[บทความภาพยนตร์] แม่มด : คติชนวิทยาในภาพยนตร์
สำหรับใครที่ชอบเรื่องราวคติชนวิทยาสิ่งลี้ลับ โดยเฉพาะความเชื่อเรื่องแม่มด ผมขอแนะนำหนังและซีรีย์ดังต่อไปนี้ ซึ่งผมเองรับรองเลยว่าหากใครดูครบแล้ว จะต้องหลงเสน่ห์เรื่องเล่าเกี่ยวกับแม่มดมากขึ้นทวีคูณ เพราะผู้กำกับและคนเขียนบทได้หยิบยกเรื่องราวของแม่มดที่เรารู้จักกันดีใส่เอาไว้ในหนังได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังดูสนุก ตื่นเต้น ระทึกขวัญไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย เรียกได้ว่านี่คือสาระความรู้และบันเทิงอย่างแท้จริง
The Sorcerer's Apprentice (2010) ศึกอภินิหารพ่อมดถล่มโลก นำแสดงโดยนิโคลัส เคจ ว่าด้วยเรื่องพ่อมดคนหนึ่งต้องการจะหาลูกศิษย์คนหนึ่งเพื่อถ่ายทอดเวทมนตร์คาถาที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเมอร์ลินพ่อมดคนสำคัญคือจากตำนาน King Arthur แต่เด็กหนุ่มคนนี้ดันไม่มีความเชื่อเรื่องพ่อมดแม่มดเลย เขาจะต้องสอนลูกศิษย์คนนี้เพื่อให้ปากกับศัตรูตัวร้ายที่ต้องการจะทำลายโลกใบนี้ ในหนังมีการร่ายเวทมนต์คาถาในแบบแฟนตาซี ยิงแสงใส่กัน อีกทั้งยังผสมผสานหลักวิทยาศาสตร์เข้าไปด้วย
6/10
Hansel & Gretel : Witch Hunters (2013) สองพี่น้อง ฮันเซลกับเกรเทล ที่ครั้งหนึ่งตอนวัยเด็ก หลงเข้าไปในป่า เข้าไปในบ้านขนมหวาน ไปเจอแม่มดใจร้าย หน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว จมูกยาวแหลม กินเด็กเป็นอาหารตามคติความเชื่อเรื่องแม่มดสมัยเก่า แต่ในเวอร์ชั่นนี้เป็นการตีความใหม่ให้มีความแฟนตาซีมากขึ้น ให้สองพี่น้อง มีความสามารถในการต่อสู้มากขึ้นในตอนโต มีความเป็นแอ็คชั่นเต็มที่ แถมยังอธิบายกระติกความเชื่อเรื่องแม่มดขาวซึ่งเป็นแม่มดฝ่ายดี และแม่มดดำขึ้นเป็นแม่มดฝ่ายร้ายเอาไปด้วย
7/10
The VVitch (2015) หนังได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อเรื่องแม่มด ของชาวนิวอิงแลนด์ ชาวยุโรป ภาพจำเรื่องแม่มดที่มีอยู่มากมายหลายรูปแบบ ตั้งแต่แม่มดในป่า แม่มดนำสัตว์มาปรุงยา แม่มดกินเด็ก แม่มดในชุดหมวกสีแดงกับไม้กวาด พิธีกรรมลัทธิบูชาซาตาน การประกอบพิธีกรรมโดยร่างกายเปลือยเปล่า ฯลฯ นำมาสอนใส่ไว้ในเรื่องอย่างชาญฉลาด อีกทั้งยังใช้สติสัญลักษณ์เกี่ยวกับบาป ซาตานได้อย่างดียิ่ง 10/10
The Autopsy of Jane Doe (2016) : แสดงถึง ประวัติความเป็นมาอันยาวนานของแม่มด รวมอำนาจของแม่มด คำสาปแช่ง ที่มันจะยังคงอยู่ตลอดไปอย่างยาวนาน เรื่องนี้เน้นความสยองขวัญเป็นอย่างมาก 10/10
Doctor Strange (2016) ภาพยนตร์แฟนตาซีว่าด้วยเรื่องพ่อมดจอมเวทย์สร้างจากการ์ตูนค่าย Marvel ว่าด้วยเรื่องนายแพทย์ต้องการจะหาผู้รักษาอาการที่เกิดจากการบาดเจ็บของระบบประสาทแต่กลับพบจอมเวทย์ที่รักษาได้มากกว่านั้น เขาได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้สามารถร่ายเวทย์มนต์คาถาได้ จนในที่สุดเขาได้เป็นผู้นำคนสำคัญของสำนักในการปราบสตรูร้ายจากนอกโลก
8/10
Marrianne (2019) : ซีรีย์จากช่อง netflix เรื่องราวสยองขวัญ ตื่นเต้น ระทึกขวัญ ว่าด้วยปีศาจร้าย แม่มด สิ่งของเกี่ยวกับแม่มด คำสาปแช่ง และความเชื่อต่าง ๆ เรื่องนี้โดดเด่นด้านการสร้างความน่ากลัว ตกใจ จัดว่าเป็นซีรีย์ที่น่ากลัวที่สุดเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว แถมยังมีการกำกับภาพที่สวยงามอีกด้วยนะ 10/10
Harry Potter นวนิยายแฟนตาซีจำนวน 7 เล่ม โดย เจ. เค. โรว์ลิง ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยค่าย Warner Brothers ออกฉายในปี 2001 - 2011 ว่าด้วยเรื่องราวของโรงเรียนสอนพ่อมดแม่มด ในหนังสือหรือภาพยนตร์เราจะเห็นอนุภาคที่แสดงตัวตนของแม่มดในการรับรู้ของบุคคลทั่วไปเช่น การใส่เสื้อคลุมสีดำ การสวมหมวกทรงสูง การไม้กวาด การทำนาย การใช้ไม้คฑา เครื่องรางและสัตว์อาถรรพ์ ฯลฯ จัดได้ว่าเป็นการให้ภาพความเป็นแฟนตาซีสนุกสนาน ฉายภาพด้านบวกและด้านลบของแม่มดได้อย่างดี
9/10
จากที่กล่าวมานั้นเป็นตัวอย่างเพียงน้อยนิดของภาพยนตร์และซีรีย์ที่มีพระเอกหรือตัวดำเนินเรื่องที่สำคัญคือพ่อมดแม่มด ซึ่งหากใครชอบศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับคติชนวิทยาเรื่องเล่า เรื่องราว ตำนาน สิ่งลี้ลับเกี่ยวกับแม่มด และหากใครชื่นชอบความบันเทิงในรูปแบบภาพยนตร์ที่มีชั้นเชิงการเล่าเรื่องชั้นเยี่ยม หนังและซีรีย์ที่แนะนำ มาเรื่องนี้รับรองว่าตอบโจทย์ทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง ประมาณว่าดูหนังจบแล้วอยากจะไปหยิบตำราที่เล่าเรื่องแม่มดมาอ่านเพิ่มเติมทันทีเลยทีเดียว
ในที่นี้ผมจะขอกล่าวถึงเรื่องราวของแม่มดและพิธีกรรมของแม่มดโดยสังเขปดังนี้
แม่มด เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงยุคกลางราวคริสต์ศตวรรษที่ 15-17 แพร่กระจายไปทั่วยุโรป บุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดจะเป็นเพศหญิง มีบทบาทพฤติกรรมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ผิดธรรมชาติและเหนือธรรมชาติ ก่อให้เกิดความหวาดกลัวแก่ผู้อื่นที่อยู่ร่วมในสังคม
ส่วนใหญ่แล้วแม่มดจะอยู่ในร่างของหญิงชราหน้าตาเหี่ยวย่น ใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่สีดำ มีภาพการสวมหมวกปีกกว้างทรงสูงยอดแหลมมีไม้กวาดใช้เป็นเครื่องมือในการขี่หรือเดินทางไปไหนได้ ชอบต้มยาในหม้อยาใบใหญ่มีส่วนผสมจากสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ รู้จักการนำพืชมาใช้เป็นยาสมุนไพร ชอบจับเด็กเล็ก ๆ มากินเป็นอาหาร ชอบล่อลวงผู้ชาย หมกมุ่นในกามราคะ มีแมว นกฮูกเป็นบริวาร โดดเด่นในด้านการใช้เวทมนตร์คาถา การสาปแช่ง ในทางชั่วร้าย และการสาปแช่งนี่เอง เป็นคำศัพท์มาจากภาษาอังกฤษคือ Witch
ภาพลักษณ์ของแม่มดที่เป็นหญิงชราสวมหมวกบานทรงสูงมีต้นเค้ามาจาก มาเธอร์ ซิปตัน (Mother Shipton) หรือในชื่อจริงว่า เออร์ซูล่า ซอนเธีย (Ursula Southeil) เธอมีชีวิตอยู่ในช่วงยุคกลาง กลาง คริสต์ศตวรรษที่ 15 ในเกาะอังกฤษ ลักษณะการแต่งกายของเธอคือใส่หมวกปลายบานทรงสูง สวมผ้าคลุม ถือไม้เท้า เธอเป็นนักพยากรณ์ที่ทำนายถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเช่นรถยนต์เครื่องบินเรือดำน้ำ เรือเหล็ก และที่สำคัญมากคือพยากรณ์เรื่องวันสิ้นโลกไว้อย่างน่าอัศจรรย์ ภาพลักษณ์โดยเฉพาะการแต่งกายของเธอนั้นกลายมาเป็นต้นแบบของแม่มดในยุคต่อมา และเกิดขึ้นกับการให้ภาพของแม่มดในงานวรรณกรรมหรือนิทานในยุคหลังครั้งต่อมา
แต่อย่างไงก็ตามแม่มดใช่จะเป็นหญิงชราที่มีความชั่วร้ายหรือด้านมืดเสมอไป เพราะแม่มดสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มคือ แม่มดดำมีพลังอำนาจในการสร้างความชั่วร้ายและไม่ช่วยเหลือผู้อื่น แม่มดเทา มีพลังอำนาจทั้งในด้านการทำอันตรายและการช่วยเหลือ แม่มดขาว เป็นแม่มดฝ่ายดีที่ชอบให้การช่วยเหลือและไม่ทำร้ายผู้อื่น
นอกจากนี้ Rossell Hope Robbins ยังได้จัดกลุ่มแม่มดออกไปได้อีก หลายทางคือ
ผู้วิเศษ (Magicain) เป็นผู้ที่สามารถใช้ถ้อยคำที่มีความขลัง ดลบันดาลให้วิญญาณของผู้ตายไปแล้วกลับมาปรากฏตัวได้ สามารถเปลี่ยนรูปภาพสิ่งของต่าง ๆ ได้
ผู้ใช้เวทมนต์คาถาในการทำนาย (Soothsaying wizard) สามารถพยากรณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตได้ โดยการมองผ่านสิ่งของเช่นลูกแก้ว บ่อน้ำ หม้อน้ำ ผลึกหินเป็นต้น
ผู้ทำนาย (Devinator) เป็นผู้ที่มีวิญญาณคอยช่วยเหลือ สามารถระบุตัวหรือค้นหาสิ่งของที่หายไปได้
นักเล่นกลหรือผู้หลอกลวง (Juggler) มีความสามารถในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นกับคนและสัตว์ เขียนคาถาตัวอักษรไว้บนสิ่งของและนำไปติดตัวกับผู้ป่วยเพื่อให้หายป่วยได้
ผู้ใช้เวทมนต์คาถา (Enchanter and charmer) สามารถใช้คาถา ประกอบกับตัวอักษรรูปภาพสิ่งของสมุนไพร เพื่อดลบันดาลให้เกิดบางสิ่งบางอย่างได้ทั้งด้านดีและด้านลบ มีความรู้ในการประกอบพิธีกรรมบวงสรวง ติดต่อกับดวงวิญญาณ ผี ปีศาจได้
แม่มด (witch) ภาพลักษณ์ของแม่มดนั้นเป็นไปตามปกติหรือรูปแบบของแม่มดที่กล่าวไว้ในขั้นต้นนั่นเอง
แม่มดจะอาศัยอยู่ในที่ห่างไกลผู้คนเช่นบนยอดเขา ในป่าลึก มีพฤติกรรมที่ลึกลับ ไม่เป็นที่พบเห็นของผู้คนทั่วไปมากนัก
แม่มด ถือเป็นภาพสะท้อนด้านมืดของสังคม คนในสังคมยุคนั้นเชื่อว่า เหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นเช่นโรคระบาด ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล พืชผักล้มตายเกิดวัชพืช หรือมีการตายเกิดขึ้นจำนวนมากนั้นล้วนเกิดจากอำนาจของแม่มดทั้งสิ้น วิธีการทำให้เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติคือการล่าแม่มดแล้วนำแม่มดมาประหารชีวิต
