ขวบเดือนที่หายไป


การเขียนบันทึกนั้นต้องอาศัยเรื่องของอารมณ์ขณะนั้นมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะถ้าผู้เล่ามีความสุขและรู้สึกว่าอยากแบ่งปันแล้วละก็สามารถเขียนเล่าอะไรออกมาได้อย่างน่าสนใจ

หายหน้าไปจากการเขียนบันทึกไปหลายวันทั้งๆ ที่ตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าจะเขียนให้บ่อยเท่าที่จะเขียนได้เพื่อเป็นการฝึกตัวเองด้วย แต่ทว่าช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาไม่ได้เขียนเลยแม้แต่วันเดียวเพราะว่างานที่ทำส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของการประสานงาน ติดต่อเพื่อเตรียมการประชุม วันที่ 11 เมษายน 2550 (จะว่าไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจที่จะเอามาเขียนก็ไม่เชิง) ก็เลยอยากเขียนเพื่อเป็นการสรุปเลยละกันว่าทั้งเดือนเมษายนได้ทำอะไรไปบ้าง

ดยเฉพาะช่วงต้นเดือน เพราะว่าไม่เคยจัดการประชุมที่มีลักษณะเป็นทางการอย่างนี้มาก่อนเลย ความประหม่าและข้อบกพร่องจึงเกิดขึ้นพอควรถึงแม้ว่างานบางส่วนจะมีคนช่วยรับผิดชอบบ้างแล้วแต่ก็ยังรู้สึกอดกังวลไม่ได้จนกว่าการประชุมจะมาถึงและที่สุดแล้วก็สามารถผ่านการประชุมมาได้ด้วยดี (ขอประเมินว่าดีละกันนะคะ) แม้ว่าจะแทบไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเลยเพราะต้องคอยแก้ดูแลอำนวยความสะดวกหลายๆ อย่างแก่ผู้เข้าร่วมการประชุมแต่ทว่าพอผ่านการประชุมมาได้สักระยะหนึ่งก็ได้ฟังบันทึกเสียงการประชุมแล้วถอดออกมาเป็นข้อความก็เสมือนว่าได้ร่วมฟังอยู่ด้วยเหมือนกันถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นหน้าผู้พูดก็ตาม ซึ่งการถอดบันทึกเสียงลักษณะอย่างนี้ก็ค่อนข้างยากอยู่เหมือนกันเพราะมีผู้พูดหลายคนและบางท่านก็ยังไม่เคยรู้จักมาก่อนและที่สำคัญคือทักษะการพิมพ์ที่ค่อนข้างไปทางช้า(มาก..ทีเดียว ทำให้นึกย้อนไปสมัยเป็นนักเรียน ว่าทำไมถึงไม่ได้เลือกเรียนพิมพ์ดีดสัมผัสไว้บ้างเลย) และประกอบกับต้องทำงานอย่างอื่นควบคู่ไปด้วยงานถอดบันทึกเสียงการประชุมจึงยังไม่เสร็จสมบูรณ์(ซ้ากกะที. ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ) ฟังๆแล้วเหมือนเป็นการแก้ตัวเลยนะค่ะ แต่ทว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริงสามารถตรวจสอบได้ค่ะ

 และช่วงเดือนที่ผ่านมานี่เองทำให้ค้นพบอะไรอีกอย่าง เพราะมีอยู่วันหนึ่งที่ตั้งใจจะเขียนบันทึกพยามแบ่งเวลาจากการถอดเสียงการประชุม(เพราะเริ่มรู้สึกว่าล้ากับการถอดเสียงการประชุมเต็มทีแล้ว)แต่ทว่ากลับเขียนมันไม่ได้ จนมาวันนี้ที่มาเขียนซึ่งมันพรั่งพรูออกมาเอง ก็เลยสรุปเอาได้ว่าเป็นเพราะช่วงนั้นตัวเองคงหมกหมุ่น(ขอใช้คำว่าหมกหมุ่นเพราะทุ่มกายทุ่มใจให้เต็มที่แล้วจริงๆ)อยู่กับการทำบัญชีที่ไม่ลงตัว ทำอยู่นานหลายวันเข้าจนเกิดอาการเครียด(บางครั้งก็ท้อใจจนอยากจะเลิกทำไปเลย เพราะไม่ถนัดเรื่องตัวเลขจริงๆ)จนในที่สุดก็หาจุดบกพร่องเจอและสามารถสรุปตัวเลขที่สอดคล้องออกมาได้(ดีใจที่สุดในช่วงเดือนเมษายนก็ว่าได้) เป็นต้นว่าการเขียนบันทึกนั้นต้องอาศัยเรื่องของอารมณ์ขณะนั้นมาเกี่ยวข้องด้วย เพราะถ้าผู้เล่ามีความสุขและรู้สึกว่าอยากแบ่งปันแล้วละก็สามารถเขียนเล่าอะไรออกมาได้อย่างน่าสนใจ(หมายถึงหลายบันทึกที่เคยอ่านมาก่อนหน้านี้) และผู้อ่านก็เข้าถึงอารมรณ์ร่วมได้เป็นอย่างดีอย่างเช่นที่เคยอ่านบันทึกของใครหลายๆคน จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสบายๆเป็นส่วนใหญ่ แบบว่าอารมณ์ศิลปินอะไรประมาณนั้นนั่นเอง มากกว่าการเขียนที่ต้องทำเพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องเขียนซึ่งพอเวลาอ่านแล้วจะให้ความรู้สึกต่างกัน และในวันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมาก็ได้เข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการชุมชน ซึ่งก็มีอะไรน่าสนใจมากมายแต่จะขอเล่าในอีก หัวข้อนึงละกันนะคะ
หมายเลขบันทึก: 94934เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2007 10:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท