เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2550 ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมกับภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยหัวหน้าภาควิชา ผศ.ดร.อำนาจ เปาะทอง จัดประชุมประจำปีของภาควิชา เพื่อทบทวน ประมวลผล กำหนดแนวทางปรับปรุงและพัฒนาภาควิชา (กระบวนการ P-D-C-A-Participation) ในกำหนดการได้เชิญตัวแทนมหาวิทยาลัยร่วมเสวนาหัวข้อ "ทิศทางนโยบายและแผนงานของมหาวิทยาลัยในเชิงรุก ช่วงปี 2550-2550 "
โดย คุณผดุงศักดิ์ อรนพ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 6 ส่วนดิฉันตอบรับไปเสวนาในหัวข้อ "หลักการประกันคุณภาพการศึกษาแบบยั่งยืน" ซึ่งเป็นหัวข้อที่โดนใจมาก เพราะอยากเสวนาอยู่แล้ว เพื่อสร้างแนวร่วมให้บุคลากรมาช่วยกันทำให้ประกันคุณภาพการศึกษาของ มอ. เรายั่งยืน (เมื่อ 2 ปีที่แล้วดิฉันได้รับเชิญให้ไปบรรยายเกี่ยวกับการพัฒนาการการประเมินคุณภาพของ มอ. มาแล้วครั้งหนึ่ง) ที่ภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ได้มีการเสวนาร่วมกันจนถึง 12.00 น. และร่วมวิพากษ์แผนของภาควิชาฯ ว่าจะดำเนินการอะไรใน 5 ปีข้างหน้า(2550-2554) ซึ่งแผนที่วางไว้ก็ครอบคลุมภารกิจ แต่ก็คงต้องเรียง priority และน่าจะมีการจัดทำ Strategic map เพื่อความสมบูรณ์ของแผน และควรวางเป้าหมายร่วมกันว่า ภาควิชาควรโดดเด่นในเรื่องใด (จนเป็น Best Practices) ก็ขอชื่นชมภาควิชาที่ถือว่ามี Quality Culture ซึ่งผู้ที่ต้องออกแรงอย่างมากคือหัวหน้าภาควิชา คือมีการวางแผนสำหรับอนาคต รวมทั้งนำหลักการดำเนิน การของปีที่ผ่านมามาประเมินเพื่อปรับแผนในอนาคต และการจัดประชุมครั้งนี้บุคลากรทุกคนในภาคมี ส่วนร่วม (Participation) รวมถึง Teaching Assistants ด้วย เพราะบุคลากรกลุ่มนี้ก็มีผลต่อการจัดกระบวนการเรียนการสอนของภาควิชา ภารกิจแต่ละด้านของภาควิชาดำเนินการในรูปคณะกรรมการ แสดงให้เห็นว่าภาควิชาเน้นการบริหารเป็นทีม (Team Work) ช่วยคิด ช่วยทำ เช่น คณะกรรมการบริหารหลักสูตร คณะกรรมการประชาสัมพันธ์ และคณะกรรมการประกันคุณภาพ เป็นต้น สิ้นปีการศึกษา
กรรมการแต่ละกลุ่มก็สรุปรายงานผลการดำเนินงานของแต่ละกลุ่ม รวมถึงผลการประเมิน แต่ละกิจกรรม และรวมเป็นรูปเล่มที่แสดงถึงผลการดำเนินงานในภาพรวมของภาควิชาในรอบปีการศึกษาที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็สามารถใช้ประกอบการจัดทำSAR ของภาควิชาได้ ก็ขอชื่นชมภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่บริหารงานได้อย่างเป็นระบบดิฉันคิดว่าน่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีในการบริหารงานระดับภาควิชา
จริงๆแล้วทุกหน่วยงานก็สามารถพัฒนาการประกันคุณภาพให้ยั่งยืนได้ไม่ยาก เพียงแต่บุคลากรทุกคนในหน่วยงานมีส่วนร่วม วางแผน(PLAN-P)ช่วยกันทำ(DO-D)ประเมินผลการทำงานในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ เพื่อนำไปสู่การพัฒนา(CHECK_C&ACT-A) :ซึ่งแสดงว่ามีการทำงานเป็นทีม(TEAM LEARNING) และผนวกการจัดการความรู้(KNOWLEDGE MANAGEMENT-KM) โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้(KNOWLEDGE SHARING-KS)และการจัดเก็บความรู้ไว้ในคลังความรู้อย่างเป็นระบบ(KNOWLEDGE ASSET-KA)ก็จะทำให้การปฏิบัติงานของเราพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ขอขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะค่ะ