บางสิ่งเริ่มต้นที่ตัวเราเอง ก่อนที่จะให้ผู้อื่นกระทำตาม จิตใต้สำนึกจากจุดเล็กๆ เมื่อรวมกันใหญ่ขึ้นจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและส่วนรวม

เรื่องของส้วม...สิ่งที่ใกล้ตัวและภัยที่อาจมากับการใช้ส้วมสาธารณะ

เมื่อคืนมีโอกาสดูรายการจุดเปลี่ยนทางโมเดิร์น 9 ทีวี (27 พ.ค. 2550) ออกอากาศเรื่องของส้วม และโอกาสในการติดเชื้อโรคเมื่อใช้ส้วมสาธารณะ จากการสำรวจพบว่า มี 5 จุดเสี่ยงที่พบแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่ในปริมาณมากเกินมาตรฐาน โดยการตรวจจะใช้เชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในทางเดินอาหาร เป็นดัชนีในการตรวจวัดว่ามีการปนเปื้อนของอุจจาระมากน้อยตามลำดับ ดังนี้

1) พื้นห้องส้วม 50%

2) ที่รองนั่ง 31%

3) ที่กดชักโครก และโถส้วม 7.7%

4) ที่เปิดก๊อก 6.9%

5) กลอนประตู 2.9%

การติดเชื้อโรคนอกจากจะติดเชื้อโรคที่ก่อโรคทางเดินอาหาร เช่น โรคท้องร่วง แล้วยังสามารถทำให้เกิดการติดก่อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย คุณสามารถติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้โดยไม่มีประวัติการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ในเพศหญิงมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าเพศชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะสั้นกว่าเพศชาย เชื้อสามารถผ่านเข้าไปยังกระเพาะปัสสาวะได้ง่ายกว่า ซึ่งปัสสาวะนี้ถือว่าเป็นอาหารเลี้ยงเชื้อแบคทีเรียได้อย่างดี

ส้วมสาธารณะในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ไม่ถูกสุขอนามัยตามเกณฑ์มาตรฐานที่กรมอนามัยกำหนด (อ้างอิงจากการสำรวจของกรมอนามัยเมื่อเดือน มีนาคม 2549) ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจาก

1) การละเลยจากผู้ดูแลในส่วนที่รับผิดชอบ

2) จากพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ

พฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะของบางคนยังใช้ไม่ถูกวิธี เช่น การขึ้นนั่งบนชักโครกแบบนั่งราบ หรือเปิดฝานั่งแล้วเหยียบ ทำให้เกิดความสกปรกและไม่เป็นที่น่าใช้แด่ผู้อื่นที่ใช้บริการถัดไป

ฉะนั้นการใช้ส้วมสาธารณะควรให้ความใส่ใจทำความสะอาดทั้งก่อนและหลังการใช้บริการ รวมทั้งล้างมือและเช็ดมือให้แห้งหลังการใช้ห้องน้ำทุกครั้ง สิ่งเหล่านี้ควรเริ่มจากจิตสำนึกของบุคคลแต่ละคนในการร่วมกันใช้ร่วมกันรักษา เพราะถือว่าเป็นหน้าที่ของทุกๆคน เนื่องจากเป็นของส่วนรวม

วิธีการใช้ห้องน้ำสาธารณะเบื้องต้น เช่น

1) ปิดฝากดชักโครก เพื่อป้องกันไม่ให้ละอองเชื้อโรค หรือฝุ่น ฟุ้งกระจายสู่ตัวเราเอง

2) มีการแยกห้องน้ำชาย หญิง

3) การใช้กระดาษชำระควรใช้แบบบาง เมื่อใช้แล้วสามารถทิ้งลงชักโครกได้ และจะย่อยสลายได้ง่าย หากใช้กระดาษชำระแล้วทิ้งลงถังขยะในห้องน้ำจะเกิดการหมักหมมของเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย

การรักษาความสะอาดและสุขอนามัยในการใช้ห้องน้ำไม่ได้จำเพาะต่อการใช้ในที่สาธารณะเท่านั้น สุขอนามัยภายในบ้านเราเองก็ต้องหมั่นทำความสะอาดและดูแล อย่าปล่อยให้มีคราบแบคทีเรียเกาะจนไม่น่ามองและเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคในบ้านนะคะ

คำไทยๆเราเรียก ส้วม ว่า สุขา อยากให้ สุขา เป็นแหล่งของ ความสุข ก็อย่าลืมรักษาความสะอาดกันด้วยนะคะ

ที่มา: รายการจุดเปลี่ยน ทางโมเดิร์น 9 ทีวี

เขียนใน GotoKnow โดย กมลนารี
ใน บันทึกของ Lily

คำสำคัญ (Tags): #กมลนารี#สุขอนามัยการใช้สุขา

หมายเลขบันทึก: 98912เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 10:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 21:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (13)

ขจิต ฝอยทอง

เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 11:09 น. ()

อ่านแล้วไม่กล้าใช้ส้วมสาธารณะเลย
ไม่คิดว่าติดโรคได้ตั้งมาก
นอกจากนี้สองข้อนี้มีเปอร์เซ็นต์ที่สูงมาก
1) พื้นห้องส้วม 50%

2) ที่รองนั่ง 31%
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ครับน้องรัก

DSS "work with disability" ( หนิง )

เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 11:18 น. ()

ซินจ๋าววว

เมื่อคืนพี่หนิงก็ดูรายการ ท้าเรียง ช่อง 3 เขาก็เอาเรื่องนี้มาให้เรียงเช่นกันค่ะ ว่าจุดไหนที่ สกปรกที่สุด

ตามนั้นเลยค่ะ ยังไงต้องระวังกันให้ดีนะคะ

mim

เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 11:28 น. ()

เมื่อคืนนี้ก็ดูรายการจุดเปลี่ยนเหมือนกันค่ะ

น่ากลัวจริงๆๆ

sasinanda

เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 11:32 น. ()

sasinanda

ตัวเองระวังมากเลยค่ะ ยิ่งอ่านอย่างนี้ ยิ่งต้องระวัง ขอบคุณค่ะ

ขอมอบดอกไม้สวยๆให้สำหรับ week endนี้ค่ะ

กมลนารี

เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2007 12:13 น. ()

พี่แอ๊ด ขจิต ฝอยทอง อ่านแล้วไม่กล้าใช้ส้วมสาธารณะแล้วพี่จะไปใช้ที่ไหนเหรอคะ...แอ๊ะๆๆๆ รู้ทันนะ
พี่หนิง DSS "work with disability" ( หนิง ) และคุณ มะขามอ่อน ของแบบนี้เป็นอะไรที่ใกล้ตัวเรามากและต้องระวังเป็นพิเศษ
ขอบคุณมากคะ คุณ sasinanda สำหรับดอกกล้วยไม้สวยๆ ชอบมากเลยคะ