AAR การประชุมวิชาการรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 6 (3)
ผมได้ลงบันทึกเรื่องนี้ไปแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 (click), ครั้งที่ 2 (click) บันทึกนี้เป็นครั้งที่ 3 และเป็นตอนจบ โดยจะเล่าเรื่องการนำเสนอผลงานทางวิชาการในหัวข้อเกี่ยวกับ "โลก รัฐ ท้องถิ่น ในศตวรรษที่ 21 : การบริหารจัดการในยุคสังคมฐานความรู้" โดยมีบทบาทนำเสนอตามห้วข้อที่ได้เล่าแล้ว (click)
ผศ. ไพรัช ตระการศิรินันท์ เป็นประธานการประชุมในห้องนี้ ซึ่งตามกำหนดการเป็นช่วงเวลา 15.00 - 16.30 น. แต่เอาเข้าจริงการประชุมเลิกเวลา 17.50 น.
- ในภาพใหญ่และเชิงสาระ
ผลงานวิชาการทั้ง 3 หัวข้อเป็นหัวข้อที่ดีมาก ทั้ง 3
หัวข้อนำไปสู่ประเด็นเชิงนโยบายสาธารณะ ว่าด้วย (1)
ศาสตร์ด้านการศึกษานโยบายสาธารณะ อันได้แก่ Policy
Network Analysis, Historical Institutionalism และอื่น
ๆ (2)
นโยบายสาธารณะว่าด้วยการศึกษาระดับอุดมศึกษาของคนไทยมุสลิม 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ (3)
นโยบายสาธารณะว่าด้วยบทบาทของภาครัฐในการสนับสนุนธุรกิจชุมชน
- ผลงานวิชาการทั้ง 3 หัวข้อ
ได้ข้อสรุปที่ดี เป็นประโยชน์
เป็นความรู้ที่ดีในระดับที่เรียกว่า "ความรู้ทั่วไป"
แต่เมื่อเอาประเด็นของความแม่นยำทางวิชาการมาจับ ทั้ง 3
เรื่องมีจุดอ่อนคล้าย ๆ กัน คืออ่อนด้าน methodology
ที่จะทำให้ข้อสรุปมีหลักฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือสนับสนุน
-
เรื่องโรงสีชุมชนที่เป็นวิทยานิพนธ์ของคุณสุนัย จุลพงศธร
มีข้อสรุป 7 ข้อและข้อเสนอแนะ 6 ข้อที่ชัดเจนงดงามมาก
และรัฐบาลควรเอาไปใช้ประโยชน์เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผลงานของรัฐบาลและต่อชาวบ้าน/ชุมชน
แต่มีข้อแปลก 2 ข้อ
(1)
คุณสุนัยบอกว่าตนเองไม่กล้าเสนอเรื่องนี้ในพรรคไทยรักไทย
ฟังดูแปลก ๆ นะครับ
(2)
ข้อสรุปกับหลักฐานสนับสนุนไม่เชื่อมกัน
คือต่างส่วนต่างอยู่ ซึ่งแปลกมาก
ผมเดาว่าเป็นการสังเคราะห์ด้วยความชำนาญในฐานะนักการเมือง
แต่พอเอามาแยกแยะขั้นตอนทางวิชาการก็จะรู้สึกว่ายังหลวมมาก
คุณสุนัย จุลพงศธร รศ. ศรุติ สกุลรัตน์
- รศ. ศรุติ สกุลรัตน์ ผอ.
วิทยาลัยบริหารรัฐกิจ ม.บูรพา ([email protected]) และ อ.
รชตะ จันทร์น้อย
ทีมงานวิจัยได้อ่านคำวิจารณ์ของผมแล้ว
จึงเตรียมเอกสารผลงานวิจัยฉบับเต็มเรื่อง
"การศึกษาต่อต่างประเทศของนักศึกษาไทยมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้"
มามอบให้ผม 1 ชุด (ขอขอบคุณมากครับ)
และบอกว่าโครงการนี้มีเวลาวิจัยสั้นมาก ผมจำได้ไม่ชัดว่า
3 เดือนหรือกี่เดือน และทุนวิจัยก็น้อยมาก
ผมขอแนะนำให้ทีมวิจัยกลับไปหากระทรวงการต่างประเทศเจ้าของทุนเจ้าเดิม
เพื่อขายความคิดว่าควรขยายโครงการออกไปตอบคำถามอะไรบ้างในเชิงนโยบาย
ผศ. ไพรัช ตระการศิรินนท์ (กลาง), ผศ. ธันยวัฒน์ รัตนสัค (ขวา),
และ อ. รชตะ จันทร์น้อย (ขวา)
นอกจากเล่าเรื่องการเสนอผลงานด้านการบริหารจัดการในยุคสังคมฐานความรู้แล้ว ขอบันทึกนำเสนอแนวคิดวิธีการจัดการการประชุมวิชาการแบบนี้ในภาพรวม ซึ่งผมได้เสนอเป็นการส่วนตัวต่อ ศ. ดร. ติน ปรัชญพฤทธิ์ และ ศ. ดร. ศุภชัย ยาวะประภาษแล้ว คือ (1) ควรจะใช้นักศึกษาระดับปริญญาเอก - โท ที่ทำวิจัยเพื่อวิทยานิพนธ์มาเป็นตัวชูโรง (2) ใช้บล็อกเป็นเครื่องมือให้เกิดการเผยแพร่และ ลปรร. โครงการ/ผลงานวิจัยด้านรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ตลอดปี นำไปสู่การคัดเลือกนักศึกษาที่ได้รับ scholarship เข้านำเสนอผลงานในการประชุมวิชาการ
วิธีการคือ เปิดชุมชนบล็อก "การวิจัยด้านรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์" ขึ้น ให้นักศึกษาเข้าไปเขียนบล็อก ลปรร. กัน และให้อาจารย์เข้าไปให้ความเห็นหรือชักชวนนักศึกษาที่มีหน่วยก้านดีเข้าร่วมทีมวิจัย รวมทั้งให้คณะกรรมการจัดการประชุมวิชาการเข้าไปดูสถานการณ์การวิจัยด้านรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบการคิด theme ของการประชุมแต่ละปี แล้วประกาศให้รู้กันภายในชุมชนบล็อก ประกาศให้ นศ. ส่งบทคัดย่อผลงานของตนความยาวไม่เกิน 5 หน้า เพื่อคัดเลือกให้ scholarship มานำเสนอผลงาน scholarship ควรประกอบด้วย (1) ค่าเดินทาง (2) ค่าที่พักระหว่างประชุม (3) ค่าลงทะเบียน สิ่งที่นักศึกษาจะได้รับคือ (ก) comment จากผู้ฟังและผู้วิพากษ์ (ข) ได้เปิดตัวต่อแวดวงวิชาการ
วิจารณ์ พานิช
9 ธ.ค.48
ไม่มีความเห็น