ทุ่งแก่นตะวันบาน


พืชนี้จะออกดอกสีเหลืองอร่ามเต็มทุ่ง

kaentawan field 

จากการทดลองปลูก แก่นตะวันเป็นพืชที่ปลูกง่าย ชอบดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี เพราะจะลงหัวได้ง่าย หากมีน้ำขังแฉะจะทำให้หัวเน่า การปลูกสามารถปลูกได้ในฤดูฝน ในพื้นที่ไร่เหมือนกับพืชไร่ทั่วไป การปลูกในฤดูแล้งต้องมีระบบน้ำชลประทาน เช่น การปลูกหลังเก็บเกี่ยวข้าวในนาดินร่วนทรายเขตชลประทาน การปลูกโดยใช้หัวปลูกต้องตัดหัวให้เป็นท่อน ๆ ยาวท่อนละประมาณ 2- 3 เซนติเมตร บ่มหัวที่หั่นแล้วในถังมีความชื้น
จะกระตุ้นให้เกิดต้นอ่อนบนหัวท่อนพันธุ์ แล้วจึงนำไปปลูก การปลูกในฤดูฝนต้องใช้ระยะปลูกห่าง ประมาณ 70 x 50 เซ็นติเมตร แต่ฤดูแล้ง
อาจจะใช้ระยะปลูกแคบขึ้น เนื่องจากจะมีการเจริญเติบโตน้อยกว่าฤดูฝน 50 x 30 เซนติเมตร การปลูกจากหัวที่มีต้นอ่อน ดินต้องมีความชื้นดีมาก หลังปลูกดายหญ้ากำจัดวัชพืช 1-2 ครั้ง ตามความจำเป็น การใส่ปุ๋ย
ใส่ปุ๋ยพืชไร่ สูตร 15-15-15 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ เมื่อมีอายุ 20-30 วันหลังปลูก ปัจจุบันยังไม่พบโรค และแมลงที่สำคัญของพืชนี้

พืชนี้จะออกดอกสีเหลืองอร่ามเต็มทุ่งจนอาจขนานนามว่า
“ทุ่งแก่นตะวันบาน” นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีไม่แพ้ทุ่งทานตะวัน
เลยทีเดียว แต่การปลูกในฤดูหนาวราวเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม
อาจไม่มีดอก ถ้าปลูกในฤดูฝน พืชนี้จะเก็บเกี่ยวหัวเมื่ออายุประมาณ
120-140 วัน และสำหรับการปลูกในฤดูแล้งเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อายุ
100-110 วัน โดยสังเกตพบว่า หัวขยายเต็มที่ ใช้วิธีขุด หรือถอนเก็บเกี่ยวหัวเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปมีศักยภาพในการให้ผลผลิตสูง โดยพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงสุดให้ผลผลิต 2.5-2.8 ตันต่อไร่ ใช้เวลาปลูกเพียง 4 เดือน หากเปรียบเทียบกับมันสำปะหลังที่ให้ผลผลิตระดับเท่านี้ต้องให้เวลาการผลิต 10-12 เดือน

หัวแก่นตะวัน

หมายเลขบันทึก: 97534เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2007 14:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 18:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

แก่นตะวันบานปีหน้าที่ มข.

ตุ่นจะไปก่อนใครเพื่อน

ปีที่ผ่านมา...เหี่ยวซะแระ...

ว่าแต่ว่า ปีหน้าเจอกันที่ ทุ่งแก่นตะวันบานนะคะ

แก่นตะวัน เป็นพืชที่เป็นพรีไบโอติก (prebiotics) เป็นอาหารที่มีสารเส้นใยสูง ประกอบไปด้วย อินนูลิน (Inulin) และ ฟรุคโตโอลิโกแซคคาร์ไรด์(FOS) ดังนั้นแก่นตะวัน จึงมีประโยชน์ดังนี้

- ล้างพิษลำไส้ใหญ่ และควบคุมการทำงานของลำไส้ใหญ่ให้เป็นปกติ

- FOSทำให้เกิดกรดไขมันโครงสร้างสั้น ซึ่งให้ผลในการป้องกันท้องผูก / ท้องเสีย ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ และป้องกันกระดูกผุ

- มีบทบาทต่อภูมิต้านทานและป้องกันการติดเชื้อซัลโมเนลล่าและอีโคไล

- ป้องกันพิษของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ซึ่งจะมีผลต่อระบบประสาท

- กระตุ้นการดูดซึมแร่ธาตุหลายชนิด โดยเฉพาะแคลเซียมและธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น ทำให้กระดูกแข็งแรงและสามารถฟื้นคืนสภาพจากกระดูกที่ผุแล้วกลับคืนมา

- ช่วยป้องกันอาการภูมิแพ้ และการแพ้อาหาร โดยเฉพาะในเด็ก

อินนูลิน ( Inulin )

อินนูลิน ( Inulin) เป็นคาร์โบไฮเดรต ประเภทฟรุกแทน เป็นใยอาหารธรรมชาติที่ไม่ถูกย่อยในระบบทางเดินอาหาร(กระเพาะอาหาร , ลำไส้เล็ก) ดังนั้น อินนูลิน จะตกไปลำไส้ใหญ่และมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโต และการเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น แลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) บิฟิโดแบคทีเรีย ( Bifidobacteria)

ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ ( FOS )

เป็นน้ำตาล เชิงซ้อน มีฟรุคโตส หลายโมเลกุล เกาะกับกลูโคลส จัดเป็นสารกึ่งแป้งกึ่งน้ำตาล พบได้ในผัก ผลไม้ ตามธรรมชาติ เช่น หอมหัวใหญ่ , กระเทียม , กล้วยหอม และแก่นตะวัน

จากผลการวิ จัย พบว่า ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ เป็นน้ำตาลชนิดหนึ่งจึงไม่ส่งผลข้างเคียงต่อการบริโภค นอกจากคนที่ไม่นิยมรับประทานอาหารประเภทเส้นใย อาจมีการท้องอืด แต่ถ้าลดปริมาณการบริโภคลง ก็จะไม่เกิดอาการดังกล่าว

สำหรับบางท่านที่ยังไม่รู้จักแก่นตะวัน เราได้รวบรวมคำถามที่ผู้ห่วงใยสุขภาพและลูกค้าทุกท่านได้สอบถามเข้ามาที่ บริษัทฯ มาบอกต่อ ได้แก่

คำถาม แก่นตะวัน คืออะไร

คำตอบ แก่นตะวัน คือพืชพรีไบโอติก ที่รู้จักแพร่หลายในแถบอเมริกาเหนือและยุโรป ในชื่อ Jerusalem Artichoke ซึ่ง บริษัท แก่นตะวัน ไบโอเทค ได้ร่วมกับ คณะเกษตร ม.ขอนแก่น วิจัยและพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ปลูกได้ดีในประเทศไทย

คำถาม พรีไบโอติก คืออะไร

คำตอบ พรีไบโอติกคือ เส้นใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยในระบบทางเดินอาหาร แต่จะตกเป็นอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ส่งผลให้จุลินทรีย์เหล่านั้นเจริญเติบโต เพิ่มปริมาณและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คำถาม แก่นตะวันเกี่ยวข้องกับพรีไบโอติกอย่างไร

คำตอบ ส่วนหัวของแก่นตะวันประกอบไปด้วยสารสำคัญ คืออินนูลิน ( Inulin ) , ฟรุคโตโอลิโกแซคคาไรด์ ( FOS ) ซึ่งจัดเป็นใยอาหารชนิดละลายน้ำ หรือ พรีไบโอติก แก่นตะวันสดจะมีสารทั้ง 2 นี้ 15-20% หากทำให้แห้งจะมีถึง 60-80%

คำถาม การรับประทานพรีไบโอติกจากแก่นตะวัน มีประโยชน์อย่างไร

คำตอบ ส่วนประกอบซึ่งเป็นพรีไบโอติกของแก่นตะวัน จะช่วยให้จุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ได้แก่ Bifidobacteria และ Lactobacilli เจริญเติบโต ลดจำนวนแบคทีเรียก่อโรคลง จนลำไส้เกิดความสมดุล ต่อเนื่องไปถึงระบบขับถ่าย จึงไม่เกิดการหมักหมม เน่าบูดของกากอาหารที่เหนียวติดที่ผนังลำไส้ใหญ่ จนก่อสารพิษและแก๊สที่เป็นโทษต่อร่างกาย

คำถาม เมื่อทานต่อเนื่องแล้ว จะทราบได้อย่างไร ว่าระบบในร่างกายเกิดความสมดุล

คำตอบ ขั้นแรก สังเกตจากระบบขับถ่าย ว่าเป็นปกติมากขึ้น ไม่มีอาการท้องผูกหรือท้องเสีย นอกนั้นในระยะต่อมา ผิวพรรณจะสดใส ไม่เป็นผดผื่น หรือสิวบ่อยๆ อาการปวดศรีษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกายลดลง โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้อาการจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

คำถาม ผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลทานได้หรือไม่ ในเมื่ออินนูลิน และ FOS มีรสหวาน

คำตอบ สารสำคัญเหล่านี้จะไม่ถูกย่อยและดูดซึมในลำไส้เล็ก จึงไม่ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด และพบว่าการบริโภคอาหารที่มีเส้นใยสูง มีผลต่อการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยในการสร้างน้ำดีจากตับได้อีกด้วย

คำถาม นอกจากจะมีผลดีต่อระบบลำไส้และระบบขับถ่ายแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นอีกหรือไม่

คำตอบ การรับประทานแก่นตะวัน ยังช่วยกระตุ้นการดูดซึม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และแคลเซียมมากขึ้นถึง 20% รวมถึงเพิ่มการสร้างวิตามินต่างๆ เช่น B1 , B2 , B6 , B12 , Nicotinic acid และ Folic acid และมีบทบาทต่อภูมิต้านทาน ป้องกันการติดเชื้อซัลโมเนลล่าและอีโคไล ทั้งยังป้องกันพิษของโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบประสาทได้อีกด้วย



สามารถสั่งซื้อหัวแก่นตะวันหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

0839660759

0807349759

[email protected]

ในปัจจุบันในอาหารการกินมีสารพิษเยอะ เราควรหันมากินสมุนไพรกันเยอะๆ ออกกำลังกายไปพร้อมๆกัน เบาหวาน ความดัน จะไม่มาอยู่กับเรา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท