เศรษฐกิจซาอุดี

บริษัท ซาอุดีฮดเกอร์ได้รับเงินค่าหุ้นจำนวน 375 ล้านเหรียญสหรัฐฯบริษัท ซาอุดี โอเกอร์ได้รับเงินค่าหุ้นส่วนร้อยละ 11 จากธนาคารอาหรับเป็นเงินนราว 375 ล้านเหรียญสหรัฐฯ บริษัทซาอุดีโอเกอร์มีแผนที่จะคงหุ้นส่วนใหญ่เอาไว้ และขายหุ้นส่วนที่เหลือให้กับกองทุนด้านความมั่นคงในราชาอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและราชาอาณาจักรจอร์แดนธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ได้กำไรเพิ่มขึ้นใน 9 เดือนแรกของปี 2003                ธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ได้กำไรเพิ่มร้อยละ 30 อันเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นใน 9 เดือนแรกของปี 2003 โดยเป็นตัวเงินสุงถึง 89.6 ล้านเหรียญริยัล (157 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เปรียบเทียบกับที่เคยได้รับเป็นเงินจำนวน 452.90 ล้านเหรียญริยัลในช่วงเดียวกันของทุกปี 2002  รายได้ทั้งหมดแสดงให้เห็นความเติบโตที่เพิ่มขึ้นระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน โดยมีกำไรสุทธิจากรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 คิดเป็นเงินจำนวน 1.1 พันล้านเหรียญ รายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 61 คิดเป็นเงินจำนวน 200 ล้านนเหรียญริยัล และรายได้จากเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 23  คิดเป็นเงินจำนวน 71.5 ล้านเหรียญริยัล สินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบียเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 คิดเป็นเงินจำนวน 47.9 พันเหรียญริยัลในตอนปลายของเดือนกันยายน การลงทุนของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 13 คิดเป็นเงินจำนวน 21.9 พันลานเหรียญริยัล เงินให้กู้ยืมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21  คิดเป็นเงินจำนวน 19 พันล้านเหรียญริยัล และเงินฝากจากลูกค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 คิดเป็นเงินจำนวน 31.2 พันล้านเหรียญริยัล(จรัญ  มะลูลีม อ้างถึงใน วัชรินทร์  ยงศิริและคณะ. 2547 : 324 )                ธนาคารแห่งชาติซาอุดีอาระเบียตั้งขึ้นในปี 1980 เมื่อธนาคารอาหรับของซาอุดีอาระเบียสาขาจอร์แดนเข้ามาร่วมลงทุนกลายเป็นธนาคารเดียวของซาอุดีอาระเบียที่มีการร่วมทุนจากต่าง ประเทศเป็นจำนวนมาก