ซึ่งในยุคนั้นหากมีผู้หญิงคนไหนมีความสามารถ เกินตัว หรือมีพฤติกรรมที่แปลกประหลาด หรือแม้แต่คนที่ถูกใส่ร้ายก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด จะมีการล่าแม่มดนำมาทรมาณ เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าเป็นแม่มดหรือไม่ วิธีการตรวจสอบเช่น การค้นหาตำแหน่งของปีศาจ การใช้ของแหลมทิ่มแทง การสวดมนต์ การจับโยนน้ำด้วยการมัดมือมัดเท้า การใช้เครื่องทรมาน เช่นบีบหัวแม่มือการรับทรมานข้อเท้า การใช้คีมเหล็กเผาไฟฉีกเนื้อหน้าอก ใช้เครื่องดึงเล็บ ใช้เครื่องบิดศีรษะ เป็นต้น เมื่อหญิงสาวทนไม่ได้ก็จะสารภาพว่าตนเป็นแม่มด และเมื่อตรวจสอบว่าเป็นแม่มดแล้วจะทำการประหารชีวิต เช่นกันฝังทั้งเป็น การถ่วงน้ำให้ตายทั้งเป็น หรือเผาไฟทั้งเป็น การประหารชีวิตก็จะทำต่อหน้าสาธารณชน เพื่อเป็นการทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจว่าต้นเหตุของความชั่วร้ายนั้นได้ตายจากไปแล้วอีกทั้งยังเป็นการเตือนผู้คนที่จะเป็นปฏิปักษ์ ต่อการปกครองในยุคนั้น
แม่มดจะประกอบพิธีกรรม เกี่ยวกับการบูชาซาตานหรือปีศาจเรียกว่าพิธี ซับบาท (Subbats หรือ Subbath) พิธีนี้เป็นพิธีกรรมที่ล้อเลียนพิธีกรรมในศาสนาคริสต์ เป็นพิธีที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นปฏิปักษ์ต่อศาสนาคริสต์อย่างชัดเจน ผู้คนที่นิยมเรื่องราวและหลงใหลเกี่ยวกับปีศาจจะมาชุมนุมกัน ผู้คนที่มาชุมนุมล้วนแต่เป็นหญิงล้วน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอก็คือแม่มด จะเดินทางด้วยการขี่ไม้กวาด หรือขี่สัตว์บางชนิด ไปยังที่ชุมนุมในที่ลึกลับในป่าลึก พวกเธอประกาศเลิกศรัทธาในศาสนาคริสต์หันมาบูชาปีศาจหรือซาตาน ปีศาจหรือซาตานจะมีลักษณะร่างกายเป็นมนุษย์ศีรษะเป็นแพะ มีการใช้สัญลักษณ์ดาว 5 แฉกในการประกอบพิธี มีการประกอบอาหารบนกองไฟ อาหารจะมีรสชาติบูดเน่าเหม็น อาจมีเด็กทารกเป็นอาหารด้วย หลังจากกินเลี้ยงจะมีการเต้นรำ มีกิจกรรมทางเพศที่สื่อออกมาในรูปแบบของการราคะ มีการขูดขีดอักขระบนร่างกาย เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของการเป็นสมาชิกของแม่มด
นี่คือตัวอย่างการนำต้นทุนทางคติชนวิทยา มาใช้ในการบันเทิงชั้นดี ซึ่งผมมองว่าหากใครชาญฉลาดในการนำมาใช้ ทำมาสอนแทรกในเรื่องราว ผนวกกับมีกลวิธีการเล่าเรื่องที่ดีแล้วละก็ ยิ่งทำให้ "คติชน" และ"หนัง" โคตรจะมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นเป็นกองเลย
วาทิน ศานติ์ สันติ
ปล. การให้คะแนนภาพยนตร์นั้นเป็นทัศนคติและความเห็นส่วนตัวของผมเองทั้งสิ้น
เอกสารประกอบการเขียน
รมณี กองพัฒนา. (2561). เทพนิยายที่เป็นพื้นฐานของวรรณคดี. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคําแหง.
เสาวลักษณ์ อนันตศานต์ และ สุภัทรา บุญปัญญโรจน์. (2560). ระบบความเชื่อและศาสนาพื้นบ้าน.กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคําแหง.
A. Piraka Onprints. (2006). สืบรหัสลับดาวินชี. กรุงเทพมหานคร: โซเฟีย บุ๊คส์.
ไม่มีความเห็น