เฉิงตู เมืองเอกอันยิ่งใหญ่แห่งมณฑลเสฉวน (2) ทะเลสาบเต๋อซีกับจามรีขนนุ่ม
ทะเลสาบเต๋อซี (Dexi Lake) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเกือบ 3,000 เมตร เป็นทะเลสาบสีเขียวเทอคอยซ์แต่ เลื้อยยาวไปตามแอ่งหุบเขา เป็นภูมิทัศน์อันยิ่งใหญ่ตระการตา ผิวน้ำราบเรียบปราศจากริ้วคลื่นหรือแท่งตอไม้ สีของทะเลสาบเข้มสดใส เงาสะท้อนจนดูราวเป็นกระเบื้อง
ทะเลสาบเต๋อซีเป็นผลพวงจากการเกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 2478 ซึ่งได้กลืนสิ่งก่อสร้างและสรรพชีวิตให้หายไปในพริบตา ความงามของธรรมชาติบางครั้งก็แฝงไว้ด้วยความโหดร้าย รอบๆทะลสาบมีบริการให้เช่าจามรีเพื่อขี่ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกด้วย
จามรีมีจุดเด่นคือ มีขนยาวมากและละเอียดอ่อนสีขาว หรือสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ หรือสีขาวเฉพาะบริเวณสวาบจะมีสีดำห้อยยาวลงมาเกือบถึงพื้น ช่วงเขากว้างมาก หางยาวเป็นพู่ จามรีจะพบกระจายพันธุ์ในเขตเทือกเขาหิมาลัยทางตอนใต้ของเอเชียกลาง ในที่ราบสูงทิเบต และทางตอนเหนือ ไปจนถึงมองโกเลียและรัสเซีย ซึ่งเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็น จามรีที่มีอยู่โดยมากเป็นสัตว์เลี้ยง แต่ก็มีจามรีป่าจำนวนหนึ่งที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันจัดเป็นชนิดย่อยต่างหาก เรียกว่า Bas mutus
จามรีเป็นสัตว์ที่มนุษย์ผูกพันมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเฉพาะชนพื้นเมือง เช่น ชาวทิเบต ชางภูฏาน ชาวเซอร์ป่า เป็นต้น มีการเลี้ยงในฐานะปศุสีตว์ มีการบริโภคเนื้อ และนมของจามรีเป็นอาหาร อีกทั้งขนของจามรีก็ใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม และใช้เป็นสัตว์พาหนะ ซึ่งจามรีสามารถบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนัก และสามารถใช้เป็นพาหนะในการเดินขึ้นเขาหรือที่ราบสูงได้เป็นอย่างดี จามรีเป็นสัตว์ค่อนข้างเชื่อง แต่มักจะตื่นกลัวคนแปลกหน้า
จามรีเป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองของธิเบต ซึ่งชาวทิเบตโบราณเชื่อกันว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ ขจัดสิ่งชั่วร้ายให้แก่ผู้สวมใส่ อีกทั้งเขาจามรีมีความเย็นจึงมีความเชื่อว่าสามารถช่วยดับพิษร้อนในร่างกายได้ ส่วนความเชื่อของคนไทยตั้งแต่โบราณกาลเชื่อว่าการสวมใส่กำไลมงคลจะนำพากำไรมาสู่ผู้สวมใส่ ทำให้ทำมาค้าขึ้น เงินทองไม่ขาดมือ นำโชคลาภมาให้ผู้สวมใส่ไม่ขาดสาย
จามรีไม่ใช่สัตว์ประจำถิ่นของประเทศไทย แต่ทว่าคนไทยมีความรับรู้เกี่ยวกับจามรีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา เรื่อยมาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ สันนิษฐานว่าเรื่องราวเกี่ยวกับจามรีเผยแพร่เข้ามาผ่านการเผยแพร่ศาสนาพราหมณ์ ศาสนาซิกซ์ และศาสนาพุทธจากประเทศอินเดีย หรือผ่านเส้นทางการค้าของพ่อค้าชาวอินเดีย อาหรับ และจีน ที่มีการผลิตผ้าขนสัตว์จากจามรี จะเห็นได้ว่า ขนจามรีถูกนำมาใช้เป็นเครื่องประกอบในโบราณราชประเพณีของราชสำนักสยามหลากหลายประการ เช่น
พระแส้จามรี
หนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ อันเป็นสัญลักษณ์แสดงพระราชอำนาจของกษัตรืย์ และยังใช้เป็นส่วนประกอบของคชาภรณ์หรือเครื่องประดับช้างคู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ ได้แก่ พู่หู ทำจากขนหางจามรีสีขาว ใช้สำหรับห้อยจากผ้าปกตระพองลงมาจนถึงหูทั้งสองข้าง
ในกระบวนพยุหบาตราทางชลมารค ขนของจามรีใช้เป็นเครื่องประกอบเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ ในส่วนที่เป็นพู่ห้อย ปรากฏอยู่ในกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร
สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย
งามช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์
ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม
นอกจากนี้ขนจามรียังใช้เป็นพู่ยอดประดับบนหมวกของทหารตำรวจและราชองครักษ์ในพิธีสวนสนาม และเป็นส่วนประกอบของเครื่องแขวนตามประตูหน้าต่าง และเป็นเครื่องประดับอาวุธจำพวกหอกและทวนตามตำราพิชัยสงคราม
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร ได้นิพนธ์ไว้ในโคลงโลกนิติ โดยนำลักษณะนิสัยของจามรีมาเปรียบเทียบกับอุปนิสัยของคนเรา เพื่อเป็นคติสอนใจ ดังนี้
จามรีขนข้องอยู่ หยุดปลด
ชีพบ่รักรักยศ ยิ่งไซร้
สัตว์โลกซึ่งสมมติ มีชาติ
ดูเยี่ยงสัตว์นั้นได้ ยศซ้องสรรเสริญ
ขอขอบคุณ
ไม่มีความเห็น