ม้าก้านกล้วย & Geo...


มิตรภาพสวยงามเสมอ.."ม้าก้านกล้วย+Geo" Weeknd นี้ ที่นี่ Hi Hug House

                                                        -ปิดฉากลงอย่างอิ่มอุ่นใจครับ สำหรับกิจกรรมเรียนรู้และสัมผัสวิถีแบบไทยๆ ของบรรดาเดอะแก๊งค์ "ม้าก้านกล้วย"ที่ตั้งใจรวมตัวกันมาเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ ณ บ้านไร่ ของเราในวันเสาร์ที่ผ่านมาครับ สำหรับวันนี้ถือเป็นการทำกิจกรรมที่เต็มไปด้วยความสนุกครับ เอาเป็นว่าคงจะไม่มีคำบรรยายใดๆ จะเท่ากับการได้นำเอารูปภาพและเรื่องราวต่าง ๆ มาเก็บเอาไว้บนสมุดบันทึกออนไลน์เล่มนี้ครับ จะมีอะไรน่าสนใจ และน่าประทับใจบ้างนั้น พร้อมแล้วตามผมไปชมพร้อมๆ กันได้เลยคร้าบ!!!

  1. หลังจากได้รับการประสานงานจาก"ทีมคุณแม่"เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ว่าต้องการจะพาเด็กๆ มาเรียนรู้และสัมผัสวิถีแบบพื้นถิ่น ณ บ้านไร่ของเราในวันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2563 นี้ พร้อมกับลงคิวนัดและช่วยกันเซทกิจกรรมให้กับเด็กๆ ได้เรียนรู้กันเรียบร้อยแล้ว ทีมงานบ้านไร่ก็เตรียมการทั้งสถานที่และกิจกรรมต่างๆ เอาไว้ให้พร้อมต้อนรับ"แก๊งค์ม้าก้านกล้วย"และ"ทีมจีโอ"ที่วันนี้ขอเข้ามาร่วมทำกิจกรรมด้วยกันครับ เด็กๆ เยอะๆ แบบนี้ต้องมีอะไรน่าสนุกแน่ๆ ครับ 555

2.พอได้เวลานัดหมายซึ่งก็ประมาณ 09.00 น. แก๊งค์เด็กๆ ก็เดินทางมาถึงบ้านไร่ของเราแล้วล่ะครับ เมื่อมาถึงแล้วเราก็เริ่มกิจกรรมแรกกันเลยดีกว่าครับ เพราะว่าวันนี้มีกิจกรรมที่รอให้เด็กๆ ได้สัมผัสยังมีอีกหลายอย่าง ดังนั้นกิจกรรม"พิซซ่าเตาถ่าน"ก็ได้เริ่มให้เด็ก ๆได้เรียนรู้และสัมผัสกับเมนูอาหารที่คุ้นตาเด็กๆ เป็นอย่างดีครับ สำหรับพิซซ่าเตาถ่านแบบนี้ดูจะตื่นเต้นสำหรับเด็กๆ ที่เพิ่งจะมาเป็นครั้งแรกดังเช่น"แก๊งค์ม้าก้านกล้วย"แบบนี้ครับ บรรยากาศการเรียนรู้จึงเต็มไปด้วยพลังที่เต็มเปี่ยมเลยล่ะครับ...

3.เพื่อไม่ให้เด็กๆ ต้องรอพิซซ่าที่กำลังอบจนนานเกินไป ดังนั้นเราจึงชวนเด็กๆ ไปเรียนรู้วิชา"ขนมไทยอะไรเอ่ย"กันต่อครับ สำหรับขนมไทยที่เราจัดให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ในวันนี้มี 2 อย่างคือ"ขนมต้มและขนมคล้องแขน"ซึ่งทำง่ายๆ และเด็กๆ จะได้เรียนรู้ถึงที่มาของขนมแต่ละอย่างและการใช้สีผสมอาหารจากธรรมชาติที่วันนี้บรรดาผู้ปกครองก็จะได้ชมและชิมฝีมือจากเด็กๆ ด้วยล่ะครับ

4.ใช้เวลาในการเรียนรู้"วิชาขนมไทย"ประมาณ 1/2 ชั่วโมง พิซซ่าก็สุกพอดีครับ งานนี้จึงให้เด็กๆ ได้ลิ้มลองฝีมือของตัวเองกันก่อน และเพื่อเป็นการเพิ่มพลังในการที่จะไปทำกิจกรรมนอกสถานที่กันต่อครับ สำหรับจะอร่อยและถูกใจเด็กๆ หรือเปล่านั้น ขอไม่บรรยายเป็นตัวหนังสือก็แล้วกันนะครับ 5555

5.และกิจกรรมต่อไปก็คือ"นั่งรถอีแต๋น"เพื่อไปชมอ่างเก็บน้ำและเดินทางไป"ดำนา"ณ ไร่อิ่มคำ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านไร่ของเราครับ สำหรับวันนี้เจ้าของ"ไร่อิ่มคำ"ได้เตรียมสถานที่เอาไว้ต้อนรับเด็กๆ และมีอุปกรณ์พื้นบ้านเอาไว้ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และสัมผัสด้วยล่ะครับ เอาเป็นว่ามาถึงแล้วเราก็ให้เด็กๆ ได้ลงลุยโคลน จับปลา ดำนา กันต่อดีกว่าครับ...

6.กว่าเด็กๆ จะทำใจที่จะลงไปย่ำโคลนและจับปลาได้เราก็ต้องเชียร์กันหน่อยครับ 5555 แต่พอได้ลงไปย่ำโคลนและสัมผัสกับน้ำเย็นๆ ดินนิ่มๆ แล้ว ก็พร้อมที่จะไล่จับปลาตามวิชา"หาอยู่หากิน"กันต่อครับ ภาพความสนุกและการเรียนรู้วิชานี้น่าประทับใจมากๆ เลยล่ะครับ..

7.สำหรับกิจกรรม"ดำนา"ถือเป็นกิจกรรมที่เด็กๆ ยังอาจจะไม่คุ้นเคยหรือบางคนอาจจะเพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก ดังนั้น"เจ้าของไร่อิ่มคำ"จึงต้องสอนวิธีการดำนาให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ และเมื่อรู้วิธีการ"ดำนา"แล้ว เด็กๆ ก็เริ่มดำนา และเล่นโคลนกันอย่างเต็มที่ครับ สำหรับภาพถ่ายคงจะเป็นคำบรรยายได้ดีที่สุดมากกว่าตัวหนังสือที่เรียงร้อยเอาไว้ ดังนั้นขอบรรยายความสนุกด้วยภาพก็แล้วกันนะคร้าบบบ....5555

8.ใช้เวลาสำหรับกิจกรรมดำนาประมาณ 1 ชั่วโมงเต็มๆ เราก็ชวนเด็กๆ กลับบ้านไร่ เพื่อจะให้เด็กๆ ได้เล่นน้ำ สไลเดอร์โคลน กันต่อครับ สำหรับกิจกรรมนี้ก็ได้รับความสนใจจากเด็กๆ เป็นอย่างมากอีกเช่นกันครับ สารพัดวิธีเล่นที่เด็กๆ จะหามาทำบนพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้ครับ เอาเป็นว่าเราปล่อยให้เด็กๆ ได้เล่นกันอย่างเต็มที่ ส่วนตัวผู้เขียนก็ขอตัวไปเตรียมอาหารกลางวันให้กับเด็กๆ กันต่อครับ...

9.เล่นกันจนเหนื่อยแล้ว ดูเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบจะบ่ายโมงแล้วล่ะครับ ดังนั้นเราจึงชวนเด็กๆ ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อรับประทานอหารกลางวันกันดีกว่าครับ วันนี้พร้อมเปิดตัว"ห้องอาบน้ำ"แบบ Open air ด้วย บรรยากาศการอาบน้ำแบบนี้จะถูกใจเด็กๆ รึเปล่านั้น คงไม่ต้องบรรยายนะครับ 555

10.และมื้อกลางวันนี้ก็ได้เวลาที่เด็กๆ จะได้ลิ้มลองอาหารที่"ทีมคุณแม่"ได้เลือกเอาไว้ ณ ใต้ร่มไผ่ และ ศาลากลางสวน ครับ เล่นกันจนเหนื่อยแบบนี้ ได้รับประทานอาหารแบบพื้นบ้านคงจะทำให้เด็กๆ ได้อิ่มท้องและเต็มอิ่มกับวันที่รอคอยนะครับ...ปล่อยให้เดอะแก๊งค์ได้อิ่มหมีพีมันกันไปก่อน เดี๋ยวมีกิจกรรมต่อไปให้เด็กๆ ได้ทำอีกครับ 555

11.หลังจากอิ่มท้องและพักผ่อนกันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราก็ชวนเด็กๆ"ขี่ม้าก้านกล้วย"เพื่อไปเก็บ"ดอกไม้"มาทำ"กระเป๋าผ้ารักษ์โลก"กันต่อครับ สำหรับกิจกรรมนี้ ถือเป็นการให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การใช้สีจากธรรมชาติ เพื่อนำมาแต่งแต้มลงบนกระเป๋าผ้าครับ นอกจากนี้ยังฝึกวิชาการใช้ศิลปะจากธรรมชาติได้อีกทางหนึ่งด้วยล่ะครับ สำหรับขึ้นตอนและวิธีการก็ทำง่ายๆ เมื่อเด็ก ๆ ได้เรียนรู้วิชานี้แล้ว ต่อไปเวลาอยู่บ้านก็สามารถทำเองได้หรือจะนำไปสอนเพื่อนๆ ต่อก็ได้ครับ เรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้คร้าบบบ..

12.ใช้เวลาในการทำ"กระเป๋าผ้ารักษ์โลก"ประมาณ 1 ชั่วโมง เราก็ปล่อยให้เด็กๆ ไปเล่นของเล่นพื้นบ้านและปล่อยพลังกันต่อตามความชอบใจครับ หลังจากนั้นก่อนได้เวลากลับ เราก็จัด"น้ำหวานโบราณ"เอาไว้ให้เด็กๆ ได้ลิ้มลองกันด้วย กิจกรรมนี้ก็รู้สึกว่าจะถูกใจเด็กๆ ไปไม่น้อยเลยล่ะครับ สังเกตได้ว่าบางคนนี่ต่อแถวขอลิ้มลองถึง 2 ครั้งเลยล่ะครับ 5555

13.เมื่อได้เวลาแล้ว ผู้ปกครองก็ชวนเด็กๆ กลับบ้านกันแล้วล่ะครับ สำหรับวันนี้"แก๊งค์ม้าก้านกล้วย"ได้มากันเป็นทีม ดังนั้นจึงกลับพร้อมๆ กันครับ ส่วน"ทีมจีโอ"ขอตัวกลับก่อนครับ หลังจากเด็กๆ กลับไปแล้วความเงียบก็เข้ามาแทนที่ทันทีครับ...แต่ความประทับใจและเสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ยังดังก้องในหัวใจของครอบครัวเล็กๆ ของเราครับ..

14.ประมาณ 5 ชั่วโมง กับการเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ของเด็กๆ กลุ่มนี้ ถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่เต็มอิ่มทั้งผู้มาเยือนและเจ้าของบ้านครับ ภาพและเรื่องราวต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้เราได้ระลึกถึงกันในยามนี้ครับ...สิ่งที่ครอบครัวเล็กๆ ของเราได้รับมากกว่าเงินทองมันคือ"มิตรภาพดี ๆ"ที่เราได้สื่อถึงกันหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมครับ และหวังใจเอาไว้ว่าหากมีโอกาสเหมาะๆ เราคงได้ต้อนรับเด็กๆ และผู้ปกครองอีกครั้งหนึ่ง และงานนี้จะสำเร็จลงไปไม่ได้เลยหากไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจาก"ทีมคุณแม่"ที่ได้ช่วยกันประสานงานและเซทกิจกรรมต่างๆ เอาไว้ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ครับ รวมทั้งภาพถ่ายน่ารักๆ ที่วันนี้ตัวผู้เขียนเองได้ขออนุญาตเพื่อนำมาประกอบบันทึกเรื่องราวในวันนี้ด้วยครับ..ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณ...ดีใจที่ได้พบกันนะครับเด็กๆ "แก๊งค์ม้าก้านกล้วย and Geo"

                                                  สวัสดีครับ

                                               เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย

                                                Hi Hug House

                                                24/08/63

หมายเลขบันทึก: 681058เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2020 12:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 สิงหาคม 2020 12:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ควรจะมีแบบนี้ในทุกโรงเรียนในชนบทครับอาจารย์

-สวัสดีครับพี่หมอแก้ว…อุบล-ขอบคุณที่ตามมาให้กำลังใจครอบครัวเล็กๆ ของเราด้วยนะครับ-ยินดีที่ได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ครับ

-สวัสดีครับ อ.ต๋อย-ถือเป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้และหากมีใครสนใจก็สามารถทำตามได้เลยครับ-สถานที่ไม่ต้องมากหากแต่มีใจที่พร้อมก็ทำได้เลยครับ-ทำแบบนี้ทุก ๆ บ้าน ต่อไปเราก็ได้เรียนรู้ ณ บ้านของเราเองครับ-วิถีแบบไทยๆ น่ารักที่สุดคร้าบบ-ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท