เจ้าหญิงป่วน ณ ปัตตานี
เด็กหญิง ประเสริฐ (أُخْتٌ صَغِيْرَةٌ ) รัศมีแห่งดวงตา เจ้าหญิงป่วน ณ ปัตตานี

ประวัตินบีอีซา (เยซู) อะลัยฮิสสลาม


อัลลอฮฺได้ทรงกล่าวไว้ว่า

ตอนที่ 1 เรื่องราวของมัรยัม บุตรีอิมรอน

ในหลายตอนของคำภีร์อัลกุรอานอัลลอฮฺได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของชาวคริสเตียนว่าพระองค์ทรงมีบุตร
ครั้งหนึ่ง ตัวแทนกลุ่มหนึ่งจากเมืองนัจญ์รอนได้มาหท่านนบีมุหัมมัดศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม พวกเขาได้เริ่มพูดคุยถึงเรื่องคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับเรื่องตรีเอกานุภาพ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ว่าอัลลอฮฺเป็นสามในหนึ่ง นั่นคือเป็นพระบิดา เป็นพระบุตร และวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขามีความขัดแย้งกัน นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมอัลลอฮิจึงได้ยืนยันไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานหลายตอนว่านบีอีซา (พระเยซู) เป็นเพียงบ่าวของอัลลอฮฺซึ่งพระองค์ได้ให้มาจุติในครรภ์ของแม่ท่านเหมือนกับมนุษย์คนอื่น แต่พระองค์ได้ทรงให้ท่านเกิดมาโดยไม่มีพ่อเช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงสร้างนบีอาดัมขึ้นมาโดยไม่มีพ่อและแม่

อัลลอฮฺได้ทรงกล่าวไว้ว่า
“อัลลอฮิได้ทรงเลืออาดัมและนูหฺและผู้สืบตระกูลของอิบรอฮีมและผู้สืบตระกูลของอิมรอนเหนือประชาชาติทั้งหลาย พวกเขาเป็นเผ่าพงศ์จากกันและกัน และอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้”

“(จงนึกถึง) เมื่อตอนที่ภรรยาของอิมรอนได้กล่าวว่า “ข้าแต่พระผู้อภิบาลของฉัน ฉันได้บนไว้ต่อพระองค์ซึ่งสิ่งที่อยู่ในครรภ์ของฉันให้เป็นสิ่งที่อุทิศถวายสำหรับพระองค์ ดังนั้นได้โปรดรับสิ่งนี้จากฉันด้วยเถิด แท้จริง พระองค์เป็นผู้ทรงได้ยิน เป็นผู้รอบรู้”
หลังจากนั้น เมื่อนางได้คลอดลูกออกมา นางได้กล่าวว่า “พระผู้อภิบาลของฉัน ฉันได้คลอดเด็กผู้หญิงออกมา” และอัลลอฮฺทรงรู้ดียิ่งในสิ่งที่นางคลอด “และเพศชายนั้นไม่เหมือนกับเพศหญิง ดังนั้น ฉันได้ตั้งชื่อเธอว่ามัรยัม และฉันขอพระองค์ได้ทรงคุ้มครองเธอและลูกของเธอให้พ้นจากมารร้ายที่ถูกสาปแช่ง”

ดังนั้น พระผู้อภิบาลของนางจึงได้รับคำร้องเรียนของนางด้วยดี และทรงให้นางเจริญวัยอย่างสมบูรณ์และได้มอบนางให้อยู่ภายใต้การอุปการะของซะกะรียา เมื่อใดก็ตามที่ซะกะรียาเข้าไปพบนางในที่หวงห้าม เขาได้พบอาหารอยู่ที่นาง เขาได้ถามว่า “มัรยัมเอ๋ย เธอได้สิ่งนี้มาจากไหน?” นางตอบว่า “มันมาจากอัลลอฮฺ แท้จริง อัลลอฮฺทรงประทานเครื่องยังชีพแก่ผู้ที่พระองค์ทรงประสงค์โดยปราศจากการคำนวณ” (กุรอาน 3:33-37)


                                                                                                              ----  ติดตาม -----

เรียบเรียงโดย อาโด้

คำสำคัญ (Tags): #อบูอัชบาล
หมายเลขบันทึก: 99852เขียนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2007 18:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 15:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

อยากให้ชาวมุสลิมทุกคนจงอย่าลืมศาสนาของเรา

อย่าหวังแม้แต่จะคิด

เราก้อเหมือนกันศาสนาคือชีวิจิตใจของเช่นกันน่ะรัน

อืม! ว่าแต่ทุกคนล่ะยังรักศาสนาอิสลามอยู่อ่ะป่าว?

ดุนยา...เป็นเพียงศาลาพักใจของมุสลิม

อาคีรัต...เป็นได้ถึงราชวังของผู้ศรัทธา

(เราทั้งหลาย หากเราอยากมีความสุขทื่นิรันดร์...ฉะนั้นเราอย่าหลง อย่าร่วมมือ

กับซัยตอน ทั้งกาย วาจา และใจ)

นาอูซูบิลลาฮ ฮิ มี นัซ ซาลิก

รักและห่วงใยทุกคน

ทุกคนยังศรัทธาในศาสนาอยู่หรือไม่?????

ฉันยังรักและศรัทธาต่ออัลลอฮเสมอแต่ฉันรู้ว่าฉันเปนคนบาปหนักแต่ฉันก็รู้ว่าไม่มีสิ่งอื่นใมดในโลกนี้ที่จะยิ่งใหญ่เท่ากับอัลลอฮฉันอยากเปนมุสลิมที่มีความบริสุทธิ์ดั่งเดิมฉันต้องทำยังไงดีเพราะที่ผ่านมาฉันมันได้กระทำการที่หลงผิดมามากมายต่างๆนานาฉันเปนคนที่ทรยศต่ออัลลอฮพระผู้เปนเจ้า ข้าอยากขอโทดต่อพระองค์ฉันต้องทำยังไงดี

เดือนนี้เป็เดือนอันประเสริฐ ประตูแห่งการสำนึกผิด ได้เปิดไว้ อย่างไร ก็ขอดุอาร์ และรำลึกถึงอัลลอฮฺให้มากๆ..พร้อมกันนั้นก็ ห่างไกลในเส้นทางที่คิดว่า อัลลอฮิทรงไม่พอพระทัย

และพยายาม เข้าหาและสมาคมกับคนที่มีอีม่าน

จงอย่าลืออิสลาม จงละหมาดให้ครบห้าเวลา

เราดีใจที่ศึกษาเรื่องนี้

ชอบอ่านเกี่ยวกับประวัตินบี

ชอบอํานเกียวกับประวัติ

ขอให้ฉันยุในศาสนาของอัลเลาะห์ และครอบครัวฉันให้ตายในอีหม่านด้วยเถิด

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท