ในการดำเนินชีวิตของคนเรา บนพื้นฐานสังคมที่หว่านล้อมด้วยสิ่งต่างๆมากมาย ชีวิตแต่ละชีวิตต้องดิ้นรน เพื่อการอยู่รอด เหมือนดั่งชีวิตของยายคนนี้ ชีวิตของคุณยายคนหนึ่งที่แสนลำบาก ที่ต้องดิ้นรนตลอดเวลา ไม่ว่าตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน ตั้งแต่สามีเสียชีวิตไปคุณยายไม่เคยแต่งงานใหม่ คุณยายมีลูกชายสองคน คุณยายอยู่กับลูกชายคนเล็ก ต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วยลำพัง เพราะลูกชายก็ไม่ค่อยดูแลคุณยายเลย มีลูกชายเหมือนไม่มีลูกชาย ส่วนลูกชายคนที่สองอยู่บ้าน ไม่ยอมทำมาหากิน วันๆนอนกิน ส่วนคุณยายทำไร่ทำสวนไม่มีคำว่าไม่ไหว ถ้าคุณยายไม่ทำ คุณยายก็ไม่มีกิน แต่คุณยายคนนี้หวังอย่างเดียวสักวันหนึ่งนี้ลูกชายจะกลับมาดูแลตนเองบ้าง ไม่สนใจว่าในบ้านมีอะไรกินหรือเปล่า ลูกชายคนโตมีครอบครัวอยู่ที่เชียงใหม่
บางครั้งคุณยายสบายไม่มีลูกชายมาดูแล แต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆช่วยมาดูแลให้ ไม่มีเงินซื้อยาและไม่มีเงินซื้อน้ำมันหมู เกลือ พริก บางครั้งไม่มีข้าวสาร ต้องไปขอชาวบ้านกิน ข้าวที่ทำได้หน่อยลูกชายแอบไปขายกินหมด ชาวบ้านอดสงสารไม่ได้ก็เลยบอกให้คุณยายว่าไปอยู่กับลูกชายโตที่เชียงใหม่ซะ แต่คุณยายบอกว่าทิ้งลูกชายคนเล็กไม่ได้ สงสารลูกชายคนนี้ ส่วนฉันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน ของให้ลูกชายคนได้กินอยู่สบายก็พอแล้ว ชาวบ้านไม่รู้จะพูดอย่างไรต่อไป..... ส่วนลูกชายคนโตก็จะพาคุณยายไปอยู่กับเขาที่เชียงใหม่ แต่คุณยายไม่ยอมไป ลูกชายคนโตจนปัญญาที่จะพูดกับแม่แล้ว จนต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ คุณยายบอกว่าตอนนี้ไปไหนไม่ได้ยังห่วงลูกชายคนเล็กอยู่ ตอนใกล้ปีใหม่คุณยายไปหาดอกโก๋งที่ป่าและไร่ เพื่อที่จะไปขาย เป็นค่าเสื้อผ้าและซื้อของใช้ในพิธีกรรมปีใหม่ บางวันหาได้มาก บางวันก็หาได้น้อย เพราะคุณยายไม่มีแรงที่จะไปหาที่ไกลๆ คุณยายหาที่ไม่ไกลมากนัก ที่ใกล้ๆคนอื่นก็หาหมดอีกการหาดอกโก๋งไม่ใช่ว่าหากันได้ง่ายๆ กว่าจะหาได้แสนลำบาก กว่าจะได้เงินมานั้นแสนลำบากมาก
แต่คุณยายก็ไม่เคยบ่นและท้อแท้สักครั้งหนึ่ง ที่ขายดอกโก๋งได้มา ซื้อเสื้อผ้าให้ลูกชาย ส่วนตัวคุณยายนั้นไม่ได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ก็ไม่เป็นไร(คุณยายไม่เคยได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆกับเขาสักครั้งเลย) คุณยายหาทุกวิถีทางที่จะรอบชีวิตของตนเองกับลูกชาย.....ส่วนพิธีกรรมต่างๆคุณยายก็ต้องทำคนเดียว (ความจริงพิธีกรรมต่างๆของลีซูผู้ชายเป็นคนทำพิธี) แต่คุณยายต้องทำเอง เพราะไม่มีใครทำให้ ลูกชายก็ไม่ทำให้.... แต่ปัจจุบันนี้ลูกชายของคุณยายเปลี่ยนเป็นคนละคน คนอื่นๆก็แปลกใจมาก ไม่มีใครอยากเชื่อว่าลูกชายของคุณยายจะเป็นคนดีได้ แต่ทุกวันนี้เขาเป็นคนดีของคุณยายและของสังคมไปแล้ว คุณยายดีใจมากที่ลูกชายเป็นคนดีของสังคม ตอนนี้ลูกชายของคุณยายมาทำงานที่เชียงราย ทำงานก่อสร้าง ทุกๆสิ้นเดือนจะส่งเงินให้คุณยายและซื้อเสื้อผ้าให้คุณยาย...ตัวเขาเองก็รู้สึกผิดกับแม่มาก เขาอยากตอบแทนให้แม่บ้าง ทำอะไรเพื่อแม่บ้าง ก่อนทุกอย่างจะสายไป เขาคิดได้เขาก็เลิกทุกอย่าง......
<h5> <div style="text-align: center"></div> </h5>
</span></span></span>
ผ่านมาครับ ผมขอแลกเปลี่ยนดัวยคนครับ คำว่า"ดี" อยู่ที่อะไร? คืออะไร? แปลว่าอะไร? เอาอะไร?มาเป็นมาตราฐานครับ
เช่นกรณี ที่คุณยายเผ่าลีซู.....ที่คุณปายฟ้าเล่ามานั้น .........
๑.เขาพอใจที่จะเลี้ยงลูกชายติดยาคนเล็กอย่างนั้น และวันหนึ่งก็ไม่ต้องเลี้ยงเพราะลูกชายยายเลิกยาเอง
๒.คุณยายต้องลำบากตั้งแต่สามีตายไป ไม่เคยคิดมีใหม่ ยอมลำบาก เลี้ยงลูก จนหมดห่วงเมื่อยามแก่เฒ่า แต่กลับไม่ไปอยู่กับลูก ๆ ที่พร้อมจะเลี้ยงดูแม่ให้ดีนั้น...... คุณปายฟ้าว่าคุณยายเผ่าลีซูนี้ เขาบ้า หรือเขาโง่ หรือเปล่าหล่ะ............
แสดงความคิดเห็นครับ ไม่ได้ตัดสินชีวิตของคุณยาย เพราะ คุณยายอยู่ในสังคมของหมู่บ้านเผ่าลีซู ไม่ใช่สังคมเมืองเชียงใหม่ หรือสังคมเมืองเชียงราย ยังให้การเอื้อเฟื้ออยู่ ไม่นิ่งดูดาย แต่ไม่เข้าไปจัดการชีวิตคุณยาย คุณยายมีความมั่นคง แต่หาอาหารลำบาก ตอนนี้ยกเว้นเงินไม่ลำบาก แล้ว คุณยายไม่ได้อยู่คนเดียวครับ คุณยายอยู่ท่ามกลางคนในเผ่าลีซู ที่เอื้ออาทรกันครับ ไม่เดี่ยวดายแน่นอนครับ