ผมได้ชื่อบันทึกนี้ ตอน ๑๑ น. เศษ วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ ระหว่างร่วมสัมมนาแผน ๓ ปี (๒๕๖๕ - ๒๕๖๗) ของแผนงานพัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ของ กสศ. ที่ได้สาระอย่างสร้างสรรค์สุดๆ โดยที่ทีมวิทยากร นำโดยคุณเปา บอกว่าใช้แนวทาง DE
ผู้เข้าร่วมประชุม ๕๕ ท่าน เห็นพ้องกันว่า เป้าหมายสุดท้ายคือผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน และผมอ่านระหว่างประโยคของคำอภิปรายที่หลากหลายว่า กลไกเพื่อผลลัพธ์นั้นคือโรงเรียนที่จัดการเรียนรู้เชิงรุก และมีกลไกสนับสนุนต่างๆ ที่พูดกันครบถ้วนดีมาก
แต่ผมเถียง ว่าจัดคุณภาพโรงเรียนให้ดีแค่ไหน ก็ยังพัฒนานักเรียนได้จำกัด เพราะยังมี “พื้นที่ 2/3” ที่มีบทบาทสำคัญต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน โดยผมได้อธิบายรายละเอียดไว้เมื่อ ๔ ปีที่แล้ว ที่ gotoknow.org/posts/635072
ผมเชื่อว่า หากจะให้เยาวชนของเรามีการเรียนรู้เพื่อวางรากฐานสมรรถนะที่ดีและครบด้าน สำหรับการมีชีวิตที่ดี เป็นพลเมืองดีในอนาคตที่ VUCA เราต้องไม่หลงพัฒนาเฉพาะระบบโรงเรียน กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าโรงเรียนและครูไม่สำคัญ โรงเรียนและครูสำคัญมาก แต่เราต้องไม่หลงดำเนินการเฉพาะที่โรงเรียนและครู อย่างที่แล้วๆ มา ต้องดำเนินการให้เด็กได้รับการฝึกฝนกล่อมเกลาเรียนรู้แบบไม่รู้ตัวจากสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วย
ระบบการศึกษาต้งเป็นระบบการศึกษาของเด็ก ไม่ใช่ระบบการศึกษาของครู ของโรงเรียน หรือของกระทรวงศึกษาธิการ
ระบบการฬึกษา ต้องเป็นระบบจัดการ ระบบนิเวศการเรียนรู้ (learning ecosystems) ของเด็ก ที่กว้างกว่าโรงเรียน
หากไม่จัดระบบต่างๆ ให้เด็กได้เรียนรู้ซึมซับฝึกฝนตนเอง ตลอด ๒๔ ชั่วโมงของแต่ละวัน หลงจัดเฉพาะเวลา ๘ ชั่วโมงที่นักเรียนอยู่ในโรงเรียน คุณภาพของพลเมืองในอนาคตของเราจะไม่ดีขึ้น
วิจารณ์ พานิช
๓ ม.ค. ๖๕
ไม่มีความเห็น