เหตุการณ์ที่มีผลต่อทางการเมืองซาอุดีอาระเบีย

เหตุการณ์ที่มีผลต่อทางการเมืองซาอุดีอาระเบีย                ซาอุดีอาระเบียหลังเหตุการณ์ 11 กันยายน                อาจกล่าวได้ว่าชาวมุสลิมทั่วโลกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือผู้ปกครองของประเทศมุสลิมต่าง ๆ ไม่มีใครออกมาสนับสนุนรัฐบาลฏอลิบานขบวนการอัล-กออิดะฮ์ ตลอดจนบินลาดิน และมุลลา มุฮัมมัด อุมัร อตีตผู้ปกครองของรัฐฏอลิบาน                บางประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธมิตรของสหรัฐฯจะด้วยเต็มใจหรือมาเต็มใจก็ตาม รวมทั้งผู้นำที่เคยให้การสนับสนุนรัฐบาลฏอลีบานมาก่อนล้วนยืนเคียงข้างกับสหรัฐอเมริกาทั้งสิน รวมทั้งประเทศแถบอ่าวเปอร์เซีย ในขณะที่ผู้นำบางประเทศไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมา  ซึ่งผิดกับอีกฝ่ายคือประชาชนในโลกมุสลิมหรือชนกลุ่มน้อยมุสลิมในประเทศต่าง ๆ ที่ส่วนมากล้วนแสดงความไม่พอใจการโจมตีอัฟกานิสถานของสหรัฐฯทั้งสิน                รัฐบาลซาอุดีอาระเบียถูกกดดันมากในเรื่องความขัดแย้งภายใน เรื่องส่งออกพวกนักรบอัลกออิดะฮ์ไปยังอัฟกานิสถาน เรื่อง 15 ใน 19 คนที่เวิลด์เทรดและเพนตากอนเมื่อ 11 กันยายน  เป็นคนซาอุดีอาระเบีย รัฐบาลซาอุดีอาระเบียรู้สึกรับผิดชอบในความรุนแรง ความเข้าใจผิด ความหวาดระแวง ความห่างเหิน ความขัดแย้งทางความคิดและทัศนคติที่เกิดขึ้นระหว่างโลกมุสลิมกับตะวันตก ชุมชนส่วนใหญ่เจ้าของประเทศตะวันตกกับชุมชนมุสลิมที่ไปตั้งรกรากอยู่ (ในอังกฤษมีมุสลิมอยู่ 2 พันล้านคนในยุโรปตะวันตก 16 ล้านคน เมื่อยุโรปขยายสหพันธออกไปทางตะวันออกก็จะมีมุสลิมอยู่สหภาพยุโรปมากขึ้น) ความรุนแรง ความระแวง ปัญหาทางสังคมที่กิดขึ้นทำให้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียตัดสินใจจัดคณะผู้แทนพิเศษ 7 ล้านคนทั่วโลก นำโดยหัวหน้าคณะคือเลขาธิการสันนิบาตมุสลิม  ศ.ดร.อับดุลลอฮ์ บินมุหชิน อัล-ตุรกี อิมามฮุสเซน  อาลิซซัยค์แห่งมัสญิดอันนะบะวี ณ นครมะดีนะฮ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศาสนาและศาสนสมบัติแห่งราชาอาณาจักรจอร์แดน ดร.กามิล อัล-ซะรีฟ ประธานสหพันธ์สถาบันมุสลิมยุโรป อาจารย์กฏหมายจากแอฟริกาใต้ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยให้เดินทางไททำความเข้าใจกับผู้นำอังกฤษทุกระดับวุฒิสภา ซึ่งมีสมาชิกมุสลิมอยู่สามคน อีก 2 คนรวมเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดมหาวิทยาลัยลอนดอน สำนักงานใหญ่ของตำรวจนครบาลกรุงลอนดอน หรือที่เรียกว่า Scoylsnd Yard อันเรืองนาม มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม (มีมุสลิมอยู่ร้อยละ 10) มหาวิทยาลัยเอดินเบอร์กและมหาวิทยาลัยเบอร์เตย์เมือง “ดันดี” ประเทศก็อตแลนด์ที่อยู่ทางเหนือสุดของเกาะอังกฤษ อีกทั้งสถาบัน ศูนย์มัสญิด องค์กรใหญ่ ๆของมุสสลิมอีกหลายแห่งในหลายเมือง รวมทั้ง Islamic Center At Regent Park London และสมาคมผู้สื่อข่าวนานาชาติ ณ กรุงลอนดอน (International Press Association in London) ประเด็นที่พูดกันคืออิสลามกับคริสเตียนเป็นศาสนาที่มาจากพระเจ้าองค์เดียวกัน เป็นวะห์ยุ (วิวรณ์) ที่ลงมาสู่มนุษย์ชาติอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ นับถือพระเจ้าและเคารพในศาสนูทูตต่าง ๆ ด้วยกัน อิสลามเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ รักความสงบใฝ่สันติ รักความก้าวหน้า ใฝ่รู้ ชอบค้นคว้าหาความจริง นิยมศิลปวัฒนธรรมและวิทยาการสนใจเรื่องความร่วมมือระหว่างวัฒนธรรมระหว่างศาสนา ระหว่างมนุษย์ นิยมความเจริญก้าวหน้า ส่งเสริมการค้าแลกเปลี่ยน การพัฒนาความรัก ความยุติธรรม มีความผูกผันต่อกันฉันท์พี่น้องสูง ฯลฯ(จรัญ  มะลูลีม อ้างถึงใน วัชรินทร์  ยงศิริและคณะ. 2545 : 348) การจับกุมผู้ต้องสงสัยอัล – กออิดะฮ์                สำนักข่าว spa ซึ่งเป็นสำนักข่าวของทางการซาอุดิอาระเบียได้รายงานว่า ในวันที่ 18 มิถุนายน ซาอุดิอาระเบียได้จับกุมสมาชิกผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกขององค์การอัล-กออิดะห์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าวางแผนที่จะโจมตีราชอาณาจักรด้วยจรวดและระเบิดในราชอาณาจักร โดยคนเหล่านี้ประกอบด้วยชาวซาอุดิระเบีย 6 คน และชาวซูดาน 1 คน นอกจากนี้พวกเขายังถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความพยายามในการใช้ตรวดโจมตีเครื่องบินสหรัฐฯ หรือเป้าหมายอื่น ๆ ที่ฐานทัพเจ้าชายสุลฏอน (prince sultan military base) แต่ประสบความล้มเหลว ผู้ถูกจับกุมครั้งนี้ยังไม่ได้มีการระบุโดยทันที่ว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่มาจากอัล-กออิดะห์ แม้ว่าสลัดอากาศที่โจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน  จะถูกกล่าวหาว่าเป็นชาวซาอุดิอาระเบียก็ตาม การจับกุมครั้งล่าสุดนับเป็นการคุมขังผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกอัล-กออิดะห์ ครั้งแรกนับตั้งแต่มีการโจมตีกรุงนิวยอร์กและวอชิงตันดีซีเมื่อปี 2001 เป็นต้นไป                 นายธนาคารถูกสังหารด้วยระเบิด                ไซมอน วีนัส นายธนาคารอายุ 35 ปี ได้ถูกสังหารเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน  เมื่อเกิดระเบิดขึ้นใต้รถจิ๊ปของเขาในบริเวณมาอาษัทอันเป็นบริเวณที่อยู่นอกบ้านพักของเขา ในกรุงริยาดเมืองหลวงของประเทศ                การโจมตีนี้คล้ายกับการระเบิดที่สังหารนายคริศโตเฟอร์ ร็อดเวย์ วิศวกรชาวอังกฤษ สิ่งที่ตามมาพร้อมกับความตายของนายร็อดเวย์ คือการระเบิดที่ตามติดมาอีกหลายครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียอ้างว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่ผู้เข้าไปพัวพันกับการค้าเครื่องดื่ม ทั้งนี้ชาวตะวันตกจำนวนหนึ่งถูกจับกุมตัวไปและมีรายงานว่าผู้กระทำผิดในกรณีดังกล่าวต้องถูกจำคุกเป็นเวลายาวนาน ในจำนวนนี้มีหนึ่งรายถูกคำสั่งให้จำคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จำนวนมากยังมีความคลางแคลงใจในข้ออ้างของเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียว่ามีความเป็นจริงอยู่มากน้อยแค่ไหน(จรัญ  มะลูลีม อ้างถึงใน วัชรินทร์  ยงศิริและคณะ. 2546 : 335 ) รายงานของสหรัฐฯว่าด้วยกองทุนสนับสนุนอัลกออิดะฮ์                สหรัฐฯพยายามจะตัดขาดกองทุนที่สนับสนุนอัล-กออิดะฮ์ และกลุ่มอื่น ๆ ที่สหรัฐฯอ้างว่าเป็นองค์การก่อการร้าย แต่ก็ประสบความล้มเหลวเพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ อย่างเช่นซาอุดิอาระเบียนอกจากนี้ตามรายงานที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม โดยหน่วยเฉพาะกิจของสหรัฐ (us task force) เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังรายงานว่า เป็นปี ๆ แล้วที่ตัวบุคคลและการกุศลต่าง ๆ ในซาอุดิอาระเบียได้กลายเป็นแหล่งกองทุนต่าง ๆ สำหรับองค์การ อัล-กออิดะฮ์ และเป็นปี ๆ มาแล้วที่เจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียมองไม่เห็นปัญหา รายงานดังกล่าวได้สนับสนุนสหรัฐฯ  ให้เผชิญหน้ากับซาอุดิอาระเบียในประเด็นนี้ ข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมาเพียงสองเดือนหลังจากสายสัมพันธ์ซาอุดิอาระเบีย-สหรัฐ ถูกสั้นคลอนโดยข่าวทีรั่วไหลอกมาจากการศึกษาของหน่วยงาน ที่กล่าวหาซาอุดิอาระเบียว่ารู้เห็นเป็นใจ “ในทุก ๆ ระดับของค่วมต่อเนื่องในเรื่องการก่อการร้าย”                อย่างไรก็ตาม financial times ฉบับวันที่ 19  ตุลาคม  รายงานว่า ซาอุดีอาระเบียได้ส่งสัญญาณให้เห็นว่าได้เตรียมตัวที่จะใช้ความพยายามหยุดยั้งการไหลเวียนของกองทุนของ อัล-กออิดะฮ์ เรียบร้อยแล้ว(จรัญ  มะลูลีม อ้างถึงใน วัชรินทร์  ยงศิริและคณะ. 25346 : 339 )           สังคม                 โดยภาพรวมแล้ว ประเทศซาอุดีอาระเบียมีรายได้ที่งดงามมาตั้งแต่ปี 1980 เพราะรายได้ของประชากรซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นจาก 7  ล้าน ถึง 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีประชากรเพิ่มขึ้นโดยไม่มีการวางแผนครอบครัวแต่ประการใดอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันรายได้หลักของทรัพยากรน้ำมันที่เคยได้รับลดลงจากเดิม ผู้คนจึงต้องหันมาทำงานที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อนมากขึ้นมีจำนวนคนว่างงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ชาวซาอุดีอาระเบียจึงต้องหันมาสนับสนุนทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพทัดเทียมกับผู้อื่น แม้น้ำมันดิบสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ดีให้แกสาธารณชน แต่ในอนาคตซาอุดีอาระเบียอาจต้องประสบปัญหาได้ การพัฒนาสถาบันการศึกษาจึงกลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อให้คนซาอุดีอาระเบีย สามารถประดิษฐ์คิดค้นจากมารดกที่คนรุ่นก่อนฝากเอาไว้จากความคิดของพวกเขาเอง ต้องส่งเสริมวิชาความรู้ที่ยังขาดแคลนเช่นความรู้ทางเทคโนโลยี เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ แก้ไขกฎหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างชาติ ลดระเบียบที่เข้มงวด มีระบบศาลที่เป็นอิสระ มีการคาดการณ์กันว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้างต้นประเทศนี้จะค่อย ๆ จนลงไป เพราะร้อยละ 40 ของประชากรมีอายะต่ำกว่า 14 ปี ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ แต่ก็ยังเข้าสู่ตลาดแรงงานไม่ได้ ในเดือนธันวาคมซึ่งเป็นช่วงเดือนสุดท้ายของการถือศิลอด (เราะมะฏอน) ได้เกิดการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่นแถบชายฝั่งทะเลของเมืองญิดดะฮ์ อันเป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศ กลุ่มวัยรุ่นได้เข้าปะทะกับตำรวจพร้อมกับด่าทอรัฐบาลและประณามสหรัฐฯ ทำให้มีผู้ถูกจับกุมไป 3000 คน เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาในประเทศอื่นๆ แต่เรื่องเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นบ่อยนักในประเทศอนุรักษ์นิยมอย่างซาอุดีอาระเบีย ในด้านการปกครองปัจจุบัน มกูฏราชกุมารอับดุลลอฮ์ บิน อุลดุลอาซีส ยังคงเป็นผู้นำผู้มีอำนาจเด็ดขาด หลังจากกษัตริย์ฟาฮัดทรงประชวรมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้ว่าพระองค์จะได้ชื่อว่าเป็นผู้ปกครองมีความเหมาะสมและปราศจากการคอรัปชั่น แต่ก็ถูกกีดกันจากพระเชษฐาของพระองค์เองที่ไม่ต้องการให้พระองค์ทำตามวัฒนธรรมดั้งเดิม                พระเชษฐาของพระองค์มีความเห็นว่าหากมกุฎราชกุมารอับดุลลอฮ์ อนุญาตให้สตรีซาอุดีอาระเบียขับรถได้ ซาอุดีอาระเบียก็คงไม่ต้องจ้างคนถึง 500.000 คนเพื่อขับรถรับส่งสุภาพสตรีเหล่านี้ แต่ความคิดดังกล่าวถูกปฏิเสธและในกรณีของผู้ที่ไม่สามารถจ้างคนขับรถได้พวกเขาก็ต้องประสบความยากลำบาก บางคนต้องเลิกงานเร็วขึ้นเพื่อไปรับบุตรสาวจากโรงเรียนกลับบ้าน ถ้าหากบุตรสาวของเขาศึกษาอยู่ในหลายโรงเรียนพวกเขาจะต้องทำงานหนักขึ้น และมีผลกระทบกับงานประจำของเขาด้วย ด้วยเหตุนี้การที่ผู้นำต้องการให้วิถีชีวิตของชาวซาอุดีอาระเบียมีแต่ความสงบสุขจึงไม่อาจเป็นเช่นนี้ได้เสมอไป ดังนี้รัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันเคยพูดเอาไว้ว่าเราไม่มีเวลาพอ และทุก ๆ คนจากทุกมุมโลกมองเราอยู่ หลังเหตุการณ์ 11 กันยายน สหรัฐฯกล่าวหาว่า 15 จาก 19 คนนำเครื่องบินถล่มตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และตึกเพนตากอน นั้นเป็นชาวซาอุดีอาระเบีย ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียกำลังจะทำตัวเองให้ทันสมัย ในขณะที่ชนชั้นกลางมีความเห็นว่าปัญหาที่เป็นอยู่ในซาอุดีอาระเบียปัจจุบันมิได้มาจากอิสลาม แต่เป็นผลมาจากการที่ผู้คนจำนวนมากตกงาน ไม่มีมหาวิทยาลัยหรือตลาดแรงงานรองรับ ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน นอกจาก มัสญิด ด้วยเหตุนี้ทุก ๆ 2-3 หลังคาเรือนจึงมีคนตกงานอาศัยอยู่    (จรัญ  มะลูลีม อ้างถึงใน วัชรินทร์  ยงศิริและคณะ. 2545 : 346 -347 )