ครูสุนันทา กระแสสุนทร:
เริ่มจากที่มึกลุ่มเพื่อนดี ชวนกันไปเข้ารับการอบรม ที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ในช่วงเดือนเมษายน ได้ฟัง อ.วินัย รอดจ่าย โดยไปทุกปีเห็นครูเดินทางจากภาคเหนือ ภาคใต้ มาร่วมฟัง ซึ่งทำให้คิดถึงตนเองว่า เราเดินทางจากฉะเชิงเทรา ไม่ยากเย็นเลย จึงเริ่มตัดสินใจและลงมือทำ ซึ่งเมื่อทำได้ระยะหนึ่งก็มีความเบื่อหน่ายจึงทิ้งทั่งหมด จวบกระทั่งได้พบกับ ศน.กุณฑล ช่วยแนะนำจนเข้าปี ๒๕๔๕ ที่ได้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงเรียนอนุบาลฯแล้ว ได้รับแรงยุจาก พี่ๆ โดยเฉพาะ ผช.ผอ.ผ่องพรรณ ประเสริญพันธ์ จึงเริ่มใหม่อีกครั้ง โดยทำผลงานที่ใช้กับเด็ก แล้วหอบงานไปให้ผู้รู้ช่วยแนะนำ ซึ่งการพิมพ์จะมีรูปแบบของการพิมพ์ชัดเจน ซึ่งตนเองไม่มีความรู้เลย ซึ่งสร้างชุดพัฒนาทักษะภาษาไทย ในหลักสูตรท้องถิ่น เริ่มค้นหาข้อมูล ตนเองต้องการให้มีความแปลก ( เท่ห์) กว่าของคนอื่น เลยจัดทำเป็นบทร้อยกรอง อันดับแรกชูความเด่นของเอกสารโดยใช้เรื่อง หลวงพ่อโสธร เวลาคิดและเขียนสมองจะไหลลื่น ดังนั้นจึงต้องติดสมุดและดินสอไว้ข้างตัวตลอด แม่กระทั่งเข้าต้องก็ต้องวางไว้ที่หัวเตียง เพราะบางครั้ง นอนฝัน นึกได้ก้ต้องเปิดไปลุกขึ้นมาเขียน เมื่อทำบ่อยๆ ก็เกิดวามเกรงใจคนที่นอนอยู่ข้างๆ จึงต้องซื้อไฟฉายขนาดเล็กมาวางไว้ด้วยกัน เพื่อใช้แทนแสงไฟฟ้าและเพื่อไม่รบกวนคนที่นอนอยู่ข้างๆ ผลงานทำไปใช้สอนในชั้น ป.๓ ทั้งหมด ๙ เรื่อง
ครูเบจมาศ แพน้อย:
มีความตั้งใจ และตั้งมั่น มานาน เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อาจารย์ ๑ ซึ่งได้ปฏิบัติงานอยู่บนสำนักงานการประถมศึกษาอำเภอ แล้วได้รับคำสั่งให้เป็นที่ปรึกษาของผู้จัดทำผลงานทางวิชาการเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งอาจารย์ ๓ ( ขณะนั้นอยูที่จังหวัดชลบุรี เพิ่งเรียนจบ ปริญญาโท ) ต่อมาส่ง ผลงานของตนเองเพื่อปรับตำแหน่งเป็น อาจารย์ ๒ เมื่อส่งผลงาน(ทำงานอยู่ฝ่ายศึกษานิเทศ) ถูกให้แก้ไขเพราะชั่วโมงสอนไม่พอ ต้องลงสอนในโรงเรียนเนื่องจากมีข้อกำหนดของคุณสมบัติผู้ที่จะดำรงตำแหน่งอาจารย์ ๒ ได้ ต้องสอนไม่น้อยกว่า ๑๒ ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ต่อมาได้ อ.กุณฑล เป็นพี่เลี้ยง และเมื่อตนเองได้ศึกษาบริบทของการทำผลงานทางวิชาการของ อาขารย์ ๓ แล้วพบว่า ต้องได้รับการยกย่องหลายเรื่อง ขึงสมัครเข้าเป็นครูดีเด่นตรงสาขาวิชาที่สอน ได้รับคัดเลือกเป็นบุคคลต้นแบบ ในขณะที่สอนพบว่าเด็กไม่มีกระวบนการคิด จึงเริ่มเก็บผลการสอนและเรื่องราวเอกสารที่เกิดจากการปฏิบัติของเด็ก ไปขอความช่วยเหลือจาก อ.กุณฑล และ อ.วิสุทธิ์ ช่วยตั้งชื่อเรื่อง (ผลงานเป็นแผนที่จัดกิจกรรมที่ลงกับเด็กโดยตรง) จึงได้ชื่อเรื่องว่า " ชุดกิจกรรมพัฒนาความรู้และความสามารถด้านกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยเน้นผุเรียนเป็นสำคัญ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ " มีแผนการสอนประจำวิชาวิทยาศาสตร์ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จากนั้นกลบมาทำได้ ๒๗ แผน และนำ Story Line และเอกสารอื่นมารวมไว้ในแผนการสอน ในการทำคำขอ ก็มีอาการขัดกับความรู้สึกของตนเอง เพราะต้องเขียนยกย่อง ชมเชย ตนเองว่า ทำอะไร ดี และเกิดผลดีอย่างไร แต่พยายามต้องเขียน ได้เพียง ๘๒ หน้า ในการจัดทำด้านต่างๆ ขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างในเรื่องต่อไปนี้ การแก้ไขรูปแบบการพิมพ์ การทำงานใบงานให้สวยงามและเป็นรูปแบบเดียวกันทั้งหมด งานด้านสถิติขอความช่วยเหลือจากพี่สาว ช่วงการรอคอยผล ก็เตรียมจัดทำผลงานอีกครั้งเพื่อเข้ารับการประเมินผลงานเชิงประจักษ์ แต่ปรากฏว่า ได้เห็นชื่อของตนเองใน Inernet ว่า ผ่าน เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ใช้เวลาเขียน ๑ เดือนเศษ เพราะมีผลงานด้านอื่นที่เกี่ยวข้องไว้หมดแล้ว คำฝาก " ไม่มีใครทำไม่สำเร็จ ถ้าไม่เลิกทำ"
ไม่มีความเห็น