วันศุกร์ที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุม "ผู้แทนคณะทำงานสวัสดิการชุมชนภาคใต้" จัดขึ้นที่สถานีอนามัยควนสวรรค์ ต.นาแว อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช เพี่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนที่ชุมชนเป็นแกนหลัก จัดโดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) สำนักงานปฏิบัติการภาคใต้ วันนี้ชาวบ้านมาประชุมกันคับคั่งเต็มห้องประชุมอนามัยเลยก็ว่าได้ บรรยากาศช่วงเช้าฝนตกพอประมาณเป็นอุปสรรคการเดินทางนิดหน่อย ทำให้กว่าจะเดินทางไปถึงและเริ่มการประชุมก็สายเล็กน้อย เมื่อไปถึงแล้วก็เริ่มการประชุมกันทันที เริ่มต้นการประชุมด้วยประเด็นความเข้าใจของชาวบ้านที่มาร่วมการประชุมวันนั้น ณ ปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการทำงานกลุ่มมากันบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีความเข้าใจในความหมายที่แตกต่างออกไป บ้างว่า
สวัสดิการสังคมคือ
-ภูมิคุ้มกัน/หลักประกันในทุกกรณี ซึ่งจะต้องมีความเทียมกัน
- คือการช่วยเหลือ เด็ก ผู้ด้อยโอกาส คนชรา คนพิการ
- คือการช่วยเหลือกัน สามารถพึ่งตนเองได้ ได้จากการรวมทุนกันในชุมชน
-คือตัวเติมเต็มสิ่งที่ยังขาดแคลนเช่น ปัจจัย 4
ซึ่งความหมายของคำว่าสวัสดิการสังคม(จากเอกสารประกอบการประชุมการขับเคลื่อนงานสวัสดิการสังคมของ พม. โดยสนง.คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ สนง.ปลัดกระทรวง พม.)หมายความว่า ระบบจัดบริการทางสังคม เกี่ยวกับการป้องกัน การแก้ไขปัญหา การพัฒนาและการส่งเสริมความมั่นคงทางสังคม ตอบสนองความจำเป็นขั้นพื้นฐานของประชาชน มีคุณภาพชีวิตและพึ่งตนเองได้ทั่วถึง เหมาะสม เป็นธรรมตามมาตรฐาน ทั้งทางด้านการศึกษา สุขภาพอนามัย ที่อยู่อาศัย การทำงานและการมีรายได้ นันทนาการ กระบวนการยุติธรรมและบริการทางสังคมทั่วไป โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิที่ประชาชนต้องได้รับ และมีส่วนร่วมในการจัดสวัสดิการสังคมทุกระดับ
โดยผู้รับสวัสดิการจะต้องมีการรวมทุน มีการสร้างการออม มีการช่วยเหลือกัน(ข้อนี้ต้องให้ความสำคัญมาก เพราะผลสำเร็จไม่ได้หมายถึงจำนวนเงินเพียงอย่างเดียว) และพึ่งตนเองได้ แทนที่จะมอบให้เป็นภาระของรัฐแต่เพียงผู้เดียว
ซึ่งการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการตำบลจะต้องมีกฎเกณฑ์ดังนี้
1.เป็นกองทุนที่มาจาก 2 หมู่บ้านขึ้นไป
2.ต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 100 คน
3.ต้องมีพื้นฐานมาจากองค์กรการเงินชุมชน
4.มีคณะกรรมการกองทุนที่มาจากหลายหมู่บ้าน
5.มีการสมทบ และให้การสนับสนุนจากอบต.
6.ต้องตั้งมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ภายใต้หลักการสำคัญของการจัดสวัสดิการชุมชนก็คือ
1.การจัดสวัสดิการชุมชนต้องมีความสอดคล้องกันในแต่ละพื้นที่ ลอกเลียนกันไม่ได้
2.การเริ่มต้นนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป คนในชุมชนต้องทำใจและมีความพร้อม รู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน
3.ควรใช้เงินเป็นเครื่องมือไม่ใช่เป้าหมาย โดยใช้เงินเป็นเครื่องมือให้คนอยากทำความดี สร้างความคิดในการช่วยเหลือกันและกัน
4.การจัดสวัสดิการต้องช่วยเหลือแบบไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในชุมชน โดยการสร้างข้อตกลงร่วมกัน ผ่านกฎระเบียบ กติกา
5.กิจกรรมทุกอย่างสามารถก่อให้เกิดสวัสดิการชุมชนได้อย่างเป็นองค์รวม
6.การจัดสวัสดิการต้องทำให้เกิดระบบการเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ
7.การจัดสวัสดิการชุมชนต้องทำด้วยความรัก อดทนและเสียสละ
ซึ่งในช่วงบ่ายก็ได้มีการนำเสนอตัวอย่างตำบลที่ได้จัดตั้งกองทุนสวัสดิการตำบลไปแล้วหลายตำบลมีที่ไปที่มาที่น่าสนใจมากๆ จะเอามาเล่าให้ฟังในวันพรุ่งนี้ละกันนะคะ
ไม่มีความเห็น