beeman 吴联乐
นาย สมลักษณ์ (ลักษณวงศ์) วงศ์สมาโนดน์

มิตร ชัยบัญชา


คุณประทีบ โกมลภิส ซึ่งเป็นผู้กำกับ ได้ตั้งชื่อให้ใหม่จาก "จ่าอากาศโทพิเชษฐ์ พุ่มเหม" เป็น "มิตร ชัยบัญชา"

    มิตร ชัยบัญชา เป็นพระเอกตลอดกาล ที่อยู่ในหัวใจของผมตลอด (คิดว่าคนอื่นๆ ที่เกิดทันมิตร ชัยบัญชาก็เช่นกัน ในโอกาสที่ได้ค้นเรื่องต่อเนื่องจากบันทึกที่แล้ว คือ "เงิน เงิน เงิน" ผมจึงเอาประวัติสังเขปของ "มิตร ชัยบัญชา" มาฝากครับ

 

 

มิตร ชัยบัญชา

 
     
     

    มิตร ชัยบัญชา มีชื่อจริงว่า "พิเชษฐ์ พุ่มเหม" เกิดที่อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ชีวิตวัยเด็กใช้ชื่อว่า "บุญทิ้ง" เพราะถูกพ่อ-แม่ทิ้งให้อยู่กับปู่และย่า เป็นเด็กกำพร้า เพราะพ่อ-แม่แยกทางกัน เป็นเด็กวัดอยู่วัดท่ากระเทียม วัดสนามพราหมณ์ เริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาลวัดจันทร์ เมื่ออายุได้ ๘ ขวบ แม่จึงมารับตัวมาอยู่กรงเทพฯ ได้มาอยู่ที่ ถนนพระเนียง เขตป้อมปราบ และเข้าเรียนที่โรงเรียนไทยประสาท ถนนหลานหลวง

    ในปีพ.ศ. ๒๔๙๔ ได้เป็นแชมป์เปี้ยนมวยสากลนักเรียนสมัครเล่น ในรุ่นเฟเทอร์เวท และในปี๒๔๙๕ เป็นแชมป์ในรุ่นไลท์เวท สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนพอสมควร หลังจากจบ ม.๖  ก็ได้ไปเรียนต่อระดับเตรียมอุดม ที่ พระนครวิทยาลัย เรียนได้เพียง 1 ปีก็ลาออก เพื่อมาสมัครสอบเข้านักเรียนจ่าอากาศ เหล่า "ศิษย์การบิน" และก็ได้เป็นทหารตามต้องการ จนกระทั่งได้เป็นครูฝึกที่กองพันต่อสู้อากาศยาน ดอนเมือง ได้รับพระราชทานยศ "จ่าอากาศโท"

    ที่ดอนเมืองนี้เอง ก็มีเพื่อนรักคนหนึ่งอาสาที่จะนำรูปถ่ายของ "พิเชษฐ์"  ไปแนะนำให้ คุณกิ่งแก้ว แก้วประเสริฐ นักหนังสือพิมพ์ และพอต้นปี ๒๕๐๐ ก็ได้มีคนแนะนำคุณมิตรให้รู้จักกับคุณกิ่งแก้ว จนมีความสนิทสนมกัน หลังจากนั้นได้มีโอกาสพบกับคุณสุรัตน์ พุกกะเวส ผู้อำนวยการนิตยสารดาราไทย คุณสุรัตน์จึงได้พา "พิเชษฐ" ไปพบกับ คุณประทีบ โกมลภิส และคุณรังสรรค์ ตันติวงศ์ ที่โรงถ่ายศรีอยุธยา

    ในวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๐๐ คุณประทีปและคุณรังสรรค์ ได้มอบบท "ไวย ศักดา" พระเอกของเรื่อง "ชาติเสือ" จากบทประพันธ์ของ อรวรรณ และคุณประทีป ซึ่งเป็นผู้กำกับของเรื่องนี้ได้ตั้งชื่อให้ใหม่จาก "จ่าอากาศโทพิเชษฐ์ พุ่มเหม" เป็น "มิตร ชัยบัญชา"

    หนังที่ทำให้ชื่อของมิตร ชัยบัญชาเป็นที่รู้จักของประชาชนก็คือ บทของโรม ฤทธิไกร หรือ อินทรีแดง ในเรื่อง "จ้าวนักเลง" จากบทประพันธ์ของเศก ดุสิต

    ในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ มิตร ได้จดทะเบียนสมรสอย่างเงียบๆ กับคุณ จารุวรรณ และในปี ๒๕๐๔ ก็มีลูกชาย ๑ คนคือต้น หรือ ยุทธนา แต่ชีวิตสมรสก็ไม่ประสบผลสำเร็จ ต้องหย่ากันในที่สุด ก็คงเป็นเพราะคุณมิตร ไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง เวลาทั้งหมดในชีวิตนั้นคุณมิตรให้เป็นของชาวไทย

    ในปี ๒๕๐๔  มิตรได้แสดงภาพยนตร์คู่กับ "เพชรา เชาวราษฎร์" เป็นเรื่องแรกคือ "บันทึกรักพิมพ์ฉวี" และก็ได้แสดงภาพยนตร์คู่กันเป็นดาราคู่ขวัญร่วมงานกันตลอด จนแฟนๆ ภาพยนตร์เรียกว่า "มิตร-เพชรา" โดยได้แสดงหนังคู่กันประมาณ 200 เรื่อง ถึงแม้ในบทภาพยนตร์ จะเป็นคู่รักกันตลอด แต่ในชีวิตจริงของทั้งคู่นั้นจะโกรธกันอยู่บ่อยๆ จนบางครั้งจะไม่พูดกันเลยเป็นเดือนๆ ทั้งๆ ที่แสดงหนังร่วมกันอยู่

 

     
   
  ภาพคุณมิตร กับ คุณเพชรา  

    ในปลายปี ๒๕๐๔ คุณมิตรประสบอุบัติเหตุ จาการเดินทางไปดูโลเกชั่นเพื่อถ่ายหนังเรื่อง "ทวนสุริยะ" ของปรีชา บุญยเกียรติ เป็นเหตุให้คุณมิตร สะบ้าแตก หน้าแข้งหัก กระโหลกศรีษะกลางหน้าผากเจาะ และฟันหน้าบิ่น และยังเป็นผลให้คุณปรีชา บุญยเกียรติ เสียชีวิต

    ในวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๐๖ คุณมิตรลาออกจาก กรมอากาศโยธิน กองทัพอากาศดอนเมือง อาชีพที่คุณมิตรรักที่สุด

    การทำงานของคุณมิตรนั้น ใน ๑ เดือน จะขอหยุดพัก ๑ วัน คือทุกวันที่ ๑๕ ของเดือน ดังนั้นใน ๑ ปี จะมีวันพักผ่อนเพียง ๑๒ วันเท่านั้น และในชีวิตจริงนั้นคุณ มิตรยังต้องทำตัวเป็นโสดเพื่อรักษาความนิยมของแฟนๆ

    ในปี ๒๕๐๘ คุณมิตร พร้อมกับคุณ พิศมัย วิไลศักดิ์ ได้รับพระราชทานรางวัลดาราทอง จากคุณสมบัติ ๔ ประการ คือ ศรัทธา หน้าที่ ไมตรี น้ำใจ และในปีนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการแห่งละโว้ภาพยนตร์ ได้สร้างภาพยนตร์มาตราฐาน ๓๕ ม.ม. ระบบซูเปอร์ซีเนสโคป สีอิสต์แมน เรื่อง เงิน เงิน เงินโดยมีพระเอกและนางเอกคือ คุณมิตรและเพชรา ร่วมด้วยคุณชรินทร์ นันทนาคร คู่กับคุณ สุมาลี ทองหล่อ ,คุณสุเทพ วงศ์กำแหง คู่กับ คุณ อรสา อิศสรางกูรฯ มี ๑๔ เพลงไพเราะจาก ๑๕ นักร้องดัง พร้อมดาราทั่วฟ้าเมืองไทยกว่า ๕๘ คน สามารถทำรายได้มากเป็นประวัติการณ์ ทำให้ในปี ๒๕๐๙ สมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงฯ ได้มอบโล่ห์รางวัลพระราชทานให้กับคุณมิตรและคุณเพชราในฐานะ ที่ภาพยนตร์เรื่อง เงิน เงิน เงินทำรายได้สูงสุด

    หลังจากที่คุณมิตรแสดงภาพยนตร์และใช้ชื่อว่า "มิตร ชัยบัญชา" มาได้ ๑๐ ปี ดังนั้นในวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๐ คุณมิตรจึงได้ขอเปลี่ยนนามสกุลที่อำเภอดุสิต ขอจดทะเบียนตั้งชื่อสกุลว่า "ชัยบัญชา" ดังนั้นคุณมิตรจึงมีชื่อตามบัตรประชาชนใบใหม่ที่ออกให้เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๑๒ หมดอายุ วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๑๘ ว่า "พิเชษฐ์ ชัยบัญชา"

     ในวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๑๑ คุณมิตร ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล ในนามกลุ่มหนุ่มได้เบอร์ ๘๑ หาเสียงในเขตบางรัก ยานนาวา สัมพันธวงศ์ ป้อมปราบ แต่ก็ไม่ได้รับเลือก ดังนั้น ในปี ๒๕๑๒ ก็ได้ลงสมัครอีกครั้งแต่เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระนคร ได้เบอร์ ๓๔ คู่กับ คุณปราโมทย์ คชสุนทร เบอร์ ๓๕ แต่ก็ไม่ได้รับเลือกอีก

     ในปี ๒๕๑๓ คุณมิตร ได้แสดงภาพยนตร์ร่วมกับคุณเพชรา อีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง" ของรังสี ทัศนพยัคฆ์ คุณมิตรรับบทเป็น "คล้าว"หนุ่มบ้านนาผู้ยากจน และเพชรา รับบทเป็น "ทองกวาว" ลูกสาวเศรษฐีในหมู่บ้าน เป็นเรื่องที่ต้องต่อสู้พิสูจน์รักแท้ฝ่าฟันอุปสรรค์ต่างๆ และดำเนินเรื่องไปพร้อมกับเพลงลูกทุ่ง ถึง ๑๔ เพลง และ คุณมิตร ยังร้องเพลงลูกทุ่งประกอบ ๒ เพลง ปรากฏว่ามนต์รักลูกทุ่ง เป็นภาพยนตร์ที่ปลุกกระแสของ มิตร-เพชราอีกครั้ง และยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของภาพยนตร์ไทยฉายในกรุงเทพฯ นานถึง ๖ เดือน ทำรายได้มากกว่า ๖ ล้านบาท และทำให้เพลงทุกเพลงในภาพยนตร์ดัง และยังทำให้คนกรุงเทพฯ หันมาร้องเพลงลูกทุ่งกัน

     ในปี ๒๕๑๓ นี้ คุณมิตรยังมีโครงการที่จะสร้างโรงภาพยนตร์ชัยบัญชาที่เชิงสะพานผ่านฟ้า ตรงข้ามกับศาลาเฉลิมไทยได้กระทำพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว และในปีนี้ คุณมิตรยังได้แสดงภาพยนตร์จีนกำลังภายในที่ฮ่องกง โดยแสดงร่วมกับ เดวิดเจียง, กว่างหลิง  และในปีนี้อีกเช่นกันคุณมิตร ก็ได้เริ่มโครงการสร้างภาพยนตร์ ของตนเองโดยทำหน้าที่ทั้งแสดงนำ และกำกับการแสดงเองเป็นเรื่องแรก ในเรื่อง"อินทรีย์ทอง" โดยจะเป็นการกลับมาอีกครั้งของ อินทรีแดง หรือ โรม ฤทธิไกร ที่ต้องออกสืบหาอินทรีแดงตัวปลอม โดยมีผู้ร่วมแสดงคือ คุณเพชรา เชาวราษฎร์เป็น วาสนา แฟนของ โรม และ ครรชิต ขวัญประชา รับบทเป็น อินทรีแดงปลอม การถ่ายทำดำเนินมาด้วยดีจนถึงปลายเรื่องในฉากสุดท้าย ที่ต้องเข้าปราบปรามคนร้ายแล้วก็ต้องหนีตำรวจออกจากรังของคนร้ายนั้นโดยใช้ เฮลิคอปเตอร์ คุณมิตร ได้เลือกสถานที่ถ่ายทำที่หาดดงตาล พัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี และตกลงการถ่ายทำฉากสุดท้ายของเรื่องในเช้าวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๑๓ เวลา ๙.๐๐ น.

     ฉากสุดท้ายนั้นคุณมิตร ได้ดัดแปลงจากบทประพันธ์เดิม โดยสมมุติว่า วาสนา(เพชรา) เป็นผู้ขับเฮลิคอปเตอร์มารับตัว โรม(อิทรีทอง) และคุณมิตรซึ่งรับบท โรม ฤทธิไกรนั้น จะต้องวิ่งหนีตำรวจมาโหนบันไดเชือกของเฮลิคอปเตอร์ที่บินมารับ แล้วปีนบันไดขึ้นไป กล้องก็จะตามเก็บภาพให้เห็นเฮลิคอปเตอร์พาอินทรีทองลับหายไป

      ในการถ่ายทำฉากนี้เพื่อความสมจริงคุณมิตร ตกลงว่าจะแสดงด้วยตัวเองเพื่อผู้ชมชาวไทยทุกๆ คน ในการถ่ายทำจริงคุณมิตรก็ได้วิ่งกระโดดเกาะบันไดเชือกของเฮลิคอปเตอร์ โดยมือซ้ายเกาะอยู่ที่ขั้นที่ 4 มือขวาอยู่ที่ขั้นที่ 3 และตามที่ได้ตกลงก่อนถ่ายทำว่า ถ้านักบินได้รู้สึกถึงแรงถ่วงที่บันไดให้นำเครื่องขึ้นได้ทันที ดังนั้นนักบินซึ่งจะมองไม่เห็นคุณมิตร ก็ได้นำเครื่องขึ้นทันที

     ด้วยแรงกระตุกของเครื่องยนตร์ ทำให้คุณมิตรข้อมือเคล็ด ไม่มีแรงปีนขึ้นบันได ทำให้ตัวต้องห้อยอยู่ที่บันได โดยมีแต่มือที่โหนอยู่เท่านั้น และเมื่อเครื่องขึ้น ก็มีทั้งแรงลมจากเฮลิคอบเตอร์ และแรงลมธรรมชาติ พัดให้คุณมิตร ปลิวอยู่กลางอากาศ และทำให้ข้อมือคุณมิตรหัก และไม่มีแรงโหนตัว และในจังหวะที่เครื่องเลี้ยวกลับ ทำให้มีแรงเหวี่ยงรุนแรงเป็นเหตุให้คุณมิตร ไม่สามารถที่จะโหนตัวต่อได้

     ร่างของคุณมิตร ลอยลงมาจากเฮลิคอปเตอร์กระแทกกับพื้นของ หาดดงตาล ทำให้คุณมิตรเสียชีวิตเกือบจะทันที

.....คุณมิตร ได้พักผ่อนอย่างสงบสุขแล้ว หลังจากที่ให้ความสุข สนุกสนานแก่ชาวไทยมาถึง ๑๓ ปี คุณมิตรเสียชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๓ เวลา ๑๖.๑๓ น. อย่างไรก็ตามในหัวใจของชาวไทยยังคงมีดาราทองคนนี้ "มิตร ชัยบัญชา" อยู่ตลอดกาล

ที่มา : หนังสือวันมิตร ชัยบัญชา รำลึก ๘ ตุลาคม ๒๕๓๙ มูลนิธิหนังไทย ในพระอุปถัมถ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ

จาก http://www.geocities.com/Hollywood/Hills/4039/

หมายเหตุ มีเรื่องราวของ มิตร ชัยบัญชา จากวิกิพีเดีย เชิญติดตามได้ครับ

หมายเลขบันทึก: 9567เขียนเมื่อ 13 ธันวาคม 2005 18:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

มิตร ชัยบัญชาจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป.............

อยากดูภาพ กิ่งดาว ดารนี

 

ได้ครับ Link มาให้ดูแล้วครับ ภาพกิ่งดาว ดารณี

น่าเสียดายน่ะครับที่ Home page ของมิตร ชัยบัญชา ไม่มีใครทำต่อ หรืออาจจะมี แต่ผมไม่ทราบ ถ้าใครทราบ ช่วยบอกด้วยน่ะครับ
  • ถ้าใครพบ web ดีๆ เกี่ยวกับมิตร ชัยบัญชา ช่วย Link ให้ด้วยครับ

ผมเป็นแฟนภาพยนต์ไทยและทันเหตุการณ์ มิตร-เพชรา เคยดูการแสดงมาหลายเรื่อง เมื่องมิตรได้เสียชีวิตไปแล้ว คงเหลือเพชรา อยากพบ อยากฟังน้ำเสียงจริงๆว่าท่านสบายดีหรือไม่ ผมเป็นแฟนพันแท้ ถึงท่านอยู่ในสภาพใดๆเรารับได้  สังขารเป็นของไม่แท้หลอกท่าน ผมเองเมื่อท่านแสดงภาพยนต์ยังเด็กมาก ต้องถูกตีถูกทุบหนีไปดูหนังที่ท่านแสดง บัดนี้ผมเป็นปุแล้ว สังขารโรคราไข้เจ็บไม่ต่างกับท่านเลย เมื่อท่านสบายดี หรือมีชวิตอยู่ ปีใหม่นี้ขอให้ท่านและครอบครัวมีความสุขเทอญ

  • ท่าน supat ปีนี้อายุเท่าไรแล้วครับ เข้าใจว่าอายุสัก ๕๐ กว่าๆ กระมัง...
  • คุณเพชรา ยังครองชีวิตคู่อยู่กับคุณชรินทร์ครับ แม้ว่าตาจะมองไม่เห็น ชีวิตก็น่าจะมีความสุขตามอัตภาพ

อ่านเรื่องคุณมิตรที่ไรก็เสียดายและคิดถึง เหตุการณ์นั้นไม่น่าเกิดขึ้นเลย เพียงแต่มีใครสักคนที่รับผิดชอบอยู่ข้างล่างจะคิดได้ว่าการโหนอยู่แบบนั้นนานๆ คุณมิตรจะไม่ปลอดภัย คุณมิตรคงจะต้องอดทนมากซึ่งความอึดและอดทนนี้ก็เป็นคุณสมบัติของคุณมิตรอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าคุณมิตรพยายามและไม่สามารถเหยียบบันไดเชือกได้ก็น่าจะให้สัญญาณเครื่องลงก่อนที่เครื่องจะบินไปไกล และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องบินไปไกลลิบขนาดนั้น กล้องซูมให้มันน้อยๆหน่อยก็ได้ไม่ใช่หรือ ไม่อย่างนั้นเราก็คงได้ดูพระเอกมิตรอีกนานหลายปี และคุณมิตรก็คงจะทำประโยชน์ให้วงการภาพยนตร์และนักแสดงไทย สังคมไทยอีกมาก รวมถึงคุณมิตรเองก็คงจะมีชื่อเสียงโด่งดัง รุ่งโรจน์ขึ้นอีกจากการแสดงหนังจีนและหนังอินเดีย

ปีพ.ศ.ที่คุณมิตรเข้าวงการเป็นปีไหนกันแน่ เพราะเคยอ่านหนังสือคุณภราดร ศักดาเขียนไว้ว่า ต่อมา เมื่อลงมือสร้าง"ชาติเสือ" ในปี 2499 ภาพของพิเชษฐ์ก็ออกมาในนาม มิตร ชัยบัญชา.... สำหรับอีกข้อมูลตัดตอนเมื่อคุณมิตร รู้จักกับคุณกิ่ง แก้วประเสริฐ แล้ว ตามบันทึกประวัติที่เขียนโดยคุณมิตรเองให้กับคุณจรูญ สินธุเศรษฐ์ ก่อนเสียชีวิตไม่นาน เขียนบอกว่า.... วันหนึ่งคุณกิ่ง แก้วประเสริฐ ไปหาคุณมิตร ที่ดอนเมือง เพื่อพาไปพบคุณประทีป โกมลภิส คุณมิตรไปขออนุญาตผู้บังคับบัญชา แล้วไปกับคุณกิ่งที่โรงแรมเวียงใต้ (บางลำภู) คุณประทีปก็พอใจ กำหนดให้ออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นลองไปถ่ายเรื่อง ชาติเสือ อันเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของคุณมิตรที่โคกสำโรง ลพบุรี เมื่อปี 2499 ถ่ายทำอยู่ที่นั่น 3 เดือนกับ 1วัน........ ต่อจากนั้นก็พอจะเดาออกแล้วนะว่าเป็นไงมาไง ตั้งแต่ เรื่องที่ 1 ถึง 300 เรื่อง จนถึงปัจจุบัน.......ซึ่งเคยอ่านเจออีกที่หนึ่งเหมือนกัน เป็นไปได้ไหมที่ว่าเดือน พ.ย.2500 จะเป็น พ.ย. 2499 ถ่ายทำมาจนถึง ก.พ. 2500 แต่หนังฉาย เดือนมิถุนายน 2501

คุณมิตรแสดงเรื่อง บันทึกรักพิมพ์ฉวี คู่กับเพชรา นางเอกใหม่เรื่องแรก ปี2504 แต่หนังฉายปี 2505 คุณเพชรายังไม่ดัง ต่อมาแสดงด้วยกันอีก ปี2506 เรื่องอ้อมอกสวรรค์ จนปี2507 แสดงเรื่อง นกน้อย ของคุณดอกดิน หลังจากนั้นก็แสดงด้วยกันมากขึ้นจนกลายเป็นคู่ขวัญตั้งแต่ปี2508 ดูได้จากรายชื่อภาพยนตร์ที่ฉายโดยแบ่งตามปีทที่ฉาย

ตามข้อมูลในความเห็นที่ 9 แสดงว่าคุณมิตรแสดงหนังไว้มากกว่า 300 เรื่องแล้ว และตามที่คุณสมโภช ล้ำพงษ์ เคยเขียนประวัติคุณมิตรก็บอกว่าแสดงหนังไว้เกือบ 400 เรื่อง รวมทั้งที่เคยอ่านเจอซึ่งคงจะเป็นการรวบรวมข่าวสมัยก่อนเขียนว่า....ปี2508คุณมิตรจัดงานเลี้ยงฉลองที่แสดงภาพยนตร์ครบ 100 เรื่อง แสดงว่าสิ้นปี 2508 ก็ต้องแสดงไว้เกิน 100 เรื่องหรืออย่างน้อยก็ 100 เรื่อง แต่ที่นับเป็นข้อมูลไว้มีแค่ 88 เรื่อง หายไปอย่างน้อย 12 เรื่อง ที่ขาดไปคงยังหาไม่ได้ หรือไม่ได้เข้าฉาย แต่ถ้ารวมทั้งหมดตั้งแต่แสดงมา 14 ปี (2500-2513)เกิน 300 เรื่อง แต่มีข้อมูลอยู่ แค่ 267 เรื่อง หายไปเป็น 100 เรื่องเลย แต่สถิตินี้คุณมิตรก็น่าจะเป็นพระเอกคนแรกที่ทำได้ คือ 8ปี 100 เรื่องและ 14 ปี 267เรื่อง (น่าจะเป็น 279-300 กว่าเรื่องมากกว่า)

เป็นคนที่มีคุณภาพจริงๆ ขยัน และอดทน กล้า มีวินัยคงเพราะเป็นทหาร มีความตั้งใจสูง มีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความเป็นผู้นำที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ จริงจัง มีความรับผิดชอบในหน้าที่ ในอีกด้านก็เป็นคนสุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน แต่ก็ร่าเริง สนุกสนาน ตามที่เศก ดุสิต เขียนไว้ในหนังสืออนุสรณ์ ว่า "ความสุภาพของเขาทำให้ผู้ใหญ่รัก แต่เมื่ออยู่ในหมู่พวกเดียวกัน มิตร ชัยบัญชา ก็เป็นคนชอบสนุกเฮฮา มีนิสัยชอบแหย่คนเป็นประจำวัน และใครแหย่เขาบ้างก็ได้ มิตร ชัยบัญชาไม่เคยถือตัวว่าเป็นพระเอก ดังนั้นแม้แต่เด็กยกรีเฟลกซ์ก็เย้าแหย่กับเขาได้ สิ่งเดียวที่เขาไม่ชอบให้แหย่ คือเรื่องผู้หญิง เพราะพูดเย้าเขาถึงเรื่องผู้หญิงครั้งไร มิตร ชัยบัญชาจะหน้าแดงขึ้นมาทันทีและปฏิเสธเสียงหลงว่าเขาไม่เคยคิดจะยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงเลย" นอกจากนี้มิตรก็เป็นคนใจกว้าง ชอบช่วยเหลือคน และเชื่อใจคนง่ายไม่ค่อยคิดระแวงใคร อีกเรื่องหนึ่งที่หมอยรรยง โพธารามิก เขียนไว้ว่า เพื่อนของคุณหมอที่เป็นสุภาพสตรีกับสามีของเธอ ไม่เคยเห็นตัวจริงของมิตรแต่ได้ไปพบมิตรที่โรงฉายภาพยนตร์ อ.บ้านโป่ง เพื่อขอให้มาปรากฏตัวในงานการกุศล เมื่อไปพบมีผู้ชี้ไปที่ชายร่างใหญ่แต่งกายมอมแมม นอนขดตัวหลับอย่างสบายอยู่ที่พื้นข้างกองไม้และฉากเก่าๆ เมื่อปลุกลุกขึ้นเงยหน้าขึ้นมาจึงรู้ว่าเป็น มิตร ชัยบัญชา เพื่อนของหมอบอกอย่างภูมิใจว่า ตั้งแต่นั้นมาเธอไม่อยากดูภาพของ มิตร ชัยบัญชา ในภาพยนตร์อีกเลย เพราะตัวจริงของเขาสวยและน่ารักกว่าภาพที่เห็นในจอภาพยนตร์มากนัก สามีของเธอบอกว่ามิตร ชัยบัญชา แสดงความนอบน้อมให้ความร่วมมืออย่างดี โดยไม่คิดถึงการตอบแทน ซึ่งงานนั้นทำเงินการกุศลนับแสนบาท มีประชาชนมาชมแน่นขนัดจนรั้วกั้นพัง

สวัสดีครับ คุณ M

  • ต้องขอขอบคุณสำหรับ ข้อคิดเห็นตั้งแต่ 8-11
  • ทำให้ข้อมูลของบันทึกเพิ่มมากขึ้นครับ

ขอโทษเรื่องอ้อมอกสวรรค์ ปี 2505 เหมือนกัน ส่วนปี2506 มีเรื่องอวสานอินทรีแดง กับอีก 2-3 เรื่อง

ได้อ่านเรื่องความตายแบบไม่ธรรมดาของมิตร ชัยบัญชา เขียนโดยคุณอิงคศักดิ์ หรือยัง เป็นข้อมูลที่ควรรับรู้ เพื่อไม่ให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับการกำกับของคุณมิตร และการเสียชีวิตด้วย อ่านใน web ของ thaifilm บอกว่า คุณอดุลย์ เล่าว่าคุณมิตร เป็นคนละเอียดในการกำกับถ้าไม่ได้จะไม่ให้ผ่านและนำเทคนิคใหม่ๆมาจากฮ่องกง และมุมกล้อง การนำเสนอเรื่องด้วยภาพ ที่ไม่เหมือนสมัยนั้น คุณอดุลย์บอกว่าที่บ้านคุณมิตรมีจอหนังอยู่ข้างฝาและมีเครื่องฉายเครื่องเล็ก เมื่อส่งฟิลม์ไปล้างที่ฮ่องกงแล้วได้รับกลับมาก็จะรีบมาฉายดูตอนกลางคืน ชวนคุณอดุลย์ไปดู และก็ชวนเพื่อนๆอีกหลายคนไปดูและวิจารณ์ เพื่อแก้ไข ถ้าคุณมิตรไม่เสียชีวิตไปก่อน เรื่อง อินทรีทองคงจะได้อย่างใจคุณมิตร (หนังสือมีขายอยู่ B2S ก็มี)

ชอบดูหนังที่มิตร แสดงมากๆเลย

สวัสดีค่ะ

เข้ามาอ่าน เลยอยากชวนไปดูรูปและเศษหนังของมิตร ชัยบัญชา กับดาราท่านอื่นๆ ใน เฟซบุ๊คค่ะ ตามข้างล่างนี้ค่ะ

มนัส ชุมทางหนังไทยในอดีต

หนูเกิดไม่ทัน แต่ก็ยังได้ยินคนพูดถึงคุณมิตร ชัยบัญชาว่าเขาเป็นพระเอกอันดับ1ของไทย ก็เลยเข้าไปดูหนังเก่าของเขาและได้อ่านประวัติว่าเขาเป็นคนมีน้ำใจมาก เลยทำให้หนูศรัทธาและเข้าใจว่าทำไมถึงยังมีคนยังรักและรำลึกคุณมิตรอยู่เสอม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท