หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านพ้นมา ฝนตกทุกวัน
บ้างก็บ่นว่าไปไหนมาไหนลำบาก บ้างก็ว่าเสื้อผ้าที่ตากเกอาไว้ไม่แห้งเหม็นอับหมดแล้ว บ้างก็ว่าจะไปทำธุระต่างจังหวัดก็เกรงเกิดอันตราย บ้างก็เตือนกันให้ระวังโรคภัยที่จะมากับฝน "อย่าออกไปตากฝนนะ จะเป็นหวัด" "เปียกฝนมายังงี้ไปอาบน้ำสระผมซะ เดี๋ยวเป็นหวัด"
อีกฟากหนึ่งของเมือง คือบ้านนอก(ก็แค่นอกเมืองออกไป4-50กม.) ผู้คนพื้นถิ่นส่วนใหญ่ยังคงมีอาชีพทำนา ผู้คนแถบนั้นกลับยินดี ยิ้มแย้มที่มีฝน ยิ่งถ้ามีฟ้าผ่าเปรี้ยงๆด้วยก็ยิ่งดีใจเพราะจะได้ออกไปจับปลาเกลือก ก็คือปลาที่มันโดดขึ้นมาจากแหล่งน้ำเก่า จะไปหาแหล่งน้ำใหม่เพื่อวางไข ส่วนใหญ่เป็นปลาหมอ ปลาช่อน ถ้าพ้นจากฝนเดือนหกนี้ปลาเกลือกก็จะไม่ขึ้นแล้ว นอกจากเรื่องปลาชาวนาก็จะดีใจที่ไม่ต้องสูบน้ำเข้านาให้เปลืองน้ำมัน ยิ่งตอนนี้น้ำมันแพงขึ้นมาอีก น้ำฝนจึงป็นดั่งชีวิต ต้นข้าวที่ได้รับน้ำฝนก็จะเจริญงอกงาม เขียวขจี ใบเรียวยาวเป็นเงางาม เวลาลมพัดมาใบก็จะพริ้วไหวไปตามระลอกลม
บ้านลุงสุกอยู่ริมคลองเงียบสงบ ทุกเช้ามีนก กา มาส่งเสียงร้องเพลงบ้าง ทะเลาะกันบ้าง สายหน่อยมีฝูงวัวควายเดินผ่านไปกินหญ้าในทุ่งไม่ห่างจากบ้านนัก ถนนที่วัวควายเคยเดินอยู่หลายปี แปรสภาพเป็นถนนลูกรังดินแดง เมื่อสอง สามปีก่อน รถลา ก็เริ่มมีมาวิ่งให้พลุกพล่านกว่าแต่ก่อนที่เป็นถนนดิน ใช้วิ่งได้เฉพาะหน้าแล้ง พออยู่ๆมาอีกไม่กี่ปีจากถนนดินแดงมาเป็นถนนลาดยางอีกแล้ว รถยนต์ มอไซ วิ่งขวักไขว่มากขึ้น แถมยังขับเร็วอีกด้วย วันนึง ขี่จักรยานจะออกไปดูน้ำในคลองว่าสูงมากน้อยแค่ไหน พอถึงปากทางรถจักรยานล้ม หัวเข่าถลอกนิดหน่อย ขณะที่รถล้มไปแล้วนั้น มีรถกระบะวิ่งฉิวเฉี่ยวผ่านหน้าไป ถ้ารถไม่ล้มเสียก่อนคงจะโดนชนแน่ๆเลย ยิ่งตอนนี้สายตาไม่ค่อยดี(ไม่รู้ว่าเป็นต้อกระจกหรือต้อเนื้ออะไรทำนองนี้แหละ ไม่กล้าไปหาหมอ เพราะเห็นหมอชอบดุคนแก่) ตาพร่ากว่าก่อนมาก เหมือนกับโฟกัสมันไม่มี
ความเจริญวัดถุมากร้ำกรายมากขึ้น ความเสื่อมถอยทางคุณธรรมก็ลดน้อยลง ความมีน้ำใจ เอื้ออารี จางหายไปทุกวันๆ ความเห็นแก่ตนทวีขึ้น
ผู้เจริญทั้งหลาย จงเจริญด้วย ไตรลักษณ์เถิด
อนิจจัง ความเจริญ ความมั่งมี ความสุข มันมีมาแล้วมันก็ไปจากเรา
ทุกขัง ยากดีมีจนกันสักปานใด ก็ดิ้นรนขนขวาย ตะเกียกตะกายหาทรัพย์ ลาภ ยศ สรรเสริญ พอเสื่อมทรัพย์ ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็ทุกข์ ร้อนเร่า ดิ้นรนปกป้องมันไม่อยากให้มันจากไป
อนัตตา รักที่ทุกคนปรารถนา ชังที่ทุกคนหลบเลี่ยง ทั้งสองอย่างมันไม่มีตัวตน ใจใครกำลังถวิลหาสิ่งใด พอสบพบเจอที่ถูกตรงกับใจ ก็บอกว่านั่นแหละรัก นี่และชัง
๐ เราก็ยังเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆนี่เองมี รัก โลภ โกรธ หลง เพียงแต่เราเลือกเดินในสายกลางๆ ที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทา อีกอย่างเราไม่ใช่ตัวหมากรุกหมากฮอสที่ใครเขาจะมาจับตัววางตรงไหน ที่ไหนตามแต่ใจเขา ๐
สาธุครับคุณลุง
ธรรมะสวัสดีครับ
แวะมาสวัสดีครับคุณลุง จะตามมาอ่านเรื่อยๆครับ