หลายครั้งที่ชีวิตพบกับปัญหาต่างๆที่เข้ามารุมเร้า และทุกครั้งเราก็ได้กำลังใจจากคนที่รักเรา ทำให้เรามีแรงและกำลังที่จะลุกขึ้นสู้ ก้าวเดินต่อไป
ยอมรับว่าเคยมีหลายครั้งเหมือนกันที่คิดอยากหยุดทุกอย่าง อย่างหนีปัญหา ไม่อยากเผชิญกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่เกิดความคิดนี้ขึ้นมา มีภาพหนึ่งที่ลอยมาหาเรา คือ "พ่อกับแม่" คนที่ให้ชีวิตและลมหายใจเรา คนที่รักเรามากกว่าชีวิตของตัวเอง
เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าเราทำร้ายตัวเองได้ไหม?...คำตอบ...คือ...เราทำได้ แล้วเราจะทำร้ายหัวใจของพ่อกับแม่ได้ไหม? พอคำถามนี้มันเกิดขึ้น ความรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง และความรู้สึกเหล่านั้นมันจะหายไปในทันที เพราะเราคงทำอย่างนั้นไม่ได้ หนึ่งชีวิตของเราเกิดมาจากความรักของสองชีวิต หากเราทำร้ายหนึ่งชีวิตคือตัวเรา เท่ากับเราทำร้ายชีวิตอีกสองชีวิต
ทุกครั้งที่มองย้อนกลับไป เราดีใจที่เราผ่านความรู้สึกแบบนั้นมาได้ ดีใจที่เรามีคนรอบข้างที่ดี คอยเป็นกำลังใจให้เราอยู่ตลอดเวลา ทุกรอยยิ้มที่เราได้รับ มันทำให้มีกำลังใจสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น มีแรงและมีความหวังในการใช้ชีวิต มองเห็นวันพรุ่งนี้ เพราะที่ผ่านมาเราเคยแต่ยิ้มให้คนอื่น แต่เรากลับไม่เคยยิ้มให้ตัวเองเลย เราจึงไม่เคยได้สัมผัสความสวยงาม และเสนห์ของรอยยิ้มเหล่านั้นเลย
วันนี้เราได้ลองหัดยิ้มให้ตัวเองแล้ว มันทำให้ได้รับรู้ว่ากำลังใจที่ดีที่สุดในชีวิต ต้องมาจากตัวของเราเอง เพียงแค่เราลองยิ้มให้ตัวของตัวเอง เราก็มีแรงและกำลังใจที่จะสรรค์สร้างสิ่งต่างๆได้อีกมากมาย ปัญหาทุกปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต เราก็พร้อมที่จะเผชิญ พร้อมที่จะก้าวผ่านมันไปด้วยความหวัง
"ไม่ว่าชีวิตจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะก้าวผ่านมันไปด้วยหนึ่งรอยยิ้มกับสองความรัก"
ถ้าไม่อยากให้ใครเห็นว่าอ่อนแอ ก็อย่าให้ใครเห็นน้ำตา
คนที่แย่คนที่ลำบากคนที่ทุกข์กว่าเรายังมีอีกเยอะนะคะ มองคนที่แย่กว่าเอาไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเองนะ อย่าเครียดอย่าท้อนะ เป็นกำลังใจให้
สู้เพื่อแม่คร๊าบบบบ
เป็นกำลังใจให้น้องแมวเสมอนะคะ
บางทีชีวิตคนเราก็ยากที่จะหาเหตุผลมาอธิบายบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นได้ แล้วจะทุกข์ไปทำไม ในเมื่อหาเหตุไม่ได้ว่าทำไมปัญหาจึงเกิด ก็จำต้องยอมรับในปัจจุบันที่เป็นอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เราเลือกที่จะทำอย่างไร
"อยู่กับปัจจุบันดีที่สุด อดีตไม่ต้องสน อนาคตไม่ต้องคิดในเมื่อวันนี้ยังดีอยู่"
นี่เป็นสิ่งที่อยากบอกแมว คนเราเกิดมาเพื่อความทุกข์นะ ทุกข์มาก ทุกข์น้อยก็แตกต่างกันไป คุณค่าอยู่ที่เราจะสามารถกล้าเผชิญความทุกข์ และจัดการกับความทุกข์นั้นอย่างไรต่างหาก แต่ละคนก็มีวิธีเผชิญหน้ากับปัญาของตนเอง
อยากบอกว่า รู้สึกนับถือกับหัวใจของเธอมาก เพราะหัวใจที่เข็มแข็งเท่านั้นที่จะสามารถยืนหยัดสู้กับความทุกข์ได้ และนำมาซึ่งทัศนคติการมองโลกในแง่ที่ดีอยู่เสมอ พร้อมที่จะ "ยิ้มให้กับตัวเอง...ในวันที่ใจมันอ่อนล้า"
กำลังใจจากคนอื่น ก็ไม่เท่ากำลังใจของตนเอง...
รูปของผู้เชียน ภาพพื้นหลังน่ารักเชียว อิอิ แต่ขอให้ผู้เขียนรู้ไว้บนโลกใบนี้ เราไม่ได้เดินอยู่คนเดียวลำพัง เรายังมีอีกหลายคนที่เค้าอยู่เคียงข้างเราและให้กำลังใจ นั่นก็คือ พ่อกับแม่ และคนที่รักเรา
ขอเป็นอีกหนึ่งแรงใจ......
สู้ๆๆนะจ๊ะ.... เจอกันเปิดเทอมนะ
"ไม่ว่าชีวิตจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะก้าวผ่านมันไปด้วยหนึ่งรอยยิ้มกับสองความรัก"
ชอบประโยคนี้มากๆๆๆๆๆ คับ
ถึง น้องแมว....
เมื่อชีวิตเกิดมาเพื่อต่อสู้...พี่อยากเล่าชีวิตที่ต้องสู้เพื่อเป็นครูที่ก้าวเดิน...ให้น้องแมวดูเป็นตัวอย่าง
*****ปลายปี 48 อาจารย์ท่านหนึ่งพบอุบัติเหตุแขนหัก การรักษาครั้งนั้นทำให้ท่านทราบว่าท่านป่วยเป็นมะเร็งในกระดูก แพทย์เรี่ยก MM ทำให้ท่านทราบว่านี่คือสาเหตุของกระดูกข้อสันหลังท่านหายไป 2 ข้อประมาณ 8 เซ็นต์ ท่านต้องทำ คีโมเพื่อรักษามะเร็งนั้น ต่อมาหมอบอกท่านว่า ต้องปลูกถ่ายไขกระดูก คงไม่ต้องบอกเรื่องค่ารักษา และไม่รู้ ว่าเวลานั้นความรู้สึกหรือความคิดต่างๆนาๆที่เกิดขึ้นในใจของอาจารย์ท่านนี้จะเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ นอกจากตัวท่านเอง พ.ย. 49 ท่านต้องเจาะคอ เพื่อทำการเก็บ สเต็มเซลล์ในการปลูกถ่ายไขกระดูก เวลานั้น ภูมิต้านทานในร่างกายท่านเป็น 0 นับว่าเสี่ยงมากเมื่อชีวิตไม่มีภูมิต้านทานเลย 5-10 ธ.ค. 49 ท่านพานักศึกษาไปศึกษาดูงานที่ประเทศอียิปต์ ในขณะที่ท่านแค่ปิดแผลที่เจอะธรรมดา เพราะท่านต้องใช้แผลนั้นในการปลูกถ่ายไขสันหลังต่อไป การเดินทางไปอียิปต์ ท่านต้องนั่งเครื่องนาน ต้องน้งรถตะลุยทะเลทรายนาน หลายคนบอกท่านว่า ท่านป่วยอยู่ท่านไม่ไปไม่มีใครว่าท่านหรอก ท่านตอบว่าไม่ได้ ท่านมีพันธสัญญา ม.ค. 50 ท่านต้องเข้า รพ.เพื่อปลูกถ่านไขกระดูก ต้องใช้เวลา 3อาทิตย์ เพื่อการรักษาและดูผลข้างเคียง ท่านไม่มีลูกคอยดูแล สามีท่านสุขภาพไม่แข็งแรงต้องมีคนคอยดูเลยอยู่ที่บ้าน เวลานั้นความรู้สึกของท่านจะเป็นเช่นไร.....ไม่มีใครตอบแทนท่านได้ ระหว่างรอการปลูกถ่ายไขกระดูกนั้น พี่เฝ้าถามพยาบาล ว่าจะมีอาการอย่างไรบ้าง จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ใช้เวลานานเท่าใด พยาบาลตอบ ว่าไม่ทราบตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับร่างกายท่านจะรับไขกระดูกท่านที่จะใส่เข้าไปได้หรือไม่ ถ้าร่างกายรับก็ไม่นาน ถ้าไม่รับก็ .....ไม่มีคำตอบ ขณะที่ทำการปลูกถ่ายพี่เฝ้าภาวนาให้ไขกระดูกที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายท่านขอให้ร่างกายท่านรับได้ ขอให้มันผ่านไปด้วยดี เวลานั้นพี่ถามท่านว่า เป็นอย่างไร ท่านตอบว่า ไม่เป็นไรมีผลข้างเคียงบ้าง แต่สีหน้าที่กังวนลึกๆในใจและพี่บอกไม่ได้ ว่าท่านคิดอะไรอยู่ ในเวลาของชีวิตที่ต้องเสี่ยงในขณะนั้น แต่สิ่งที่พี่เห็นและอยากบอกน้องแมวคือ ความเข็มแข็ง ความเด็จเดี่ยวของจิตใจ ที่ท่านต้องต่อสู้กับโครภัยที่เป็นอยู่ 2-3 อาทิตย์ที่ต้องอยู่ รพ.ช่างเป็นเวลาที่ยาวนานมากเพราะต้องรอดูว่าการปลูกถ่ายไขกระดูกจะสำเร็จหรือไม่ พร้อมกับร่างกายท่านต้องต่อสู้กับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น พี่สงสารท่านมากท่านอายุมากแล้วท่านทนกับมันได้อย่างไร จิตใจที่เข็มแข็งเท่านั้นที่ทำให้สู้ได้ เพราะอัตราเสี่ยงสูง เคยมีผู้ชายร่างกายแข็งแรง อายุน้อยกว่าท่านทนไม่ไหว ต้องเข้า ICUก็มี แต่โชคดี ทุกอย่างผล พ้นมาได้ ด้วยจิตใจที่เข็มแข็งเพื่อต่อสู้อย่างอดทนของท่าน ปัจจุบัน ท่านต้องทานยาเม็ดละ 680 บาท วันละ 2 เม็ด ฉีดยา 6 เดือนต่อเข็ม เข็มละ 2-3 หมื่นบาท ขอให้น้องแมวดูท่านนี้เป็นตัวอย่าง และ ในปีการศึกษา 50 เทอม 2 น้องแมวจะได้เรียนกับท่าน และท่านได้ไปร่วมงานรับน้องใหม่ที่น้องแมวไปด้วย ท่านคือ อาจารย์สุนีย์ กาจศ์จำรูญ แล้วน้องแมวจะได้พบกับท่าน แล้วคุยกับท่านดูนะคะ ว่าท่านต่อสู้และผ่านพ้นมาได้อย่างไร
พี่ฝน นศ. บร.ม.ราม รุ่น13
สวัสดีค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าท้อแท้ค่ะ คิดทุกอย่างให้เป็นบวก อย่าคิดอะไรมากไปค่ะ
เวลาเซ็งๆ พี่ไม่รู้จะทำอะไร เลยลองทำให้ตัวเอง ว่างเปล่า ทำเหมือนตัวเองเป็น ปุยนุ่น แต่ไม่ล่อยลอยไปไหนนะ คิคิ
หยุดคิด หยุดทำทุกอย่าง เอนหลัง นั่งสบายๆ ในที่ที่เราชอบ คนเดียว สูดหายใจเข้า-ออก ลึกๆๆๆๆๆ มากๆ ซักพัก กลอกตาไปมา อ้าปากกว้างๆ แล้วก็ขำตัวเอง หัวเราะดังๆ เออ ช่วยได้เยอะ
เอ๊อ..! ทำแล้ว ดีจัง เลยทำอีก บ่อยๆ เดี๊ยวนี้เลยดีขึ้นมากแล้ว และเป็นอย่างที่แมวเห็นพี่นั่นแหละ ก็สดชื่นขึ้นมากหน่ะนะ
สู้ๆๆสู้กับ "ตัวเอง" ก่อนโดยวิธี "บอกรักตัวเองบ่อยๆ --> แสดงความรัก ให้ตัวเอง ด้วยอาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย ประมาณเนี๊ย เดี๊ยวดีเอง
ทั้งเลือดเนื้อและชีวิต ดูเหมือนจะเป็นของเรา เหมือนว่าเราจะทำอย่างไรต่อมันก็ได้
แต่... ไม่ใช่
ทั้งเลือดเนื้อและชีวิตนี้ เป็นของคนสองคนและเขาให้เรามา ก่อนจะทำอะไรต่อมัน คิดถึงคนสองคนนั้นก่อน...เน้อครับ.
เคยได้ยินมาและขอบอกต่อ
"ยกมือขวาขึ้นแล้วโยกไปตบไหล่ซ้ายของตนเองเบา ๆ แล้วพูดว่า "ฉัน(กู)จะเป็นกำลังใจให้เธอ(มึง)ตลอดไป"
คิดก่อนพูด พูดแล้วทำ ทำหลังคิด / คิดก่อนทำ ทำแล้วพูด พูดหลังคิด (ในหลวง)