จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม เช่น การนั่งกระเช้าไฟฟ้าซาโอะ (Zao Ropeway) ชมวิวภูเขา เดินป่า ปีนปากปล่องภูเขาไฟ และชมปีศาจหิมะ (Snow Monster) หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า จูเฮียว (Juhyo) โดยกิจกรรมบนภูเขาซาโอะนั้นจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศในแต่ละฤดู

(ภาพจากอินเทอร์เน็ต)

ส่วนในฤดูหนาวระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม เป็นช่วงเวลาของการชมปีศาจหิมะ (Snow Monster) ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดมหัศจรรย์ที่เกิดจากการทับถมของหิมะ ทำให้มีรูปทรงแปลกตา หากมองลงมาจากกระเช้าลอยฟ้าจะเห็นปีศาจหิมะเรียงรายทั่วเชิงเขาดูสวยงามแปลกตา

(ภาพจากอืนเทอร์เน็ต)

(ภาพถ่ายจาก Zao Ropeway 20/12/2022)

จูเฮียว (Juhyo) เกิดจากสภาพอากาศที่มีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์ ลมประจำฤดูจากไซบีเรียจะพัดมาและหอบเอาความชื้นจากท้องทะเลญี่ปุ่นมาด้วย เมื่อมาจับกับต้นสนพันธุ์โอโมริโทโด ซึ่งขึ้นอยู่ตามบริเวณทิวเขาจะแข็งตัวเกิดเป็นรูปร่างต่างๆที่สวยงามคล้ายกับสัตว์ประหลาดทำให้ถูกเรียกว่า ปีศาจหิมะ หรือ Snow Monster นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์และผลงานศิลปะที่เกิดจากการถักทอของน้ำแข็งและหิมะ ปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้เรียกว่า Rime ice

ในประเทศญี่ปุ่นมีเพียงไม่กี่ที่ที่จะเกิดประกฏการณ์เช่นนี้ได้ เช่น ที่เมือง Hakkoda ในจังหวัดอาโอโมริ แต่ที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่นคือบริเวณเทือกเขาซาโอะ เขตรอยต่อของจังหวัดมิยางิกับจังหวัดยามากะตะ สาเหตุที่ทำให้เกิดจูเฮียว ณ บริเวณนี้ นอกจากกระแสลมอุณหภูมิที่ลดต่ำกว่า 0 องศาและหิมะที่ตกตลอดเวลา ที่สำคัญคือต้นไม้ที่จะรับหิมะและน้ำค้างจนเกิดการสะสมกลายเป็นรูปทรงต่างๆ จะต้องเป็นต้นสน Conifer หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Aomori - Todomatsu ที่เจริญเติบโตได้ดีบนภูเขาสูงเท่านั้น และไม่มีการผลัดใบแต่จะเป็นพุ่มตลอดทั้งปี จูเฮียวจึงเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากให้เดินทางมาเที่ยวชม

การเดินทางมาชมปีศาจหิมะที่ Zao Ropeway ในช่วงปลายเดือนธันวาคมนั้น โอกาสที่จะได้ตื่นตาตื่นใจกับกองทัพปีศาจหิมะนั้นค่อนข้างน้อยนิด แต่ก็ยังหวังว่าอาจจะได้เห็นบ้างแม้จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตามที เมื่อเดินทางมาขึ้นกระเช้าไฟฟ้าที่ Zao Ropeway สถานี Zao Sanroku สภาพอากาศดูจะไม่ค่อยเป็นใจเอาเสียเลย หิมะตกกระหน่ำจนบรรยากาศดูขาวโพลนไปหมด

การเดินทางไปชมปีศาจหิมะแห่งเทือกเขาซาโอะโดยกระเช้าลอยฟ้า จากสถานีซาโอะ ซังโรคุ (Zao Sanroku Station) ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสายซาโอะโรปเวย์ซังโรคุ (Zao  Ropeway Sanroku Line) ไปลงที่สถานีจูเฮียวโคเก็ง ( Jukyo Kogen)แล้วเปลี่ยนไปขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสายซาโอะโรปเวย์ซังโจ (Zao Ropeway Sancho Line) แล้วลงที่สถานีจิโซซังโจ ( Jizo Sancho)ซึ่งเป็นบริเวณยอดเขา ใช้เวลาโดยรวมราว 30 นาที รวมกับเวลารอคิวขึ้นกระเช้าอีกต่างหาก โดยซื้อตั๋วแบบไป-กลับ ในราคา 2,600 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 660 บาท

ขณะอยู่ในกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาบรรยากาศภายนอกขาวโพลนมองไม่เห็นทิวทัศน์เพราะหิมะตกกระหน่ำลงมาไม่หยุด จึงมองไม่เห็น Snow Monster เลยสักตัวเดียว เมื่อถึงยอดเขาเดินออกไปชมบรรยากาศลานสกีได้เพียงเล็กน้อย นอกจากหิมะจะตกหนักลมก็พัดแรงมากด้วย ทำให้ไม่อาจทนความหนาวเย็นได้ ต้องหลบเข้ามาภายในอาคาร

ภายในอาคารมีของที่ระลึกจำหน่าย มีการจัดแสดงนิทรรศการเล็กๆเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนพื้นเมือง นอกจากนี้ยังมีบอร์ดให้นักท่องเที่ยวแสดงความคิดเห็นอีกด้วย

เมื่อกลับลงมาที่สถานี Zao Sanroku ด้านล่าง มองเห็นร้านกาแฟเล็กๆอยู่ไม่ไกลสักเท่าไร ถ้าได้กาแฟร้อนๆสักแก้วคงช่วยให้คลายความหนาวเย็นได้ แต่เมื่อมองดูหิมะกองสูงที่ต้องลุยไป-กลับแล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ ขึ้นรถกลับที่พัก ด้วยความหวังว่าที่ Fukushima หิมะคงไม่ตกหนักเหมือนเช่นนี้

 ขอขอบคุณ

• ภาพจากอินเทอร์เน็ต