การจัดการความรู้ กับ การท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยส่วนตัวแล้วเป็นเหมือนภาคต่อของวิทยานิพนธ์ที่ให้ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ยากขึ้น และสนุกขึ้นด้วย เพราะโครงการนี้เป็นงานวิจัยเรื่อง การพัฒนาเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (Community Based Tourism: CBT) ที่ใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฎิบัติการแบบมีส่วนร่วม และมีการนำกระบวนการจัดการความรู้เข้าไปใช้ด้วย จึงเรียกว่าเป็นการใช้กระบวนการ KM ตั้งแต่ต้นในการวิจัย
การเดินทางมาสู่งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งนั้น มันท้าทายกว่าเดิมหลายเท่า ต้องเรียนรู้ต้องเดินทาง คิด ตลอดเวลา แต่สิ่งที่มีความสุขคือได้พบทีมงาน ซึ่งหมายถึงเพื่อนร่วมทาง ช่วยกันคิด ช่วยแก้ปัญหา ต่างกับวิทยานิพนธ์ที่เป็นงานเดี่ยวทำคนเดียว บางครั้งก็สบายใจแต่หลายครั้งก็จนใจ
การทำงานร่วมกันหลายๆ คนสร้างความตื่นเต้นในกับตัวเองมากเพราะแต่ละคนมีบุคลิกลักษณะนิสัยและอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างที่แตกต่างกัน แต่มีสิ่งที่เหมือนกันก็ตรงที่ได้มาพบกันและทำงานร่วมกันนี่แหละ
การเปิดบล็อกใหม่ก็เพื่อรองรับเรื่องราวใหม่ๆ ของการทำงาน เครือข่ายเล็กๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น (ที่จริงเกิดขึ้นแล้ว) มีการใช้ช่องทางของแพลนเน็ตเพื่อช่วยให้เห็นความเคลื่อนไหวของคณะทำงาน ถึงตรงนี้จึงพบว่าการที่เราพบปะกันแบบตัวต่อตัว พูดคุยกันด้วยถ้อยคำนั้น กับการที่พบกันผ่านตัวหนังสือดูเหมือนจะแตกต่างกันจริงๆ
ดังนั้นงานวิจัยชิ้นนี้จึงมิได้ผลเป็นงานวิจัยอย่างเดียว แต่ได้เพื่อนอีกมากมาย จึงเป็นสิ่งที่ตัวเองภูมิใจและตั้งใจทำสุดฝีมืออีกเช่นกันค่ะ
สู้ๆ
ยินดีกัความตั้งใจนะครับ..ขอให้ความฝันจงแบ่งปันกับผู้ด้อยโอกาสจริง ๆ
cheer!!! ครับผม
ทราบจากข่าวกรองว่าไปทำกระบวนการเรียนรู้ที่ชะอำ ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
งานชิ้นนี้มเองก็รู้สึกเดียวกับน้ำฝนครับ ผมพบเจอบุคคลที่หลากหลาย และได้เรียนรู้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสดีของผม
วันที่ 26-27ที่บางเจ้าฉ่า ทาง CBT north เตรียมไปอย่างครบครัน
ส่วนข่าวการเคลื่อนของเครือข่ายเชียงรายมี up date จะปรึกษาอีกครั้งครับ เรื่อง กระบวนการ
เจอกันนะครับที่บางเจ้าฉ่า
ขอบคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจ คุณ น.เมืองสรวง และหมอเอก แอบทราบข่าวกรองมาจากไหน (มาชมกันเองอีกแล้ว) สู้ๆ ค่ะ แล้วพบกันนะคะ