อนุทินล่าสุด


blue_star
เขียนเมื่อ

วันนี้ได้คุยกับมิตรผู้หนึ่งซึ่งคุณพ่อเค้ากำลังป่วยหนักอยู่ในไอซียู

โดยปกติแล้วมิตรท่านนี้เป็นคนที่มีภาระงานมาก เค้าต้องรีบเคลียร์งาน เพื่อที่จะได้กลับไปดูแลคุณพ่อ

ข้าพเจ้าบอกเค้าว่า...

"ให้เห็นแก่ตัวบ้าง...พักเรื่องงานไว้ก่อน แล้วกลับไปทำหน้าที่ของลูกที่ดีให้เต็มที่ เวลาทุกนาทีมีค่า และเวลาในช่วงนี้ ก็นับเป็นเวลาที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้น ให้เลือกทำให้สิ่งที่มีความหมายกับชีวิตมากที่สุด..."



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

อากาศร้อนจัดมาหลายวันแล้ว

และก็คงจะเป็นความปรานีของธรรมชาติ... ที่บันดาลให้มีสายลมแผ่วๆ ช่วยพัดพาความร้อนให้จางคลายลงได้บ้าง

ข้าพเจ้าถือหนังสือ "หิมะกลางฤดูร้อน" ออกไปนั่งอ่านหลังบ้าน

เสียงจิ้งหรีดร้อง ผสมกับเสียงสั่นไหวของใบไม้ยามต้องลม

สงบ...สบาย...มีเพียงข้าพเจ้าและลมหายใจที่เป็นเพื่อน

ความสุขหาได้ง่ายๆ เช่นนี้เอง



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

เย็นวันนี้ปั่นจักรยานผ่านหน้าโรงพยาบาล

คนไข้พิการ นั่งอยู่คนเดียวเงียบๆ... ในขณะที่ผู้คนมากมายเดินผ่านไปมา

สุนัขขี้เรื้อนตัวหนึ่ง นั่งหมอบอยู่ข้างๆ...เป็นเพื่อน

เขานั่งทำอะไร หรือคิดอะไรนะ?

ข้าพเจ้าซื้อน้ำหวานเย็นๆ มาให้และถามอาการเจ็บป่วยของเขา

ข้าพเจ้าคิดว่า อย่างน้อย น้ำหวานเย็นๆ ในวันที่อากาศร้อนจัด คงจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบ้างล่ะน่า

แล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของชายพิการคนนั้น...

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

เสาร์-อาทิตย์นี้มีงานให้ต้องสะสางเร่งเข้ามาอีกแล้ว

คราวนี้ตั้งใจจะค่อยๆ ทำไปทีละอย่าง

ไม่ร้อนรน ฟุ้งซ่าน จนใจไม่มีกำลังเหมือนคราวที่แล้ว...

เมื่อใดที่อุณหภูมิใจสูง ความหงุดหงิดจะเข้ามาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ

แถมงานก็ยังไม่ได้ประสิทธิภาพ

ครั้งนี้...จะต้องดีกว่าครั้งที่แล้ว ข้าพเจ้าสู้ๆ!

(เราต้องหมั่นให้กำลังใจตัวเอง อิอิ)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

เมื่อวานข้าพเจ้าได้ลงสนามทดสอบใจ

จึงได้รู้ซึ้งถึงประโยคที่ว่า

 

"หากใจเราเป็นสุข...ไม่ว่าอยู่ที่ใด เราก็มีความสุข ^v^"

 

ขอเพียงมีบ้านที่พักใจ

ไม่ว่าพายุภายนอกจะรุนแรงภายใด

ย่อมมีความสงบ มั่นคง ไม่หวั่นไหวไปตามแรงลม



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

มันไม่สำคัญว่าผู้อื่นจะคิดอย่างไรกับเรา...

แต่สำคัญที่ว่าเราจะคิดอย่างไรกับตัวเราเองและผู้อื่น



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

วันก่อนนั้น ได้ดอกกุหลาบมาหลายดอก...เลยเอาไปแบ่งให้คนไข้เรื้อรังที่นอนบนหอผู้ป่วย เผื่อว่าความสดใสของดอกไม้ จะทำให้จิตใจของคนไข้สดชื่นเบิกบาน

วันต่อมา...กุหลาบนั้นเริ่มเหี่ยวเฉา กุหลาบสีชมพูในแก้วน้ำที่หัวเตียงคนไข้ไม่สดใสเหมือนเดิม

ข้าพเจ้าพูดกับคนไข้ว่า "กุหลาบมันเฉาแล้วเนอะ"

คนไข้ตอบว่า "มันก็เป็นอย่างนั้นแหล่ะครับ ตูม เบ่งบาน แล้วก็ร่วงโรย เหมือนกันชีวิตคนเรา"

เออ...คนไข้ของข้าพเจ้าชักจะธรรมะธัมโมขึ้นทุกวันแล้วนะเนี่ย ^v^

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

บรรจงพับดอกบัวสีขาวดอกน้อย

ทีละกลีบ ทีละกลีบ...

จากชั้นนอกสุด ซึ่งกลีบหยาบและหนา

พับเข้าไปเรื่อยๆ ทีละชั้น ทีละกลีบ

กลีบดอกบัวเริ่มบางลง ละเอียดอ่อน 

ช่างเหมือนใจคนเราไม่มีผิด

วันนี้การพับดอกบัว สอนอะไรให้กับข้าพเจ้าเยอะทีเดียว (^v^)



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

ปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามา บางครา...ก็ราวกับพายุฝน

เป็นธรรมดาที่ต้นหญ้าเล็กๆ เมื่อโดนลมพายุพัดโหมกระหน่ำ ก็ย่อมที่จะไหวเอนไปตามแรงลม

แต่ถึงกระนั้น ต้นหญ้าก็คงยังยืนหยัด...เพื่อรอเวลา

เมื่อพายุได้พัดผ่านไป...

น้ำฝนนั้นได้ซึมผ่านผืนดินหล่อเลี้ยงต้นหญ้าให้เติบโต

หยาดฝนบนยอดหญ้าสะท้อนแสงตะวัน ส่องประกายงดงาม...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

สำหรับข้าพเจ้า...

"ความรัก" ความรู้สึกชนิดหนึ่ง ขึ้นอยู่กับนิยามของแต่ละคน

"วาเลนไทน์" วันวันหนึ่งที่ผ่านมาแล้วผ่านไป

"กุหลาบ" ดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ไม่ต่างจากดอกหญ้า

"chocolate" ขนมขมๆ หวาน...ที่ข้าพเจ้าชอบพอๆ กับกาแฟ ^v^

วันวาเลนไทน์มีความสำคัญ ก็เพราะว่าเราไปให้ความสำคัญ

ทำไมนะ จึงไม่ทำให้ทุกๆ วันเป็นวันแห่งความรัก...

เริ่มที่รักตนเองและพร้อมที่จะแบ่งปันความรัก...แล้วจะพบว่าทุกสิ่งรอบตัวล้วนสวยงามหากเรามองด้วยสายตาของคนที่มีความรัก

ก็โลกเราหมุนด้วยความรักนี่นา



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

นาฬิกาข้อมือที่ใช้ประจำ สายเก่าชำรุด จึงได้ใช้ยางรัดสายไว้พอให้สามารถใช้ต่อไปได้เพราะไม่อยากจะทิ้ง เสียดาย...เพราะเจ้านาฬิกาก็ยังเดินบอกเวลาอย่างเที่ยงตรงตามหน้าที่ของมัน

ค่ำนี้ไปเดินตลาดนัด ได้ตัดสินใจซื้อนาฬิกาใหม่อีกเรือนในราคา 100 บาท ถ้าจะเอานาฬิกาเรือนเก่าไปเปลี่ยนสาย ราคาคงจะพอๆ กับที่ซื้อใหม่ (นาฬิกาเรือนเก่าราคา 99 บาท)

ในขณะที่เลือกซื้อนาฬิกา พี่ที่ไปเดินตลาดนัดด้วยกันพูดแซวว่า

เงินเดือนก็ตั้งแยะ ซื้อนาฬิกาเรือนละร้อย

คุณค่าของนาฬิกา สำหรับข้าพเจ้านั้นไม่ได้ขึ้นกับราคา...หากแต่อยู่ที่ว่าจะสามารถบอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรงหรือไม่

ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาเรือนแสน หรือว่าเรือนละร้อยบาท ประโยชน์ของนาฬิกาก็เพื่อที่จะใช้ดูเวลามิใช่หรือ?



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

แสงแห่งอาทิตย์...

สาดส่องสร้างความอบอุ่นแก่โลกฉันใด

แสงแห่งความรักความดีงาม

ก็สร้างความสว่างไสวแก่ชีวิตฉันนั้น

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

เคยมีคนพูดไว้ว่า

มันยากที่จะรักใครสักคน แต่มันเป็นการยากกว่าที่จะลืม

แล้วทำไมต้องลืม?

ในเมื่อต้นกล้าแห่งรักได้ถือกำเนิดขึ้น

แม้ไม่มีโอกาสได้ดูแลให้ต้นกล้าแห่งรักนั้นเติบใหญ่งดงาม

แค่เพียงเมล็ดพันธุ์แห่งรักที่เพาะลงบนหัวใจ ก็ทำให้จิตใจเรานั้นอ่อนโยน

แล้วใยจึงจะต้องลืมช่วงเวลาอันมีค่าเหล่านั้นเล่า?



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

วันเสาร์ที่ผ่านมา... ขณะข้ามสะพานลอยที่กรุงเทพฯ

ข้าพเจ้าเดินผ่านชายชราพิการตาบอดที่นั่งสีซอขับขานบทเพลงพื้นเมืองอีสาน เบื้องหน้ามีกล่องโลหะเก่าๆ ติดชื่อของชายพิการและหมายเลขสมาชิกชมรมคนพิการขอนแก่นติดอยู่

ข้าพเจ้าเดินผ่านเลยไปตามความเคยชิน (ปกติจะไม่ชอบให้เงินขอทาน)...แต่จะด้วยเสียงบทเพลงหรือท่าทีของชายชราก็ไม่ทราบทำให้ข้าพเจ้าหยุดยืนคิดว่าจะหย่อนเงินลงในกล่องดีหรือไม่  คุณตายังสีซอต่อไปตามท่วงทำนองราวกับศิลปินเอกกำลังแสดงดนตรีไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีคนเดินผ่านมาหรือไม่ หรือแต่ละวันจะมีรายได้จำนวนเท่าไหร่ในกล่องใบนั้น

ข้าพเจ้าใช้เวลายืนนิ่งๆ นานเกือบห้านาทีเพื่อตัดสินใจ ในที่สุดข้าพเจ้าก็ตัดสินใจเดินย้อนกลับไปบนสะพานลอยเพื่อให้เงินคุณตาคนนั้น...

หากคิดจะทำสิ่งใดที่ดีที่เป็นประโยชน์จงรีบกระทำเสีย ใครเลยจะล่วงรู้อนาคตภายหน้า วันนั้นอาจเป็นวันสุดท้ายแห่งชีวิต ฉะนั้นทำปัจจุบันขณะให้ดีที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับมาเสียใจในภายหลัง

ในอีกวันถัดมา ข้าพเจ้าก็ไม่พบคุณตาเจ้าของเสียงซอนั่นอีก....



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

ไม่ว่าจะโชคดีหรือโชคร้าย

ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์

ไม่ว่าจะมีรอยยิ้มหรือคราบน้ำตา....

ไม่ว่าสิ่งใดๆ จะผ่านเข้ามาบนทางเดินแห่งชีวิต

ท้ายที่สุด "มันก็แค่นั้นเอง"



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

ความรู้สึกบางอย่าง บางคนได้เพียงแต่เก็บไว้ กดไว้ในใจ โดยที่พยายามบอกตนเองว่าไม่รู้สึกอะไรแล้ว แต่เมื่อยามใดที่เผลอ ก็ย่อมพูดระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ภายในนั้นออกมา...

เหมือนกับต้นหญ้าที่เอาก้อนหินทับไว้ แม้ว่าต้นหญ้าจะเหลืองแห้ง แต่ทว่าไม่ตาย ยามเมื่อได้แสงแดดก็กลับงอกงามขึ้นมาใหม่

ดังนั้น ต้องถอนหญ้าให้ถึงรากแห่งจิตใจ...มีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะรู้ว่า หญ้านั้นได้ถูกถอนขึ้นมาหรือไม่ ตนเป็นประจักษ์พยานแห่งตนได้ดีที่สุด!



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

เมื่อมีจุดเริ่มต้น ย่อมมีการสิ้นสุด...

บางครั้งการไปฝืนเร่งให้ถึงที่จุดหมายหรือที่สิ้นสุดโดยเร็ว ก็ทำให้รู้สึกเหน็ดเหนื่อย...เหมือนกับการพยายามวิ่งอยู่ตลอดเวลา

ชะลอฝีเท้าลงบ้างเพื่อให้ร่างกายและใจได้พัก หยุดคิดทบทวน ให้เวลาได้ทำหน้าที่เดินไปตามวิถีทาง...

ที่เหลือก็ค่อยๆ ก้าวเดินพร้อมกับการรักษาลมหายใจเอาไว้ด้วยใจที่เบิกบาน



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

แม้จะรู้ว่าคำพูดเป็นเพียงลมปาก แต่บางคราวคำพูดเหล่านั้นก็มากระทบใจให้หม่นหมอง

ทำได้เพียงให้ใจรับรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น...แล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป

ยิ่งหากเป็นคำพูดที่ไม่เป็นความจริง วาจาที่กล่าวออกมาประกอบไปด้วยอกุศลจิต ใยต้องเก็บมาคิดให้จิตเศร้าหมองอีกเล่า...



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

ตอนเช้ารู้สึกเหนื่อยกาย...เพลียใจ แต่ก็ต้องอดและทนเพื่อทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่กระนั้น ก็ยังรู้สึกได้ว่าใจร้อนรุ่ม พอไม่ได้ดั่งใจมันก็พาลหงุดหงิดขึ้นมา...

แต่พอตอนบ่าย จิตใจเริ่มเยือกเย็นลง ความเมตตากรุณาเริ่มยึดพื้นที่แทนความหงุดหงิด

อืม...ความรู้สึกในใจช่างเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วจริงๆ



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

where I belonged to...

ตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว เคยหาความหมาย หาสถานที่นี้ตลอดมา

ไม่ว่าจะอยู่บ้านที่เติบโตมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่ว่าจะเดินทางไปอยู่หอพัก หรือท่องเที่ยวไปยังที่ต่างทั้งในและต่างประเทศ กลับไม่เคยรู้สึกว่า มีสถานที่ใดเป็นสถานที่ที่เป็นที่สำหรับตนเองจริงๆเลยสักครั้ง

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร...ก็ยังคงหาสถานที่นั้นอยู่เสมอ

ที่ที่แท้จริงของข้าพเจ้าอยู่ ณ ที่ใดกัน? ที่ที่อยู่แล้ว รู้สึกว่าหยุด ไม่ต้องเดินทางต่อ...

ตอนนี้การเดินทางยังคงต้องดำเนินต่อไป ตราบจนกว่าที่ข้าพเจ้าจะพบที่นั้น...

"where I belonged to..."



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

ปีใหม่นี้ อยู่เวรทำบุญรับปีใหม่...

ทุกครั้ง เวลาที่เจอคนเมาสุราแล้วประสบอุบัติเหตุ หรือทำร้ายร่างกายกัน ดื่มสุราจนเลือดออกในกระเพาะ จนช็อค สิ่งเหล่านี้สร้างความหงุดหงิดให้ข้าพเจ้าเสมอ...ข้าพเจ้าไม่เคยเข้าใจเลยว่าเหตุใดจึงต้องดื่มสุรากันมากมายขนาดนั้น

แต่ปีนี้ ข้าพเจ้าใจเย็นลงมาก เวลาต้องออกไปดูคนไข้ตอนดึกๆ ก็จะแหงนหน้ามองดูพระจันทร์และดวงดาวบนท้องฟ้า ทำให้อารมณ์เยือกเย็นลงได้อย่างประหลาด....หรือที่ข้าพเจ้าใจเย็นลงจะเป็นอิทธิพลของดวงจันทร์และดวงดาวบนฟากฟ้ากันนะ?



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

blue_star
เขียนเมื่อ

ตอนไปที่วัด คุณยายโก...แม่ชีที่วัดสอนดาวว่า

ให้ทำตัวเราให้เหมือนแผ่นดิน ไม่ว่าเค้าจะเหยียบจะย่ำเท่าไหร่ ดินก็ไม่ได้รู้สึกสะเทือน เค้าจะขุดหลุมปลูกต้นไม้ ดินก็ยังทำให้ต้นไม้งอกงาม ให้ผลผลิตเลี้ยงผู้คน เค้าเอาขยะมาเท...ดินก็รับไว้พร้อมทั้งเปลี่ยนขยะเหล่านั้นให้เป็นปุ๋ยเป็นประโยชน์แก่พืช แล้วก็จงทำใจให้ดุจดั่งแม่น้ำที่ใสสะอาด รักษาใจเราให้ใส ใครจะเอาขยะของเน่าเสียมาทิ้ง ก็ให้มันไหลไป ไม่ต้องเก็บมาหมักหมมไว้ในใจ...ทุกสิ่งทุกอย่างมันเป็นธรรมดาของโลก เรามีหน้าที่รักษาใจเราให้ใส รักษาลมหายใจของเราให้มันดี แค่นี้ก็พอแล้ว



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท